ผู้เขียน | พรรณราย เรือนอินทร์ |
---|
ตระการตา‘สระจระเข้’
เหนืออันซีนคือประวัติศาสตร์
เหนือกาลเวลา ณ วัดโพธิ์
“ระหว่างหอสมุด (หอไตร) และศาลาการเปรียญมีบ่อน้ำเล็กๆ
ภายในมีปลาจำนวนมาก และมีจระเข้หนึ่งตัว มีเหล่าพระสงฆ์คอยดูแล…”
คือข้อความส่วนหนึ่งจาก Journal of an ambassy from the governor-general of India to the Courts of Siam and Cochin China ของ จอห์น
ครอฟอร์ด (John Crawfurd) หรือนายการะฝัด ทูตอังกฤษผู้รอนแรมเข้ามาพำนักในสยามเมื่อครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์
บันทึกการมีอยู่ของสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกกันต่อมาว่า ‘สระจระเข้’ ในรั้ววัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ

ฉายภาพให้เห็นสระจระเข้ในแผ่นดินพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกของเขตพุทธาวาส ระหว่างพระมณฑป (หอไตรจตุรมุข) กับศาลาการเปรียญ ว่าเป็นเพียงสระน้ำ
กระทั่งล่วงมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีการสร้างสถาปัตยกรรมพร้อมด้วยการรังสรรค์ศิลปกรรมเพิ่มเติม
ดังปรากฏใน จดหมายเหตุเรื่องการปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพน ถอดจากโคลงดั้นพระนิพนธ์กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส ความตอนหนึ่งว่า
‘สระเดิมอยู่ในลานการเปรียญ ทำคราวนี้ให้กั้นกำแพงเป็นเขตต์หนึ่งต่างหาก และทำภูเขาทั้งขอบสระและในสระ สร้างตึกทรงฝรั่งหลัง 1 ทางทิศตะวันออก เพดานพื้นแดงเขียนกนกเครือฝรั่ง ผนังเขียนภาพฝรั่ง 13 ห้าง พื้นในประธานและเฉลียงปูหินสุโขทัย กำแพงแก้วล้อมสระเป็นสายบัวกรุกระเบื้องปรุเคลือบเขียวทั้ง 4 ด้าน เม็ดมุมกำแพงตั้งรูปวานรหินเขียวทั้ง 4 มุม มีประตู 3 ประตู ซุ้มเป็นอย่างหลังคาตึกฝรั่ง บานประตูเขียนรูปฝรั่งสีน้ำมันคู่หนึ่งๆ ทั้ง 3 ประตู
นอกประตูทิศเหนือ ทิศใต้ ตั้งรูปสิงโตจีนหินสลักประตูละคู่ แต่ประตูด้านตะวันตกตั้งแท่นหินเขียนลดเป็น 3 ชั้นข้างละแท่น’
สำหรับ ‘นายด้าน’ ผู้ทำการต่างๆ ปรากฏหลักฐานว่า กรมหมื่นไกรสรวิชิต และ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ทรงกำกับการทั่วไป ส่วนการสร้างสระ เก๋ง สวนต่อ และการเกณฑ์ทั่วไป มี พระองค์เจ้าอรรณพ (กรมหมื่นอุดมรัตนราศี) ทรงกำกับ
นับแต่นั้น สระจระเข้ก็งดงามตระการตา ครั้นทรุดโทรมลงตามกาลเวลาก็มีการบูรณะปฏิสังขรณ์เรื่อยมา

