
ผู้เขียน | วิภา จิรภาไพศาล |
---|
ยอช เซเดส์
กับชีวิตที่ไม่(เคย)เปิดเผย
ยอช เซเดส์ (พ.ศ.2429-2512) นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส ผู้อุทิศเวลาส่วนใหญ่ของตน ในช่วง พ.ศ.2447-2512 ให้กับการศึกษาค้นคว้าเรื่องอารยธรรมโบราณในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการเผยแพร่องค์ความรู้ที่เขาศึกษาค้นคว้าจากห้องสมุด, วัด, การลงภาคสนาม ฯลฯ สู่สาธารณชน

ตลอดเวลา 65 ปี เซเดส์ตีพิมพ์บทความของด้านโบราณคดี, ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอุษาคเนย์ กว่า 500 เรื่อง และหนังสือเล่มสำคัญ เช่น จารึกในประเทศกัมพูชา, ตำนานพระพิมพ์, จดหมายเหตุของคณะพ่อค้าฝรั่งเศส ซึ่งเข้ามาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา : สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช, เมืองพระนคร นครวัด นครธม, ชนชาติต่างๆ ในแหลมอินโดจีน, ตำนานอักษรไทย ตำนานพระพิมพ์ การขุดค้นที่พงตึก และความสำคัญต่อประวัติศาสตร์สมัยโบราณ แห่งประเทศไทย ศิลปไทย สมัยสุโขทัย ราชธานีรุ่นแรกของไทย ฯลฯ
แม้เซเดส์จะถึงแก่กรรมไปนานปี แต่ผลงานของเขายังคงอยู่ และเป็นหลักฐานสำหรับการค้นคว้าต่อไปไม่สิ้นสุด สำหรับผู้สนใจเรื่องเหล่านี้ หากชีวิตของเขากลับไม่ค่อยได้รับการเปิดเผย
แต่ท่านสามารถหาคำตอบได้ในนิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 กับบทความที่ชื่อว่า “ยอช เซเดส์ ชีวิตที่ไม่เปิดเผยของผู้ค้นพบอาณาจักรที่ถูกลืมเลือน” ที่ แบร์นารด์ ครอส (Bernard Cros) หลานชายของเซเดส์ เขียนไว้ในบทความชื่อ “George Coedès, la vie méconnue d’un découvreur de royaumes oubliés” ในวารสารของสมาคมเพื่อการแลกเปลี่ยนและการสอนเกี่ยวกับเขมรศึกษา (Association d’échanges et de formation pour les études khmères) ที่ ธิษณา วีรเกียรติสุนทร อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แปลและเรียบเรียงมานำเสนอ
ซึ่งเราขอสรุปเนื้อหาบางส่วนมานำเสนอ
ครอบครัวเซเดส์
บรรพบุรุษคนแรกของเซเดส์ที่ แบร์นารด์ ครอส บันทึกถึง คือเป็นเทียดของเซเดส์ชื่อ ฟรองซัวส์-อิกนาส (François-Ignace) เป็นข้าราชการระดับสูงของกรมพระคลังฝรั่งเศส เมื่อศึกษาประวัติศาสตร์สายตระกูลของเซเดส์ มีข้อสันนิษฐานว่าตระกูลของเขาอาจมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเซิด (Szöd) ในฮังการี

