ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
---|
แท็งก์ความคิด : คุณค่ามิตรภาพ
วันที่ 30 มิถุนายน มีโอกาสเข้าไปสัมผัสงานความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบ 50 ปี
งานจัดกันที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเจ้าภาพ
แขกเหรื่อที่ไปร่วมยินดีกับความสัมพันธ์ล้นหลาม
ฝ่ายไทยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันนั้น และ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทน
ฝ่ายจีน มี นายอู๋ จื้ออู่ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นตัวแทน
ภายในงาน มีแขกเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในวันนั้น
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนักธุรกิจอีกหลากหลายคน
นอกจากนี้ ยังมี นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ พร้อมกันนั้นยังมีสมาคมต่างๆ มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก
กระทั่งถึงเวลาเริ่มงาน ทั้งนายภูมิธรรม นายมาริษ และนายอู๋ ได้ขึ้นเวทีกล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน
นายภูมิธรรมย้อนความสัมพันธ์ไทยกับจีนไปเกินกว่าวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต
เพราะไทยกับจีนมีความสัมพันธ์กันมานานกว่า 740 ปี
ทั้งสองชาติมีปฏิสัมพันธ์กันหลายด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคมและวัฒนธรรม
นายภูมิธรรมระบุว่า คำขวัญในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในปีนี้ ที่ว่า “จีน-ไทย สานใจกัน ร่วมสร้างฝันประชาคม” แสดงให้เห็นถึงเจตจำนงร่วมกันในการเดินหน้าไปด้วยกัน สู่อนาคตที่มั่นคง เปิดกว้าง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ นายอู๋ จื้ออู่ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตอกย้ำความเข้าใจระหว่างกันของไทยและจีน มีการร่วมทุกข์-ร่วมสุขกันมาตลอด แม้จะเผชิญกับความท้าทาย
การร่วมทุกข์ร่วมสุขกันทำให้มิตรภาพอันดียิ่งแน่นแฟ้นขึ้น
นายอู๋บอกว่า ไม่ว่าโลกจะผันผวนอย่างไร แต่ทั้ง 2 ประเทศจะยึดมั่นในการเคารพกันและกัน ปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาค
ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ในทุกมิติ มีความลึกซึ้งในระดับสูง มีความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
เหล่านี้คือลักษณะที่โดดเด่นของความร่วมมือจีนและไทย
สำหรับอนาคต นายอู๋มั่นใจว่าความสัมพันธ์จีนและไทยจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ยืนยันว่าจีนพร้อมเป็นหุ้นส่วนที่ไทยไว้ใจ พึ่งพาได้เสมอ
ฝ่ายจีนพร้อมกระชับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์การพัฒนา เร่งรัดผลักดันการสร้างเส้นทางรถไฟจีน-ไทย กระชับความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการยกระดับทางเศรษฐกิจ
และขอให้ร่วมแรงร่วมใจกันก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
ได้ยินได้ฟังตัวแทน 2 ฝ่ายแล้วรู้สึกอิ่มเอิบ สัมผัสได้ว่ามิตรภาพย่อมดีกว่าเป็นศัตรู
การเป็นมิตรกันทำให้คิดสร้างสรรค์และพัฒนา แตกต่างจากการเป็นศัตรูกัน ที่มุ่งคิดที่จะทำลายล้าง
ขณะที่ไทยสร้างมิตรกับประเทศต่างๆ และสามารถทำให้ประเทศต่างๆ ประทับใจ
ไทยก็น่าจะหันมาสร้างความสัมพันธ์อันเป็นมิตรกันภายในประเทศ
เพราะความสัมพันธ์กันในประเทศน่าจะทำให้คนในชาติเกิดความร่วมมือร่วมใจ
เวลา 24 ชั่วโมง ใน 1 วัน จะได้คิดไปในทางสร้างสรรค์ ไม่เสียเวลาสักวินาทีไปคิดทำลายล้าง
ถ้าภายในประเทศเรามีความเป็นมิตร ปัญหาต่างๆ น่าจะได้รับการแก้ไข
ความฝันที่อยากเห็นประเทศชาติรุ่งเรืองก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
นฤตย์ เสกธีระ