ผู้เขียน | ปิ่นโตเถาเล็ก |
---|
Kimi Nomu ร้านญี่ปุ่นฟิวชั่นอร่อยสุขใจ นั่งสบาย
มีข่าวดีมาบอกแฟนๆ ทุกคน ร้านซูชิโอมากาเสะราคาสบายกระเป๋าแต่คุณภาพเต็มเปี่ยม ชื่อว่า Kimi (คิมิ) ได้ย้ายโลเกชั่นจากสุขุมวิท 49 ไปอยู่ใน ซอยสมคิด ที่ปากซอยอยู่ข้าง เซ็นทรัลชิดลม แล้ว
ข่าวดีที่ว่าก็คือ ร้านคิมิ โอมากาเสะในสถานที่ใหม่ได้เปิดร้านอาหารญี่ปุ่นนั่งสบายเพิ่มขึ้นมา มีเมนูกินเล่นกินจริงทั้งจานเล็กจานใหญ่ สไตล์ญี่ปุ่นฟิวชั่นแต่มีกลิ่นอายรสชาติญี่ปุ่นคงเดิม กินอร่อยสุขใจ ร้านนี้มีชื่อว่า Kimi Nomu (อ่านว่า คิมิ โนหมุ)
ร้านคิมิ โนหมุใช้วัตถุดิบนำเข้าชั้นเลิศจากญี่ปุ่น เช่น ปู ปลา หอย เกรดคุณภาพเหมือนกัน แม้กระทั่งข้าวญี่ปุ่น (มาจากจังหวัดอิวาเตะ) ก็เด็ดมาก ข้อสำคัญพอได้ชิมแล้วอร่อยว้าวหลายเมนูทีเดียว อีกทั้งไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้านานนับอาทิตย์ ไม่ต้องกินเป็นรอบเป็นคอร์ส เพราะโซนนี้สั่งเมนูได้ตามใจชอบ แต่ก็ควรโทรจองโต๊ะล่วงหน้าสักหน่อย เพราะตอนนี้ได้รับความนิยมมาก
ทางไปร้านจากปากซอยตรง ถนนเพลินจิต ข้างเซ็นทรัลชิดลม เลี้ยวเข้า ซอยสมคิด (วันเวย์) ไปเพียง 350 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสั้นๆ อีกทีข้างร้าน Acqua (จุดสังเกตฝั่งขวามือของทางเลี้ยวคือร้านอาหารมาเมซอง Lady L ทางเข้าบ้านปาร์คนายเลิศ) เข้าไปสุดซอย (แค่ 50 เมตร) ก็ถึงโครงการเล็กด้านขวามือ เข้าไปจอดรถได้เลย จากนั้นมองหาป้าย Kimi Nomu เดินขึ้น ชั้น 2 ไปที่ร้าน
ร้านใหม่นี้บรรยากาศสุดคูล สามารถมาออกเดตวันวาเลนไทน์ได้เลย หน้าร้านเป็นบาร์กับแพนทรี่เตรียมเสิร์ฟอาหารอยู่ติดกับครัวด้านใน (นำทีมโดยเชฟเอสและเชฟแวน ซึ่งมีประสบการณ์จากร้านญี่ปุ่น) ตัวร้านขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่มาก มีทั้งโต๊ะเล็กโต๊ะใหญ่ ผนังที่กรุกระจกทำหน้าต่างบานไม้ติดตายเปิดหลอกตาให้เข้ากับตัวบ้าน มีทางเดินเชื่อมต่อกับห้องโอมากาเสะ (ต้องจองล่วงหน้าเป็นรอบ) ซึ่งมีจะโซนนั่งด้านนอกตรงทางเชื่อมให้นั่งอีกด้วย
เจ้าของร้านนี้คือหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ 3 คนวัยยี่สิบปลายๆ ชื่อน้องเจนนี่ น้องเจมส์ และน้องแพทริก ย้ายมาเปิดร้านที่นี่ได้เพียง 3 เดือน (ปลายเดือนพฤศจิกายน) ตอนนี้มีขาประจำทั้งวัยรุ่นวัยทำงาน ชาวไทยและชาวต่างชาติ มาอุดหนุนกันเต็ม ดังนั้น ถ้าเป็นวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ควรจองล่วงหน้านะจ๊ะ