provient du site internet de la photothèque virtuelle de l’ École française d’Extrême-Orient))
ทวดของเซเดส์คือ โยเซฟ-สตานิสลาส (Joseph-Stanislas พ.ศ.2322-2401) รับราชการในกรมการที่ดูแลเสบียงอาหาร ส่วนปู่ของเซเดส์คือ หลุยส์-อูแฌน (Louis-Eugène พ.ศ.2353-2448) เป็นจิตรกรมีชื่อเสียงในกรุงปารีส และบิดาของเซเดส์คือ อิบโปลีต (Hippolyte พ.ศ.2388-2460) เป็นผู้จัดการธนาคาร ผู้ดูแลการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
อาชีพของสมาชิกในครอบครัวเซเดส์ 5 รุ่น พบว่า เทียด, ทวด, ปู่, พ่อ, เซเดส์ รวมถึงพี่น้องในแต่ละรุ่น ครึ่งหนึ่งเป็นจิตรกรและอีกครึ่งหนึ่งเป็นนักการเงิน มีส่วนน้อยไม่กี่คน รวมไปถึงตัวเซเดส์ที่หลุดออกจากวงจรนี้
หลุดวงโคจร “อาชีพนิยม” ของครอบครัว
เซเดส์จัดเป็นนักเรียนที่เฉลียวฉลาดและมีระเบียบวินัยเป็นอย่างยิ่ง เขาสนใจศึกษาภาษาเยอรมัน และตั้งใจว่าจะเป็นครูผู้สอนภาษาเยอรมันในอนาคต แต่แล้วก็มีเหตุพลิกผัน เดือนกันยายน พ.ศ.2445 เซเดส์มีโอกาสเข้าชมการแสดง “คาราวานอินเดีย” ของ คาร์ล ฮาเกนเบ็ค (Carl Hagenbeck) คณะคาราวานนอกจากจัดแสดงละครสัตว์ ยังนำกลุ่มคนที่ “แปลกตา” มาจัดแสดงต่อสายตาผู้ชมชาวตะวันตกทั่วทั้งยุโรป ซึ่งดูลึกลับและชวนค้นหาสำหรับเวลานั้น
เมื่อเขาอยู่ในระดับอุดมศึกษา นอกจากทุ่มเทให้กับการเรียนด้าน “เยอรมันศึกษา” (Germanic studies) เขายังให้ความสำคัญกับการศึกษาภารตวิทยา และการเรียนภาษาสันสกฤตเบื้องต้น ควบคู่ไปด้วย
พ.ศ.2447 เซเดส์สมัครเข้าศึกษาต่อ ณ สถาบันการศึกษาชั้นสูง (École Pratique des Hautes Études) ที่ที่เขาพบกับ หลุยส์ ฟีโนต์ (Louis Finot) นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมและจารึกของกัมพูชา ซิลแวง เลวี (Sylvain Lévi) นักบุรพคดีศึกษาและอินเดียศึกษา อัลเฟรด ฟูเชต์ (Alfred Fouchet) นักโบราณคดี นักนิรุกติประวัติ นักประวัติศาสตร์ศิลปะและผู้เชี่ยวชาญพุทธศาสนาชาวฝรั่งเศส
ต่อมานักวิชาการทั้ง 3 คน คืออาจารย์ที่จะมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตของเขา
ซึ่งทั้งหมดทำให้เซเดส์ในวัยเพียง 18 ปี ก็มีผลงานพิมพ์เผยแพร่ผลงานเรื่องแรกที่อุทิศให้กับการศึกษาจารึกหลักหนึ่ง ที่ชื่อว่า “Inscription de Bhavavarman II roi du Cambodge (561 çaka)” และผลงานอื่นที่ตามมา เช่น จารึกปราสาทตาพรหม, จารึกจามปาและกัมพูชา, จารึกเทพประนม ฯลฯ
นอกจากนี้ การถูกเรียกให้เป็นกำลังเสริมของกองทัพฝรั่งเศส และได้ทำหน้าที่บรรณารักษ์ห้องสมุด คือโอกาสที่เซเดส์มีเวลาให้กับงานด้านบุรพทิศศึกษา และตัดสินใจที่จะเลือกทำงานวิชาการในอินโดจีน

สู่อุษาคเนย์
ต้นปี 2455 เซเดส์เดินทางไปเวียดนามและกัมพูชา โดยเฉพาะที่กัมพูชาเขาไปเยี่ยมชมเมืองพระนครยาวนานถึง 6 สัปดาห์ ใช้โอกาสนี้ในการคัดลอกสำเนาจารึก การค้นพบพระนามใหม่ๆ ของกษัตริย์เมืองพระนคร ได้พบรักกับสตรีสาวชาวกัมพูชาที่มาจากครอบครัวชนชั้นที่นั่นจนสร้างครอบครัวด้วยกัน ฯลฯ
พ.ศ.2458 เซเดส์เข้ามาทำภารกิจในสยาม ได้เข้าเฝ้าสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และเดินทางไปยังลพบุรีและสวรรคโลกหลังจากที่มาถึงกรุงเทพฯ
พ.ศ.2460 เซเดส์และครอบครัวเดินทางมาสยาม ครั้งนี้เขาอยู่นานถึง 12 ปี โดยทำงานที่หอพระสมุดวชิรญาณร่วมกับสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทั้งสองได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่พวกท่านค้นพบและการวิเคราะห์ในงานด้านโบราณคดีและจารึกวิทยา เซเดส์เรียนรู้ภาษาสยามได้อย่างรวดเร็ว
ยอช เซเดส์ ออกภาคสนามเป็นประจำเพื่อศึกษาแหล่งโบราณคดีที่มีอยู่เป็นจำนวนมากของสยาม ได้สำรวจแผ่นดินสยามด้วยความอุตสาหะ ท่านเดินทางจากอยุธยาไปจนถึงกำแพงเพชรและจากลพบุรีไปถึงเชียงใหม่ โดยผ่านเมืองสุโขทัย
พ.ศ.2469 สยามตั้งราชบัณฑิตยสภาขึ้น โดยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงรับตำแหน่งสภานายกราชบัณฑิตยสภา และยอช เซเดส์ รับตำแหน่งสภาเลขานุการฝ่ายต่างประเทศ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็จากประเทศไทยกลับไปฝรั่งเศส เพื่อรับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักฝรั่งเศสแห่งปลายบุรพทิศ
ส่วนประวัติชีวิตโดยละเอียดที่กล่าวมาข้างต้น และต่อจากนี้ของ ยอช เซเดส์ นักวิชาการเจ้าของผลงานที่ทรงอิทธิพล ขอท่านได้โปรดอ่านใน “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับเดือนกุมภาพันธ์นี้