แท็งก์ความคิด : ย ยักษ์ อ่านใหญ่

แท็งก์ความคิด : ย ยักษ์ อ่านใหญ่

เข้าสู่ปลายเดือนมีนาคมต่อด้วยต้นเดือนเมษายน ฤดูการอ่านครั้งใหญ่เวียนมาถึง

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และงานหนังสือนานาชาติ มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 27 มีนาคมถึง 7 เมษายน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 53 ของงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ

และถือเป็นครั้งที่ 23 ของงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ

ADVERTISMENT

วันก่อน นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ (PUBAT) แวะเวียนมาให้ความรู้

บอกว่า งานปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “ย ยักษ์ อ่านใหญ่”

แค่แนวคิดก็ชวนสงสัยว่า “ใหญ่อย่างไร”

คำตอบที่ทราบ คือ งานครั้งนี้ถือเป็นการจัดที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 53 ปี

พื้นที่ที่ใช้เพิ่มจาก 3 ฮอลล์ เป็น 4 ฮอลล์ หรือจากเดิม 15,000 ตร.ม. เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตร.ม.

ถือว่าเป็นงานหนังสือที่จัดใหญ่ที่สุดในอาเซียน

พื้นที่ทั้งหมดแบ่งเป็น 7 โซน ได้แก่ 1.โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม 2.โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland) 3.โซนหนังสือเด็กและการศึกษา

4.โซนหนังสือทั่วไป 5.โซนหนังสือเก่า 6.โซนหนังสือต่างประเทศ

ภายใน ‘โซนต่างประเทศ’ มีบูธจากต่างประเทศมานำเสนอหนังสือ ลิขสิทธิ์หนังสือ เผยแพร่วัฒนธรรมจากอังกฤษ จีน เกาหลี อินเดีย อิหร่าน ไต้หวัน กัมพูชา และยูเครน

ส่วนโซนที่ 7 ซึ่งเป็นโซนสุดท้ายคือ โซน Non-Book

รวมๆ กันแล้ว ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ จะมีหนังสือมากกว่า 2 ล้านเล่ม จาก 400 สำนักพิมพ์และร้านหนังสือชั้นนำที่มาจองบูธภายในงาน รวม 1,200 บูธ

ความพิเศษอีกอย่างที่เกิดขึ้นภายในงาน คือ การจับคู่ธุรกิจ

เป็นการส่งเสริมให้เกิดการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ

มีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์กว่า 115 บริษัท จาก 14 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม อาทิ สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี ไต้หวัน พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย

ภายในงานยังตระเตรียมบริการไว้สำหรับหนอนหนังสือที่มาเยือน

สายคาเฟ่มี “PUBAT Cafe” จากร้าน ROWIE’S x PUBAT café บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด เนรมิตพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือแบบชิลชิล หลังจากเดินช้อปจนจุใจ

และมีบริการนวดแผนไทย โดยกรมการแพทย์แผนไทย

ส่วนใครที่ซื้อหนังสือแล้วแบกกลับบ้านไม่ไหว ไปรษณีย์ไทยจะไปเปิดให้บริการจัดส่งสินค้าให้ในราคาพิเศษ

ฟังนายสุวิชแล้วรู้สึกคึกคัก และคิดว่างานครั้งนี้คงได้รับการตอบรับจากผู้อ่านเช่นเดิม

สำหรับสำนักพิมพ์มติชนก็อยู่ในจำนวน 400 สำนักพิมพ์ที่ไปร่วมออกบูธ

ใครสนใจแวะเวียนไปได้ที่บูธ J02

และเหมือนกับทุกปี สำนักพิมพ์มติชนจะใช้โอกาสนี้นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ในการออกบูธ

ปีนี้นำเสนอแนวคิด “Read Friendly” ชวนให้ทุกคนไปสัมผัสเสน่ห์ของการอ่าน

เรียบง่าย อบอุ่น มีความหมาย

เพราะเชื่อว่าหนังสือเป็นสะพานนำไปสู่ความเข้าใจ ความสุข และสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง

ไอเดียนี้จึงเกิดขึ้นและนำเสนอ

“Read Friendly” ออกแบบศิลป์โดย TUNA Dunn ศิลปินเจ้าของลายเส้นที่โดดเด่นด้านความเรียบง่าย แต่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวรอบตัวออกมาได้เปี่ยมอารมณ์

ก่อนหน้านี้เคยสร้างสรรค์ผลงานออกมาในธีม “Read Every Day” เปลี่ยนการอ่านให้เป็นกิจวัตรประจำวันมาแล้ว

คราวนี้มาสัมผัสความอบอุ่นของตัวอักษรและมิตรภาพแห่งการอ่านได้ที่บูธ J02 ในงานนี้

ส่วนหนังสือปกใหม่ๆ ที่สำนักพิมพ์มติชนตระเตรียมเอาไว้นำเสนอมีทั้งหมด 14 ปกใหม่

ทั้ง 14 ปกใหม่พร้อมแล้ว ประกอบด้วย หนังสือชื่อ ศาสนาผี โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ หนังสือ ประวัติจีนกรุงสยาม เล่มที่ 1: สมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หนังสือประวัติจีนกรุงสยาม เล่มที่ 2: ยุคล่าอาณานิคม หนังสือประวัติจีนกรุงสยาม เล่มที่ 3: ยุคก่อร่างสร้างประเทศไทย

โดย Jeffery Sng และ Pimpraphai Pisarnbutra แปลโดย พิมพ์ประไพ พิศาลบุตร, กิตติพัฒน์ มณีใหญ่ และ สมชาย จิว

หนังสือ ภารตะ-สยาม มูฯ ไทย ไสยฯ อินเดีย โดย คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง หนังสือ ฉากสำคัญ “พระเจ้าตาก” ประวัติศาสตร์ที่ต้องเล่า โดย ปรามินทร์ เครือทอง หนังสือ จักรวาลไทบ้าน โดย ทีมงานไทบ้าน หนังสือ รัฐราชทัณฑ์ อำนาจลงทัณฑ์ในยุคสมัยใหม่ โดย ศรัญญู เทพสงเคราะห์ หนังสือ Likeable Japan เมืองที่ใช่ ยังไงก็ชอบ โดย ปริพนธ์ นำพบสันติ หนังสือ Accidentally Wes Anderson: Adventure โดย Wally & Amanda Koval แปลโดย ปิยบุตร หล่อไกรเลิศ

หนังสือ Knife ในรอยกรีด โดย Salman Rushdie แปลโดย เรขลดา วาณิช หนังสือ Soft Power อำนาจโน้มนำ หนทางสำเร็จในโลกการเมือง โดย Joseph S. Nye Jr. แปลโดย บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ หนังสือ ประชาธิปไตยไทยที่ถดถอย: สมรภูมิการเมืองไทยสู่ความขัดแย้งใหม่ที่ยังไม่จบ โดย ประจักษ์ ก้องกีรติ แปลโดย ฐนพงศ์ ลือขจรชัย หนังสือ K-Contents Decode ถอดรหัสสังคมเกาหลีหลังจอภาพยนตร์ โดย Park Hyunmin

นี่แค่สำนักพิมพ์เดียว คือ สำนักพิมพ์มติชน

แต่ภายในงานมีถึง 400 สำนักพิมพ์เข้ามาร่วม

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ จึงมีเสน่ห์น่าไปเที่ยวชม

แวะเวียนไปดูบรรยากาศ เก็บกวาดเอาความรู้จากหนังสือกลับบ้าน

นฤตย์ เสกธีระ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image