ผู้เขียน | ชญานินทร์ ภูษาทอง |
---|
ประกาศให้โลกรู้
Aloft Bangkok Sukhumvit 11
‘แตกต่างด้วยดีไซน์’ สีสันใหม่หลังรีโนเวต
ไม่ใช่โรงแรมน้องใหม่ แต่ยังคงความสดใส นำเทรนด์เหนี่ยวใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ สำหรับ Aloft Bangkok Sukhumvit 11 ใจกลางกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงแห่งสีสัน
พร้อมเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวแบบ Fun Fun ชวนให้สนุกสนานไปกับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์แบบไทยๆ ในศักราชใหม่ 2025 ด้วยมาตรฐาน Marriott Bonvoy ที่มีโรงแรมในเครือกว่า 30 แห่ง
และที่นี่คืออลอฟต์แห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดให้บริการมากว่า 12 ปี พร้อมมุ่งสู่ปีที่ 13 บนก้าวใหม่ที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิม ผ่านการรีโนเวตตามแนวคิด Different by design ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง สร้างประสบการณ์ประทับใจไม่รู้ลืม
วอลุ่มของเสียงเพลงใน W XYZ bar ที่สร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างมีพลัง ลวดลายกราฟฟิตี้บนผนัง ไอเท็มชิ้นสวยที่ได้รับอินสปายเรชั่นจากวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์ผสานความเป็นไทยในจุดต่างๆ ล้วนชวนให้จึ้งใจ

ว่าแล้วไปพูดคุยกับ ดวงใจ รุ่งเรืองอารี ผู้จัดการทั่วไป Aloft Bangkok Sukhumvit 11 ที่เน้นย้ำถึงการให้บริการตาม Marriott standard ซึ่งเป็นจุดขายที่แข็งแกร่ง
“เมื่ออยู่ภายใต้องค์กรที่มีคุณภาพ การที่จะให้ลูกค้ามีประสบการณ์กับ Marriott ต้องเริ่มจากพนักงานซึ่งเราไม่ได้มองเขาเป็นแค่พนักงาน แต่เป็น Marriott family ให้ทุกคนเติบโตใน Marriott ในสายงานที่ตัวเองรัก” ดวงใจเผยวิสัยทัศน์ ก่อนเข้าสู่บทสนทนาในหลากประเด็นน่าสนใจ
‘อลอฟต์’ รีโนเวตใหม่
เพิ่มกลุ่มลูกค้า
มุ่งหน้าเติบใตในเอเชียแปซิฟิก
ดวงใจ ให้ข้อมูลว่า Aloft Bangkok Sukhumvit 11 เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว (Select standard) ที่เปิดบริการมาพร้อมความสนุก มีสีสัน แบรนด์ต้องโตขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัย ตีโจทย์ลูกค้าให้ถูกต้อง
“เมื่อก่อนหากใครนึกถึงอลอฟต์ก็ต้องเป็นสีชมพู ตอนนี้เรามิกซ์รวมกันถึง 6 สี เราพยายามคุมโทนสีให้ลงตัวโดยดึงความเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ามาอยู่ภายในโรงแรม ขณะเดียวกันก็นำเรื่องความยั่งยืนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารโรงแรม เพราะอย่าลืมว่า กลุ่มลูกค้าต่างชาติเริ่มมองหา Sustainability (ความยั่งยืน) กันแล้ว
ย้อนกลับไปวันที่เราคิดจะออกแบบใหม่ เรานึกถึง คำว่า Local Connector จะดีไซน์อย่างไรให้ย้อนกลับไปในท้องถิ่นให้ได้ แต่ยังต้องมีความทันสมัย และยังคงเป็นแบรนด์ aloft อยู่ แต่เรามีความโชคดีด้านทำเล เราอยู่ใจกลางสุขุมวิท ผสมผสานวัฒนธรรมความเป็นกรุงเทพฯ เข้ามาอยู่ภายในโรงแรม เลยดึงความสนุกของซอยสุขุมวิท 11 ซึ่งมีความหลากหลายเข้ามาอยู่ในโรงแรมด้วย”
เมื่อถามถึงกลุ่มลูกค้า ได้คำตอบว่า 80% เป็นชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม หลังสถานการณ์ โควิด-19 กลุ่มลูกค้าชาวไทยเติบโตมากขึ้น และเป้าหมายระยะสั้นนับจากนี้ คือการประกาศดังๆ ให้โลกรู้ว่า
“รู้สึกว่าเราเติบโตกับคนไทยมากขึ้น สมัยก่อนคนไทยไม่รู้จักแบรนด์อลอฟต์ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นอเมริกัน เพราะ aloft เกิดจากอเมริกัน ซี่งตลาดที่นั่นก็แข็งแรงมาก ลูกค้าเริ่มตามหาคุณภาพมากขึ้น บางคนยอมจ่ายแพงเพื่อมาเข้าพัก เพราะพักแล้วเขาสบายใจ และคนเรามักมองหาสิ่งใหม่ตลอดเวลา ภายในซอยสุขุมวิท 11 มีร้านอาหารดังๆ เยอะ นักท่องเที่ยวก็เข้ามาสนใจจำนวนมาก ทำให้มองเห็นว่า สุขุมวิท 11 มีความหลากหลายอยู่ในตัว
เป้าหมายของ Aloft Bangkok Sukhumvit 11 ในระยะสั้น อยากให้ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าอลอฟต์พัฒนาและปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ในระยะยาว เราต้องการเติบโตทางธุรกิจให้มากขึ้น กลุ่มลูกค้ามากขึ้น กลุ่มประชุมมากขึ้น เราอยากเติบโตได้หลากหลายแขนงในเอเชียแปซิฟิก”
W XYZ bar ซิกเนเจอร์
สนุกตั้งแต่หน้าประตู
จุดเริ่มบทสนทน“ของทุกเจน
จากภาพกว้างทางธุรกิจ มาเจาะลึกถึงการรีโนเวตในส่วนต่างๆ ที่ชวนตื่นตาตื่นใจด้วยดีไซน์ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ตั้งแต่ล็อบบี้ และบาร์ที่เป็นซิกเนอเจอร์ โดยย้ายจากชั้น 2 ลงมาเสิร์ฟความมันส์ตั้งแต่ชั้น 1
“สำหรับล็อบบี้ เราดีไซน์ในโจทย์ Inspiration by music เพราะต้องการนำวัฒนธรรมและความสนุกสนานมาประกอบกัน จากเดิมเราเคยมีบาร์อยู่ชั้น 2 ตอนนี้ย้ายไปอยู่ชั้น 1 หน้าประตูทางเข้าเลย และทำใหม่หมด เมื่อชูโรงเรื่องความสนุกสนาน ก็เปิดประตูด้วย W XYZ bar ไปเลย
เราคิดว่าบาร์คือสถานที่พบปะสังสรรค์ของคนทุกวัย ต้องตกแต่งด้วยโทนสีสันสดใส แต่แฝงไปด้วยความคลาสสิก เฉลิมฉลองแบบจัดเต็ม ปาร์ตี้แบบฉ่ำๆ เราเอาความเป็นกรุงเทพฯ เข้ามาผสมผสานอยู่ในการออกแบบ ต้องถามว่า ชาวต่างชาติมากรุงเทพฯนึกถึงอะไร คำตอบคือ สายไฟระโยงระยาง จริงๆ แล้วไม่ใช่ช่างเก็บงานไม่หมด แต่เราตั้งใจ เพราะเป็นไอคอนนิคของกรุงเทพมหานคร
ลำโพงใหม่เสียงเพลงต้องกระหึ่ม ขยายให้ใหญ่มากขึ้น เรามีดีไซเนอร์มาออกแบบ Reception ใหม่ นำเอาเทป Cassette มาดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกรูปแบบ ไม่ได้มองกลุ่มตลาดแต่วัยรุ่น แต่รับคนทุกช่วงวัย โดยถือเป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรมเลย เพราะเราเป็นฮับของทุกคน เป็นจุดเริ่มบทสนทนาของทุกๆ วัย
เราออกแบบล็อบบี้ให้เป็น Public Space คอนเซ็ปต์ต้องชัดเจน ทันสมัย สะดวกสบาย และสามารถเชื่อมโยงกันได้ทุกเวลา แต่ไม่ลืมความเป็นกรุงเทพฯ เอานำแผ่นเสียง หูฟัง ผสมเครื่องเป่าไทย ร้อยเรียงเป็นคลื่นเสียงดนตรี และสาดสีเข้าไปให้มีความสนุกในทุกสายตา”
ห้องพักสุด ‘คูล’
ลอฟต์เท่ๆ X ความ (เป็น) ไทยๆ
จากนั้น มาบุกห้องนอนแสนสบายในวิวหลัก (หลาย) ล้าน ให้บริการถึง 298 ห้อง เริ่มต้นที่ขนาด 32 ตารางเมตร มอบบรรยากาศสดใส ดึงไอคอนนิคของกรุงเทพฯ ทั้งพระนคร และฝั่งธนฯ มาไว้รวมกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ไชน่าทาวน์เยาวราช หรือวัดอรุณราชวรารามฯ ที่ปรากฏบนผนังห้อง
ครั้นเปิดม่านมองผ่านกระจกกว้าง เจอวิวกรุงเทพฯจากมุมสูงกระแทกตาไปเต็มๆ
“ภายในห้องพักเราผสมความเป็นลอฟต์เข้าไป พร้อมความโดดเด่นของความเป็นไทยร่วมสมัย และความสนุกสนานที่ไม่จำกัดอายุ เพราะลูกค้าของเราชอบมีความเป็นตัวเองค่อนข้างสูง อย่างหมอนอิงพิมพ์อักษรภาษาไทยว่า คูล ด้วยความตั้งใจให้เป็นไอคอนนิคของโรงแรมว่าเมื่อนึกถึงอลอฟต์ ต้องนึกถึงหมอนคูลที่มีความหมายสื่อทั้งความสนุกและสบาย” ดวงใจอธิบาย
