ผู้เขียน | ชญานินทร์ ภูษาทอง |
---|
ปั๊มหัวใจ กู้ชีพ‘บรรทัดทอง’
เมื่อสตรีทฟู้ดถูกบังคับสูญหาย
รัฐต้องคิดใหม่ ปักป้ายย่านเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวสร้างสรรค์
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อแล้วว่า “บรรทัดทอง” ถนนเศรษฐกิจน้องใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เคยฮอตหนักจนเบียดเสียดขั้นสุด กำลังตกอยู่ในที่นั่งภาวะลำบาก จากที่เคยคึกคักในฐานะย่านสตรีทฟู้ดสุดฮิต ปัจจุบันภาพเหล่านั้นกลับเริ่มจางหายด้วยปัจจัยหลายหลากที่ลดทอนเสน่ห์ลงไป จนจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แถมยังเจอวิกฤต ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาจากแผ่นดินไหวในเมียนมา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนหนีหาย ในขณะที่ผู้ค้ายังต้องแบกรับต้นทุนทั้งค่าเช่าพื้นที่ ค่าลูกจ้าง ค่าจัดเก็บขยะ และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ล่าสุด เมื่อไม่กี่วันมานี้ สมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง ล้อมวงถกประเด็นปัญหาและเรื่องร้อนๆ ที่ต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมผลักดันขอให้ภาครัฐพิจารณาสนับสนุนการพัฒนาถนนบรรทัดทองสู่ ‘ย่านเศรษฐกิจพิเศษ’ และ ‘แหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์’ ในกรุงเทพมหานคร
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม สน.ปทุมวัน ครั้นคุยจบ ยังจูงมือสำรวจถนนบรรทัดทองในวันนี้ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
- ไม่ได้ดังเพราะฟลุค! ติดโผท็อป 14 ถนนสุดคูลของโลกจาก Time Out
เริ่มต้นด้วยที่มาของเสน่ห์บรรทัดทอง จากปากคำ สิทธิฉันท์ วุฒิพรกุล หรือ ‘เฮียนพ’ ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง ซึ่งเกริ่นประวัติตั้งแต่อดีตกาล ว่าถนนบรรทัดทองในอดีตเป็นย่าน ‘เซียงกง’ แหล่งร้านขายอะไหล่รถยนต์เก่า รวมไปถึงชิ้นส่วนรถยนต์ อะไหล่รถบรรทุก กระทั่งเจอสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงปลายปี 2563 เศรษฐกิจในย่านบรรทัดทองได้รับผลกระทบ สมาคมเล็งเห็นปัญหาจึงรวบรวมผู้คนมาผนึกก่อร่างสร้างตัวทำธุรกิจ
“ถนนบรรทัดทองเป็นถนนน้องใหม่ในกรุงเทพฯ เป็นแหล่งศูนย์รวมอาหาร โครงการต่างๆ เราเล็งเห็นว่าเรามีครัวของโลกที่แข็งแรง ถนนบรรทัดทองสามารถเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นเทรนด์ใหม่ล่าสุดได้ ปัจจุบันมีร้านอาหารมากกว่า 300 ร้านค้า ทางสมาคมจึงดึงอินฟลูเอนเซอร์เข้ามาช่วยผลักดันและโปรโมตเพื่อเกิดการพัฒนา รวมไปถึงรวมคนที่มีแนวความคิดเดียวกัน เพื่อเดินไปในทิศทางเดียวกัน จนเกิดเป็นย่านถนนบรรทัดทองนี้ขึ้นมา

ถนนบรรทัดทองไม่ใช่สิ่งที่ฟลุคขึ้นมา แต่ถูกจัดอันดับจากเว็บไซต์ Time Out ติดอันดับ 14 ถนนที่คูลที่สุดในโลกประจำปี 2024 จาก 30 อันดับ แม้จะเป็นถนนน้องใหม่ แต่ในระยะเวลาที่กว่าเราจะได้รางวัลระดับโลกเป็นสิ่งที่ไม่ง่าย” เฮียนพเล่า
จากนั้นกระซิบดังๆ ถึงกฎของสมาคม ที่ว่า ‘ห้ามต่อล้อต่อเถียงกับสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ’