คำว่า Kimi แปลว่า คุณ ในภาษาไทย เป็นคำเรียกอย่างไม่เป็นทางการ โดยมากผู้ชายมักจะเป็นคนเรียกเพื่อนฝูงหรือคนที่เด็กกว่า หรือใช้เรียกแฟน ส่วนคำว่า Nomu (โนหมุ) แปลว่าดื่ม ดังนั้นชื่อร้านนี้บอกเป็นนัยว่าเพื่อนๆ มานั่งกินดื่มเหมือนอยู่ที่บ้านตัวเอง
เมนูของคิมิ โนหมุเก๋มาก มีทั้งของกินเล่นชิ้นเล็ก (Small Bites) ซึ่งก็ไม่เล็กมาก มีเมนูเรียกน้ำย่อย มีข้าวอบและข้าวหน้าดงบุรีต่างๆ เบอร์เกอร์แบบญี่ปุ่นฟิวชั่น เมนูเส้นเก๋ๆ กลิ่นอายตะวันตกพบตะวันออก ทั้งอุด้ง โซบะเย็น และแน่นอนว่าสามารถสั่งซูชิเป็นคำหรือเป็นเซตได้ด้วย
ที่เราได้ลิ้มลองและลงความเห็นว่าต้องสั่ง ห้ามพลาด มี 6 เมนู เริ่มกันด้วยของกินเล่นชิ้นเล็ก เฮียวโกะ อิวาชิ โทสต์(Hyogo Iwashi Toast) (520 บาท++) ขนมปังบริยอชปิ้งนุ่มหอม 2 ชิ้นยาวๆ หน้าปลาอิวาชิจากจังหวัดเฮียวโกะดองเกลือกับน้ำส้มสายชู กินกับใบชิโสะ (โอบะ) ทาซอสวาซาบิเลมอนซาวร์ครีม ชุ่มฉ่ำหอมสดชื่นอร่อยเต็มคำ เหมาะสำหรับสั่งมา 2 คน แบ่งกันคนละชิ้น
จานเรียกน้ำย่อยที่ชื่นชอบมี 2 อย่าง คือสึคุเนะ (Tsukune) (220 บาท++) เนื้อไก่บดปั้นเป็นแท่งยาวทาซอสทาเระเสียบไม้ย่าง (ใส่เปลือกพริกขี้หนูเพิ่มรสเผ็ดเล็กน้อย) จิ้มกินกับไข่แดงดิบ อร่อยมากๆ
อีกอย่างคือ DIY Salmon Temaki (450 บาท++) เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ประกอบด้วย ข้าวซูชิโรยด้วยข้าวพอง คู่กับสาหร่ายโนริทอดเป็นแผ่นๆ กรอบๆ อีกถ้วยมีแซลมอนสดกับอโวคาโด ปรุงรสเผ็ดๆ เปรี้ยวหอมด้วยมายองเนส และปรุงด้วยน้ำมันพริกรายู่ (Rayu)
ส่วนเมนูเส้นที่ชอบมากคือ อซาริ อุด้ง วองโกเล่ (Asari Udon Vongole) (330 บาท++) ใช้เส้นซานุกิ อุด้งอวบๆ ซึ่งแสนจะหนึบเหนียวนุ่มแทนพาสต้า กับหอยตลับฮามากุริ (Hamaguri) ผัดซอสใส่พริกแห้งเพิ่มรสเผ็ด กับเลมอน ไวน์ขาวเล็กน้อย ใส่ไข่ปลาตากแห้งอิตาเลียน และโรยด้วยคาราสุมิ (Karasumi) หรือไข่ปลากระบอกตากแห้งเค็มหอมกรุบๆ ของญี่ปุ่น กินเพลินไม่เลี่ยน
ห้ามพลาดเมนูข้าวอบหม้อดินชามใหญ่โนมุพ็อต (Nomu Pot) (990 บาท++) ชามนี้แบ่ง 2-3 คนสบายๆ กินอิ่มเลย ข้าวญี่ปุ่นจากจังหวัดอิวาเตะอบกับหน่อไม้ดอง ปลาแห้ง เนื้อปูซูไว และโปะหน้าด้วยปลากินดาระ (Gindara) ย่างเกลือบนเตาถ่านเนื้อนุ่มหวานหอม (ปลาเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ก่อนหน้านี้คือปลาซันมะ) ชอบตรงที่ว่าส่วนก้นชามจะเป็นข้าวตังกรอบๆ นิดๆ และมีซอสน้ำมันพริกกระเทียมมาให้ราดตัดเลี่ยนด้วย