ตัดภาพมายังพุทธศักราช 2567 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ ดำเนินการบูรณะสระจระเข้อีกครั้ง ก่อนเปิดให้สาธุชนคนไทย-เทศเข้าชมอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงกโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ เปิดเผยถึงการบูรณะและเปิดสระจระเข้ให้เป็น ‘อันซีน’ แห่งใหม่ ความว่า
“อาตมภาพได้มาปฏิบัติศาสนกิจและมาเป็นประธานการปฏิบัติธรรมประจำเดือนของวัดพระเชตุพนฯ ณ ศาลาการเปรียญอยู่บ่อยครั้งและเห็นว่าสระจระเข้ ที่อยู่ใกล้เคียงกับบริเวณดังกล่าว ไม่ได้เปิดบริการให้คนเข้าชมมานาน ร่วม 20 ปี จึงอยากจะพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้และจุดเข้าชมของนักท่องเที่ยว
เพราะสระจระเข้แห่งนี้ มีความร่มรื่นและมีเสน่ห์แบบไทยๆ ถ้าได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงขึ้นใหม่ จะเป็นสถานที่ที่น่าสนใจยิ่งนัก
อาตมภาพ จึงได้ปรารภให้ฝ่ายเผยแพร่ของวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งมีพระธรรมวชิรปัญญาจารย์ หรือเจ้าคุณเทียบ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายและมีพระสุธีวชิรปฏิภาณ เป็นรองประธาน ช่วยดำเนินการพัฒนาขึ้นมาใหม่และเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม น่าจะเกิดประโยชน์แก่วัดและผู้เข้าชมเป็นยิ่งนัก
สระจระเข้สวนขนาดใหญ่ปลูกพรรณไม้และไม้ดอกในวรรณคดีอยู่บริเวณกลางวัด มีความร่มรื่น มีสระน้ำและตรงกลางสระมีภูเขาและบันไดเล็กสามารถเดินขึ้นไปได้ บริเวณด้านบนจะมีเจดีย์ขนาดเล็กเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ส่วนบริเวณโดยรอบขอบสระ ปลูกพรรณไม้และไม้ดอกในวรรณคดี ถือเป็นสวนรูปแบบวัฒนธรรมไทยแท้ ที่สามารถนั่งพักผ่อนหรือนั่งชมความงดงามของบรรยากาศโดยรอบในวัดได้”
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการปฏิสังขรณ์และเนรมิตสระจระเข้ให้กลับมาร่มรื่น งดงามตระการตา พระธรรมวชิรปัญญาจารย์ หรือ ‘เจ้าคุณเทียบ’ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ เล่าว่า เมื่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้ปรารภเรื่องการปรับปรุงสระจระเข้ขึ้นมาใหม่ จึงร่วมกับคณะทำงานดำเนินการจนแล้วเสร็จ
“อาตมภาพและคณะทำงาน ที่ได้รับมอบหมายซึ่งประกอบด้วยพระสุธีวชิรปฏิภาณ รองประธานฝ่ายเผยแพร่ พระมหาสิน พระมหานรินทร์ พระมหานพรัตน์และพระมหาวิจิตร จึงได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ภายในสระจระเข้และพื้นที่โดยรอบให้เป็นสวนขนาดใหญ่กลางวัดที่มีความร่มรื่นสามารถนั่งพักผ่อน หรือนั่งชมความงดงามของบรรยากาศโดยรอบได้
ที่สำคัญบริเวณสระจระเข้ จะมองเห็นความงดงามของพระมหาเจดีย์ 4 รัชกาลอย่างชัดเจน ถือเป็น จุด Unseen หรือจุดถ่ายภาพแห่งใหม่กลางวัดที่สวยงามยิ่ง

กลางสระจระเข้มีภูเขาและบันไดเล็กเดินขึ้นไปได้ ข้างบนมีเจดีย์ขนาดเล็กเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนบริเวณโดยรอบขอบสระ ปลูกพรรณไม้และไม้ดอกในวรรณคดี” เจ้าคุณเทียบกล่าว
นับได้ว่าสระจระเข้แห่งนี้ คู่ควรแก่การเดินทางไปเยี่ยมเยือน ดื่มด่ำ และสัมผัสความงดงามลึกซึ้งของศิลปกรรมที่อบอวลกลิ่นอายประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าศตวรรษที่ล่วงผ่านสู่ห้วงเวลาร่วมสมัยได้อย่างทรงคุณค่ายิ่ง

พรรณราย เรือนอินทร์