“เรามีกฎเพียงว่า สมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ห้ามมีการต่อล้อต่อเถียงกับสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ การรวมตัวครั้งนี้ถือว่าเป็นพลังที่ดี มีแนวทางที่ต้องการขับเคลื่อนถนนบรรทัดทองไปด้วยกัน ร่วมมือร่วมใจส่งเสริมความร่วมมือภาคธุรกิจ และยกระดับภาพลักษณ์ของถนนบรรทัดทองให้ไปไกลระดับโลก”
- ตั้งเป้าปักหมุด‘พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเชิงสร้างสรรค์’ คิดไกล ซอฟต์พาวเวอร์ (อาหาร) ไทยโกอินเตอร์
ประเด็นถัดมา เฮียนพ บรรทัดทอง มอง ‘คำสำคัญ’ นั่นคือ ‘ย่านเศรษฐกิจพิเศษ’ และ ‘แหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์’ มีเอกลักษณ์และพลังขับเคลื่อนจากชุมชนผู้ประกอบการอาหาร โดยมีจุดมุ่งหมาย ดังนี้
1.จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว (Tourism Destination) เราประสบความสำเร็จในการสร้างถนนบรรทัดทองให้เป็นย่านเศรษฐกิจที่มีชีวิตชีวา และเป็นศูนย์รวมอาหารระดับโลกที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติรู้จัก และเลือกเป็นหนึ่งในจุดหมายหลักของการเดินทาง
2.ประสบการณ์อาหารริมทางที่มีเสน่ห์ (Street Food Experience) บรรยากาศของการเดินกินชิมริมทาง ซื้ออาหารร้านละเล็กละน้อย ถ่ายรูป แชร์ลงโซเชียล คือเสน่ห์ที่ทำให้ถนนบรรทัดทองแตกต่าง เป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวจดจำและพูดถึง
3.เทศกาลประจำปีถนนบรรทัดทอง (Tourism Calendar) สมาคมมุ่งมั่นจะจัดกิจกรรมเทศกาลประจำปีของถนนบรรทัดทอง โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณจากภาครัฐ เพราะถนนบรรทัดทองโชคดีที่มีสปอนเซอร์ด้านอาหารจำนวนมาก โดยล้วนเป็นผู้ประกอบการที่มีสินค้าอยู่ในย่านนี้ งานเทศกาลประจำปีต้องการส่งต่อภาพลักษณ์นี้สู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวกว่า 22 ล้านคน ที่ท่องเที่ยวอยู่ในกรุงเทพฯ
4.การลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ปัจจุบันผู้ประกอบการร้านอาหารกำลังแบกรับภาระค่า GP (Gross Profit) หรือค่าบริการที่ต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 30-35% (ไม่รวม VAT)
เพื่อแก้ปัญหาส่วนนี้ ในอนาคต บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่จะเข้ามาร่วมมือกับถนนบรรทัดทอง เพื่อช่วยลดต้นทุนในการจัดส่งอาหารสำหรับผู้ประกอบการในย่านนี้
5.การสร้างแบรนด์อาหารริมทาง (Street Food Branding) หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของถนนบรรทัดทอง คือการยกระดับอาหารริมทางให้มีเอกลักษณ์ชัดเจนในสายตาคนทั่วโลก สร้างภาพจำ ที่เมื่อพูดถึงสตรีทฟู้ดต้องนึกถึงบรรทัดทอง ซึ่งในอนาคตอาจไม่ได้มีแค่ถนนบรรทัดทองในกรุงเทพฯ แต่อาจมีถนนบรรทัดทองในเกาหลี ในญี่ปุ่น กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่เผยแพร่วัฒนธรรมอาหารในระดับสากล
- เจอหนู 60 ตัวในถุงใบเดียว ชื่อเสีย (ง) แง่ลบ กลบเสน่ห์ หวั่นภาพลักษณ์พัง โอดถังขยะน้อย รอบเก็บไม่ตรงเวลา
ครั้นขยับเข้าสู่ประเด็นปัญหา เฮียนพ หยิบยก ‘ชื่อเสียงแง่ลบ’ ที่มากขึ้นทุกที