ใครชอบกินปลา มีเมนูปลาย่างทั้งตัว ปลาฮิเมจิย่าง (Grilled Himeji) (1,790 บาท++) เสิร์ฟมาทั้งตัว กินอร่อยมีรสชาติในตัว ปลาฮิเมจิบ่มหรือดรายเอจ 7 วัน ย่างกับน้ำมันมะกอกชิโสะ จิ้มซอสเนยเลมอนเคเปอร์ เด็ดมากๆ
ยังมีของกินอีกหลายอย่างเช่น ปีกไก่ทอดยัดไส้ไข่ปลาเมนไทโกะ (3 ปีก 320 บาท++) ก่อนกินให้บีบเลมอนเปรี้ยวหอม ข้าวหน้าลิ้นวัวย่าง (690 บาท++) ใช้โคนลิ้นวัวไทยวากิวย่าง กินกับไข่แดงดิบใส่โชยุ กระเทียมย่าง และยูซุโคโช (พริกเขียว เกลือ และผิวส้มยูซุ) และเบอร์เกอร์สไตล์ญี่ปุ่น
อูนางิเบอร์เกอร์ (490 บาท++) เบอร์เกอร์ไส้ปลาไหลญี่ปุ่นอูนางิ สาหร่ายโนริทอด ผักร็อกเกต ไข่ฝอย (เหมือนที่ใส่ในข้าวคลุกกะปิ) และซอสอูนางิเคี่ยวรสออกหวานนิดๆ หรือ เบอร์เกอร์ปลา (Fillet O Fish Burger) (550 บาท++) ใส่ไข่ปลาแซลมอนกับซอสทาร์ทาร์
อีกทั้ง โซบะเย็นใส่กุ้งหวาน อมาเอบิ (450 บาท++) แซลมอนสด ไข่ปลาแซลมอน และมะเขือเทศบิจิน ในน้ำซอสดาชิใส่โชยุผสมพอนสึรสเปรี้ยวๆ ข้าวหน้าปลาดิบต่างๆ (Charashi Bowl) (690 บาท++) รวมถึง ปลาห่อสาหร่ายทูโทน (Two-Tone Nori Wrapped) (590 บาท++) มีปลาทูน่าเนื้อแดงมากุโระกับปลามาไดเนื้อขาวห่อสาหร่าย ราดซอสสึคุดานิ (Tsukudani) รสออกเปรี้ยวอมหวาน
มาร้านคิมิ โนหมุ ได้ทั้งความอร่อยและสนุกสนานเพลิดเพลิน มานั่งสองเราหรือละเลียดกินดื่มเฮฮากับเพื่อนฝูงได้ที่คิมิ โนหมุ เปิดเป็นช่วงๆ 11 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมง และ 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน หยุดทุกวันจันทร์ ควรโทรจองโต๊ะล่วงหน้าก่อนเพราะตอนนี้กำลังฮิตมาก ที่เบอร์ 06-5983-9182 หรือจองทาง Line @kiminomu นะจ๊ะ
Kimi Nomu
โดย คุณพิศวัสน์ (เจมส์) ปางพุฒิพงศ์ คุณสุภัชชา (เจนนี่) วงศ์คูประเสริฐ และคุณวีรภัทร (แพทริก) เหลืองอ่อน
ที่ตั้ง 14/2 ซอยสมคิด ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร 06-5983-9182
หรือจองทาง Line @kiminomu
เปิดบริการ 11.00-14.00 น.
และ 17.00-24.00 น. อังคาร-อาทิตย์
หยุด จันทร์
แนะนำ เฮียวโกะ อิวาชิ โทสต์ (Hyogo Iwashi Toast), สึคุเนะ (Tsukune), DIY Salmon Temaki, อซาริ อุด้ง วองโกเล่ (Asari Udon Vongole), โนมุพ็อต (Nomu Pot), ปลาฮิเมจิย่าง (Grilled Himeji)
ปีกไก่ทอดยัดไส้ไข่ปลาเมนไทโกะ ข้าวหน้าลิ้นวัวย่าง ข้าวหน้าปลาดิบต่างๆ อูนางิเบอร์เกอร์ เบอร์เกอร์ปลา โซบะเย็นใส่กุ้งหวาน-อมาเอบิปลาห่อสาหร่ายทูโทน