นอกเหนือจากการพักผ่อนและการท่องเที่ยว ที่นี่ยังมีห้องประชุมให้ใช้บริการ ไม่เพียงเท่านั้น ทางโรงแรมยังจัดกิจกรรมอีเวนต์เป็นประจำทุกเดือน
“โรงแรมต้องไม่ใช่แค่เรื่องการท่องเที่ยว เรายังมีห้องประชุมเป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาประชุม มีห้องนอนที่สามารถรองรับได้พอดี ซึ่งเรามีพาร์ตเนอร์อยู่เป็นจำนวนมาก บางบริษัทที่เข้ามาพัก ถามเราเรื่องความยั่งยืนด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เราชูโรงอยู่แล้ว ส่วนมากเป็นชาวสิงคโปร์ ออสเตรเลีย มาเลเซีย
อลอฟต์จัดกิจกรรมและอีเวนต์ทุกเดือน เพื่อสร้างความแตกต่าง W xyz bar ก็สร้างสรรค์ค็อกเทลขึ้นใหม่ตลอดเวลา พนักงานต้องคอนเน็กต์ลูกค้าเป็น เราพัฒนาศักยภาพอัพเดตข้อมูลที่ทันสมัยตลอดเวลา ให้เขาเล่าเรื่องได้ เมื่อลูกค้าต้องการสอบถามเรื่องการท่องเที่ยว เขาต้องรู้ว่าเดือนที่มาพัก มีคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมใดบ้างในเดือนนั้น เราไม่ได้ทำเอเยนซี่ แต่พนักงานต้องเป็นเอเยนซี่ในตัว”
ปักหมุด ‘ความยั่งยืน’ คัดเน้นๆ เฟ้นวัตถุดิบท้องถิ่น
‘กำลังตามหาหมูอารมณ์ดี’
อีกโจทย์สำคัญอันเป็นเทรนด์โลก นั่นคือ สุขภาพและความยั่งยืน ซึ่งอลอฟต์ให้ความสำคัญอย่างมาก
“โรงแรมของเราเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีคุณภาพ อย่างข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรี่ จากจังหวัดอุดรธานี โดยสั่งตรงจากผู้ผลิตเพราะอยากให้ธุรกิจรายย่อยเติบโตได้อย่างยั่งยืน เราสนับสนุนเกษตรกร โดยเลือกใช้สินค้าของชุมชน แต่ละเดือนแผนกจัดซื้อของที่นี่จะออกไป เฟ้นหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในโรงแรม ยกตัวอย่าง พืช ผักใช้แบบออร์แกนิค ไก่ เลือกที่ไม่ได้เลี้ยงอยู่ในกรง กลัวไก่เครียด เราไม่ได้ทำเพื่อเป็นการตลาด แต่เราสนับสนุนความยั่งยืนของธรรมชาติ ปลาแซลมอน เลือกที่ไม่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อม เลือกเจ้าที่ใช้อวนตาห่าง เพราะอวนตาเล็กจะเอาปลาเล็กปลาน้อยมาด้วย และตอนนี้เรากำลังตาหาหมูอารมณ์ดีอยู่” ดวงใจเล่าอย่างอารมณ์ดีด้วยเช่นกัน
จากนั้น ปิดท้ายด้วยเรื่องเล่าสุดประทับใจที่ใครๆ ได้ฟังเป็นต้องปลื้มปริ่มตามไปด้วย
“เรามีลูกค้าประจำอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่โรงแรมเปิด เขามาพักตลอด แม้จะมีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็มาพักที่โรงแรมจนเราเป็นเพื่อนกับลูกค้าไปเลย เขาบ่นตลอดว่าเมื่อไหร่จะปรับปรุงเสร็จ พอเสร็จ ลูกค้าก็ดีใจมาก เขาตื่นเต้นไปกับเรา พนักงานก็ตื่นเต้นไปกับเรา เหมือนเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว ลูกค้าเก่าที่กลับเข้ามาพักใหม่ ก็เหมือนพักในบ้านที่ได้รับการรีโนเวต เรามีความสุขทุกครั้งที่เห็นลูกค้าดีใจและตื่นเต้นเพราะที่นี่ different by design”
พร้อมหรือยัง? กับการเข้าเช็กอิน ยลโฉมใหม่ เปิดประสบการณ์อันแตกต่างอย่างทันสมัย และสนุกสนานไปกลับ Aloft Bangkok Sukhumvit 11
ชญานินทร์ ภูษาทอง
Aloft Bangkok Sukhumvit 11
35 สุขุมวิท 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เดินทางด้วยรถไฟฟ้าลงสถานี นานา
ติดต่อสอบถามโทร 0-2207-7000
Facebook: Aloft Bangkok – Sukhumvit 11
https://th.aloftbangkoksukhumvit11.com/