“บรรทัดทองเริ่มมีชื่อเสียงออกไปในทางแง่ลบเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากอินฟลูเอนเซอร์บางคนที่ต้องการมานำเสนอภาพในเชิงลบ หรือปัญหาการจัดการขยะที่ไม่ดีพอ จนทำให้หนูกลายเป็นปัญหาหลักของถนนบรรทัดทอง เราเคยเจอหนูในถุงขยะใบเดียว 50-60 ตัว มากินเศษอาหารที่ทิ้งค้างไว้เพราะไม่แยกขยะอย่างถูกวิธี หากภาพนี้ถูกออกไปทางสื่อโซเชียล หรือแชร์ไประดับโลก เราก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรเลย เพราะเราไม่มีวิธีการคัดแยกขยะที่ถูก ถังขยะน้อยเกินกว่าขยะทั้งหมดที่มี และรอบเก็บของรถขยะในแต่ละวันไม่เป็นเวลา
หากจุดนี้ถนนบรรทัดทองได้รับการแก้ไข จะช่วยให้ทุกร้านประหยัดค่าใช้จ่ายของตนเองลง และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่เหมาะสมของถนนบรรทัดทอง อยากให้สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ช่วยหาจุดทิ้งขยะให้พวกเราชาวถนนบรรทัดทอง หากเราต้องไปทิ้งหน้าบ้าน หรือหน้าร้านใครก็คงเป็นสิ่งที่ไม่ดี”
ส่วนเรื่องความปลอดภัย ในปีที่ผ่านมาสมาคมผู้ประกอบการฯจ้างจิตอาสา ลูกเสือ นักเรียน ชาวบ้าน ช่วยกันเดินตรวจตราเพิ่มความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อหนึ่งในไฮไลต์ของถนนบรรทัดทองคือ จุดถ่ายรูปกับป้ายร้าน ‘หนึ่งนมนัว’ ซึ่งนักท่องเที่ยวบางส่วนทำคอนเทนต์บนถนนจนอาจลืมเรื่องความปลอดภัย
- สตรีทฟู้ดหายวับ หลัง‘กทม.-สำนักทรัพย์สินจุฬาฯ’ทวงคืนทางเท้า ยกเคส‘เยาวราช’ตั้งแผงลอยได้ ด้วยป้าย‘ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์’
อีกปัญหาด่วนๆ ที่ต้องร่วมกันทุกภาคส่วนในการแก้ไข คือการหายไปของ ‘สตรีทฟู้ด’ หลังจาก กรุงเทพมหานคร และ สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ขอคืนพื้นที่ทางเท้า โดยให้เก็บสิ่งของและส่วนต่อเติมที่รุกล้ำด้านหน้าอาคารออกไป เนื่องจากได้รับหนังสือร้องเรียนผ่านทางสำนักงานเขตปทุมวันในช่วงต้นปีนี้ ว่ามีผู้ประกอบการร้านค้าตั้งวางสิ่งของบริเวณทางเท้าด้านหน้าอาคาร ซึ่งมีความผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535
“เราต้องการให้สตรีทฟู้ดกลับมา ต้องยอมรับว่าหนึ่งในเสน่ห์ถนนบรรทัดทองคือสตรีทฟู้ด เราเข้าใจเรื่องทางเท้าที่ต้องมีการจัดระเบียบอย่างเหมาะสมเป็นอย่างดี แต่เสน่ห์ของสตรีทฟู้ดหายไป แล้วถ้าไม่ทำอะไรบรรทัดทองจะตายไปเรื่อยๆ เราอยากได้ทางเท้าสำหรับตั้งแผงลอยกลับมา ขอสัก 90 เซนติเมตร ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินช้อปปิ้งได้” เฮียนพ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง ยิงหมัดตรงเป้า หวังเข้าสู่ใจกลางปัญหา
จากนั้นยกกรณีเทียบเคียง อย่าง ‘ถนนเยาวราช’ ที่สามารถตั้งแผงลอยค้าขายได้ เพราะได้รับการประกาศให้เป็น ‘พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ’
“เมื่อภาครัฐให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ในทำนองเดียวกัน ถนนบรรทัดทองเองก็มีศักยภาพ และต้องการได้รับการพัฒนาให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเชิงสร้างสรรค์ ผลักดันให้เป็นย่านเอกลักษณ์เช่นกัน รัฐต้องส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ผู้ค้าทุกคนมาพร้อมกับความหวัง อยากประสบความสำเร็จในการค้าขาย เลี้ยงครอบครัวในอนาคต ซึ่งรัฐบาลสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ผ่านการประกาศของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา”
