แท็งก์ความคิด : ปัญหาสู่โอกาส

ผู้เขียน	นฤตย์ เสกธีระ

แท็งก์ความคิด : ปัญหาสู่โอกาส

เหมือนกับที่เคยกล่าวไว้ว่า งานสัมมนาในเครือมติชน หากมีโอกาสไปฟัง น่าจะไปฟัง

เช่นเดียวกับงาน สัมมนา “PRACHACHAT EXCLUSIVE FORUM 2025 คน…พลิกวิกฤต” ที่เพิ่งผ่านพ้นไป

งานนี้กอง บก.ประชาชาติธุรกิจได้เชิญซีอีโอ และผู้ที่มีประสบการณ์ทางธุรกิจมาแชร์ไอเดียเพื่อพลิกวิกฤต

ขอโฟกัสเฉพาะคนแรก คือ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” CEO ดุสิตธานี

โจทย์ที่คุณศุภจีได้รับคือ “ปัญหาที่นำไปสู่โอกาส” สอดรับกับสถานการณ์ของหลายคนในปัจจุบัน

มุมมองของคุณศุภจีก็สุดยอด แค่นิยามคำว่า “ปัญหา” เสียใหม่ก็ทำให้ใจชื้น

คุณศุภจีมองว่า “ปัญหา” คือ “ข้อมูล”

เป็น “ข้อมูลใหม่” ที่เรายังไม่รู้มาก่อน เป็นข้อมูลที่เปิดช่องให้เรา “คิดสิ่งใหม่ๆ” ขึ้นมา และเป็นข้อมูลที่ช่วยให้เราได้สร้าง “โอกาสใหม่” เพื่อการเติบโตและแข็งแรง

ขณะที่ใครประสบพบปัญหาขอให้จำแนก “ข้อมูล” ที่พบนั้นออกเป็น 3 กอง

กองแรก เป็นปัญหาที่แก้ได้ เมื่อเห็นทางแก้ไขก็ลงมือดำเนินการได้ทันที

กองที่สอง เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ เช่น ปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งที่จะดำเนินการคือปรับตัวให้อยู่รอด

กองที่สาม เป็นปัญหาที่ไม่ควรแก้ ไม่ควรไปแตะ เมื่อพบเห็น “ข้อมูล” กองนี้แล้ว ควรจะ “อุเบกขา”

วิธีการจำแนกปัญหายังมีอีก เช่น มองแยกเป็นชนิด นั่นคือ ปัญหาเรื่องคน ปัญหาเรื่องงาน ปัญหาเรื่องเงิน

การจำแนกชนิดของปัญหาจะนำไปสู่วิธีการแก้ปัญหา

แต่ก่อนจะแก้ไขปัญหาต้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นให้ออกว่า นั่นคือ “ปัญหา” หรือ “อุปสรรค”

ถ้าเป็น “อุปสรรค” ที่กีดขวางมิให้เดินไปสู่เป้าหมายได้ ก็ค่อยๆ ทำให้อุปสรรคคลี่คลาย

แต่ถ้าเป็น “ปัญหา” คือเดินไปยากแล้ว ต้องหาทางใหม่ในการเดิน

จำแนกได้เช่นนี้ก็จะง่ายต่อการแก้ไข

วิธีแก้ปัญหานั้น ให้เริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมาย เราจะแก้ไขปัญหาไปเพื่ออะไร

หากเป้าหมายที่วางไว้นั้นใหญ่โตมาก ก็ให้แบ่งเป้าหมายที่ใหญ่นั้นให้เป็นเป้าหมายย่อย เพื่อวางกลยุทธ์เดินสู่เป้าหมาย

ทั้งนี้เราต้อง รู้ใน รู้นอก และรู้จังหวะ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข

โมเดลที่คุณศุภจีแนะนำคือ TAM Model ประกอบด้วย T คือ Think Big คิดใหญ่ A คือ Act Small ค่อยๆ ทำไป และ Move Right เดินหน้าไปเรื่อยๆ อย่างถูกเป้า

แต่ละจังหวะก้าวต้องสร้างความเชื่อมั่นผ่าน Quick Win ยึดแนวทาง Win แล้วก็ Win Again แล้วก็ Win More

ปัญหาที่ใหญ่ๆ หลังจากมีเป้าหมายใหญ่ก็แบ่งกันดูแลรับผิดชอบ แต่ละส่วนมีเป้าหมายย่อยของตัวเอง

แต่ละเป้าหมายย่อยที่ประสบความสำเร็จจะนำไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมายใหญ่

นอกจากนี้ คุณศุภจียังแนะนำอีกว่า เมื่อประสบปัญหา นอกจากจะต้องรู้จักมองปัญหา รู้จักวิธีแก้ปัญหาแล้ว ยังต้องรู้วิธีดูแลใจอีกด้วย

การดูแลใจนอกจากจะดูแลใจตัวเองแล้ว ยังต้องดูแลใจคนในองค์กรด้วย

วิธีการดูแลใจที่ดี คือ 1.การยึดมั่นในคุณค่าของสิ่งที่กำลังทำ 2.ต้องรู้จักแยกแยะระหว่าง “ข้อเท็จจริง” กับ “เสียงรบกวน” และ 3.ต้องเข้าใจ “เหตุ” และ “ปัจจัย”

คุณศุภจีนยังยกตัวอย่างการจัดการปัญหาที่ตัวเองประสบ เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้ผู้คนที่ร่วมงานสัมมนาได้รับฟัง

ใครที่ได้ยินได้ฟัง อย่างน้อยก็จะรู้ว่า ไม่ใช่มีเฉพาะเราที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหา

และเมื่อเกิดปัญหาขึ้น คนที่จะฝ่าฟันปัญหาไปได้นั้นต้องรู้จักมอง รู้จักจำแนก รู้จักวิธีจัดการกับปัญหา และต้องรู้จักวิธีบริหารจิตใจของตัวเองและทีมงาน

นี่แค่ฟังวิทยากรคนแรกในงานสัมมนาประชาชาติ ไอเดียหลายอย่างก็ประดังขึ้นมา

ถ้ามีโอกาสได้ฟังคนอื่นๆ ที่มาขึ้นเวทีถ่ายทอดประสบการณ์ครั้งนี้ เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวก็จะเห็นภาพ

ภาพของ “คน” ที่เป็นหัวใจสำคัญในการ “พลิกวิกฤต” ให้แก่ตัวเอง องค์กร หรือแม้แต่ประเทศชาติ

นฤตย์ เสกธีระ