- คนแห่ร้องเรียน ไม่แอ๊กชั่นไม่ได้ เขตปทุมวันเห็นใจผู้ค้า จ่อคุย‘ชัชชาติ’เคลียร์
ถึงคิว ดร.นรเทพ ชูพูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ที่เปิดใจว่า สำนักงานเขตเข้าใจปัญหาความเดือดร้อนของทุกคน ทั้งผู้ใช้ทางเท้า ผู้ประกอบการร้านค้า อย่างไรก็ตาม กทม.มี พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ ซึ่งช่วงหลังๆ สำนักงานเขตได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเรื่องถนนบรรทัดทอง ว่ามีการวางอาหารบนทางเท้า มีสิ่งของกีดขวางทางสาธารณะ
“หากเขตไม่ดำเนินการแก้ไขประชาชนก็จะมารุมที่เขตว่าเลือกปฏิบัติ ซึ่งหลังจากมีการปรับสถานการณ์การจัดการสิ่งของบนทางเท้าถนนบรรทัดทอง ก็ไม่พบผู้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวอีกเลย

ส่วนเรื่องการจัดเก็บขยะ ทางสำนักเขตมี 3 รอบต่อวัน คือ 24.00, 07.00 และ 15.00 น. ปัญหาคือ ผู้ประกอบการร้านค้าเลิกร้านไม่พร้อมกัน ร้านค้าจะไม่สามารถวางถุงขยะหน้าร้านได้ โดยแต่ละร้านต้องหาจุดพักขยะด้วยตนเอง โดยให้สำนักงานเขตมาเก็บ ณ จุดนั้น รถขยะไม่สามารถจอดบนถนนนานๆ ได้เพราะเสี่ยงอุบัติเหตุ เราอนุโลมให้ผู้ประกอบการนำถุงขยะมาวางด้านหน้าร้าน แต่ปริมาณขยะมีเยอะมาก รถขยะก็พยายามเพิ่มรอบเพื่อวิ่งบ่อยๆ ผู้ประกอบการต้องหาจุดทิ้งขยะให้ได้ และการแยกขยะเป็นสิ่งสำคัญ ต้องขอให้สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ เป็นผู้จัดสรรพื้นที่ให้เป็นจุดทิ้งขยะในอนาคต ส่วนเรื่องการจัดการทางเท้านำสตรีทฟู้ดแผงลอยกลับมา จะนำเรียนเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป” ผู้ช่วย ผอ.เขตปทุมวัน ตอบครบปิดจบ 3 ข้อ
- ส.ก.แนะจุฬาฯ จัดพื้นที่ทิ้งขยะ
เล่าเหตุระเบิดราชประสงค์ ปี’58 ทำถังทั่วกรุงหายเกินครึ่ง
ด้าน ดร.เมธาวี ธารดำรงค์ ส.ก.เขตปทุมวัน ร่วมคอมเมนต์ในประเด็นถังขยะทั่วกรุงหายเกินครึ่ง ว่ามาจากเหตุระเบิดในถังขยะบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อ พ.ศ.2558 ซึ่งนั่นเป็นเวลา 10 ปีมาแล้ว
“เห็นใจทั้งสำนักงานเขตและผู้ประกอบการ สืบเนื่องจากเหตุการณ์เหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ในกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2558 พบการระเบิดที่ถังขยะพลาสติก ด้วยเหตุนี้ทำให้ทาง กทม.จึงลดจำนวนการตั้งถังขยะให้น้อยลง ผู้ประกอบการถนนบรรทัดทองต้องขอพื้นที่สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ สักหนึ่งที่ เพื่อเป็นที่พักขยะให้แก่ร้านค้า
ทุกวันนี้สำนักงานเขตเก็บขยะยาก เพราะทุกคนมาทิ้งไม่เป็นเวลา ในวันที่ 1 ตุลาคม ข้อบัญญัติค่าธรรมเนียมฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ ถ้าบ้านไหนไม่แยกขยะ กทม.จะขึ้นค่าขยะเป็น 60 บาทต่อเดือน เพื่อให้มีการแยกขยะทุกบ้านทุกครัวเรือน ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บขยะง่าย ทำให้ไม่มีหนู เราจะทำอย่างไรให้การแยกขยะจัดทำได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่มีเพียงแค่ขยะจากผู้ประกอบการ แต่ยังมีขยะจากนักท่องเที่ยวด้วย ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน” ส.ก.เขตปทุมวันแนะ
- กลัวระเบิดไม่ใช่คำตอบ จ่อนำปม‘ถังขยะ’เข้าสภาผู้แทนฯ
ปิดท้ายที่ ‘คนกลางพิเศษ’ อย่าง พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ซึ่งมาร่วมหาทางออกของถนนบรรทัดทองเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างสะพานเชื่อมความหวัง พร้อมรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พิเชษฐ์มองว่า ถนนบรรทัดทองเป็นย่านเศรษฐกิจที่ดี แต่เมื่อเศรษฐกิจซบเซาจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจยั่งยืน อาจจะมีหลายฝ่ายที่ไม่ได้ประสานความร่วมมือกัน บางสิ่งบางอย่างมีการจัดการเพื่อหวังว่าจะดีขึ้น แต่อาจกลับกลายเป็นการส่งผลให้สูญเสีย ‘บรรยากาศ’
“ใกล้ตัวที่สุดคือ สำนักงานเขตปทุมวันและสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ต้องร่วมพูดคุยกัน เนื่องจาก กทม.มีกฎระเบียบตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 แต่เหตุนี้ทำให้ค้าขายลำบากขึ้น ขาดองค์ประกอบด้านแรงจูงใจ ขาดนักท่องเที่ยวเดินเข้ามายังถนนบรรทัดทอง
สมาคมต้องร่วมพูดคุยกับทาง กทม.ว่าขอคืนได้หรือไม่ ทำไมเยาวราชเขาสามารถทำได้? ทำไมถนนข้าวสารทำได้? ทั้งที่ถนนบรรทัดทองสามารถเป็นพื้นที่ที่สร้างเศรษฐกิจในประเทศได้ หากมีภาพรวมที่สามารถกลับมาได้ บรรทัดทองก็จะอยู่ได้ หากบรรทัดทองยังเป็นแบบนี้อยู่ ผู้ประกอบการจะอยู่ไม่ได้
สำหรับประเด็นเรื่องขยะ เราต้องบังคับให้ทุกคนแยกขยะหลายๆ ถัง หากใครไม่แยกต้องจัดการ ถ้าไม่มีขยะ ไม่มีหนู เราต้องช่วยๆ กัน และต้องมีเทคโนโลยีที่จัดการ ถนนบรรทัดทองไม่ใช่บ้าน แต่คือแหล่งธุรกิจ
เราต้องตื่นจากระเบิดก่อน การไม่มีถังขยะเพราะกลัวระเบิดไม่ใช่คำตอบ ระยะเวลาผ่านมาหลายปีแล้ว กทม.ต้องนำถังขยะกลับมา ไม่ใช่ถังขยะทั่วกรุงเทพฯ จะมีระเบิดอีกเหมือนที่ผ่านมา
ผมจะนำเรื่องการนำถังขยะกลับมาเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ให้ ส.ส.พรรคประชาชนยื่นญัตติ ให้ถังขยะ กทม.กลับมา ไม่ใช่มีเพียงแค่ 3 ถัง ส่วนเรื่องหนูคือเรื่องปลายเหตุ เราต้องจัดการต้นเหตุ รณรงค์ให้ถังขยะกลับมาทุกเขตให้ได้” พิเชษฐ์กล่าว

ส่วนประเด็นการนำสตรีทฟู้ดแผงลอยกลับมา พิเชษฐ์ชี้เป้าให้สมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทองทำหนังสือถึงสำนักงานเขตปทุมวัน โดยอาจกำหนดวันที่ชัดเจน เช่น สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือเดือนละกี่ครั้ง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาได้ และเขตก็จะสามารถตอบคำถาม มาตรา 157 (ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่) ได้
นับจากนี้ไป ถึงเวลาจับตาบรรทัดทอง ว่าจะฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นย่านคูลๆ ที่ไร้หนู แต่มากมายด้วยสตรีทฟู้ดเสน่ห์แรง แปะป้ายย่านเศรษฐกิจพิเศษและแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างแท้จริง