ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สาโรจน์ มณีรัตน์ |
เผยแพร่ |
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีธุรกิจเกิดใหม่มากมาย ที่ล้วนมุ่งตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น อย่างที่ผ่านมาในทุกมุมของโลกล้วนต่างทำกิจการค้าขายออนไลน์อย่างคึกคัก
หลายคนประสบความสำเร็จ ร่ำรวยตั้งแต่ชั้นมัธยมปลาย
หลายคนประสบความสำเร็จ จนกระทั่งมีการเมิร์ชกับยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ช จนทำให้ธุรกิจแข็งแรงตั้งแต่เขายังเรียนไม่จบปริญญาตรี
ขณะที่อีกหลายคนเลือกประกอบอาชีพอิสระ เพราะคิดว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่สนองตอบกับความต้องการของตน เพราะกว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้า
ผู้จัดการ
หรือกรรมการผู้จัดการ
ไฟฝันคงมอดไปเสียก่อน
พวกเขาจึงเลือกประกอบธุรกิจออนไลน์ หรือบางคนแม้มีงานประจำทำอยู่แล้ว แต่ก็หางานพิเศษทำอีกสองสามอย่าง เพราะเขาคิดว่าการหารายได้พิเศษนอกเวลางาน สามารถสร้างรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง
แต่บางคนถ้ามีเงินลงทุนมากหน่อย หรือมีอาคารพาณิชย์เก่าแก่ เขาจะใช้เงินลงทุนนั้นทำการรีโนเวตตึกเก่าแก่ให้กลายเป็นโฮสเต็ล
จับกลุ่มลูกค้าฝรั่งแบ๊กแพคที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย
โดยเฉพาะแถวข้าวสาร บางลำพู เยาวราช เจริญกรุง และอีกหลายถนนในมหานครกรุงเทพ ไปจนถึงเชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และจังหวัดอื่นๆ
ก็ล้วนแต่มีธุรกิจโฮสเต็ลเกิดขึ้น
กล่าวกันว่าสาเหตุที่ธุรกิจโฮสเต็ลเปิดให้บริการกันในหลายสถานที่ เพราะอาชีพบริการเป็นอาชีพในฝันของคนหนุ่มสาวหลายคน เพราะโฮสเต็ลก็คล้ายๆ กับธุรกิจโรงแรม
เพียงแต่ย่อขนาดมาเท่านั้นเอง
แต่การบริการภายในทุกอย่างเหมือนโรงแรมทั้งสิ้น
และคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันอยากเป็นเจ้าของโรงแรม พอมีธุรกิจโฮสเต็ลเข้ามาเป็นทางเลือก จึงทำให้คนหนุ่มสาวจึงหันมาเปิดโฮสเต็ลกันค่อนข้างมาก
ที่สำคัญเครื่องมือทางเทคโนโลยีสมัยนี้มีส่วนช่วยอย่างมาก ที่ทำให้ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จ เพราะแค่คุณเสิร์ชหาสถานที่ที่คุณจะไปพัก และเสิร์ชหาต่อว่ามีโฮสเต็ลไหนบ้างที่น่าสนใจ ราคาไม่แพง มีบริการอาหารเช้า มีฟรี wifi ให้ด้วยหรือเปล่า และมีบริการเสริมอะไรบ้าง
ยิ่งถ้ามีรีวิวของคนที่เคยไปมาก่อนแล้วคอมเมนต์ว่าโฮสเต็ลที่นี่น่าพัก น่าสนใจ และบริการดี ยิ่งจะเป็นการตอกย้ำ จนทำให้คนที่เข้ามาดูตัดสินใจโดยไม่ยาก
ที่สำคัญธุรกิจโฮสเต็ลลงทุนไม่มาก และน่าจะคืนทุนในระยะอันไม่นาน
จึงเป็นสาเหตุให้คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่หันมาทำธุรกิจนี้ค่อนข้างมาก และไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้น หากในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียอีกหลายประเทศ เขาก็ทำธุรกิจโฮสเต็ลกัน
ยิ่งถ้าประเทศไหนมีจุดขายทางวัฒธรรม มีความเป็นเมืองมรดกโลก มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีสตรีตฟู้ดเยอะๆ ยิ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะมาอย่างยิ่ง
เพราะมาแล้วมีอะไรให้ทำมากมาย
ซึ่งเหมือนกับอีกธุรกิจหนึ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานผ่านมาในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะมาแพร่หลายในยุโรป และเอเชีย
รวมถึงประเทศไทยเมื่อไม่กี่ปีผ่านมาด้วย
นั่นคือธุรกิจโค-เวิร์กกิ้ง เสปซ (Co-Working Space) หรือธุรกิจร่วมกันทำงาน ธุรกิจนี้กำลังเป็นที่สนใจของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่วัยทำงาน พวกเจนวาย เจนแซด ที่ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ พนักงานออฟฟิศที่ไม่ชอบการประชุมในห้องสี่เหลี่ยม
พวกเขาจึงออกมาประชุมกันตามร้านกาแฟสตาร์บัคส์
คาเฟ่แอนด์เรสเตอรองต์
มินิบาร์
และอื่นๆ
เพราะเขาเชื่อว่าการประชุมข้างนอกน่าจะให้ทำให้เกิดบรรยากาศแห่งการสร้างสรรค์มากกว่า ที่สำคัญ การประชุมอย่างไม่เป็นทางการจะช่วยทำให้ทุกคนกล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็น จนทำให้ข้อสรุปของการประชุมเป็นไปในทิศทางที่ดี
แต่ปัญหาคือร้านเหล่านั้นประชุมได้เพียงไม่กี่คน ใช้เวลานานมากก็ไม่ได้ และจะใช้อุปกรณ์ในการประชุมอย่างโน้ตบุ๊กก็จะทำให้โต๊ะข้างๆ รำคาญได้
นักธุรกิจรุ่นใหม่จึงมองเห็นช่องว่างทางธุรกิจตรงนี้ ด้วยการเปิดโค-เวิร์กกิ้ง เสปซ เพื่อรองรับกลุ่มคนเหล่านี้ จากนั้นก็ทำการรีโนเวตอาคารพาณิชย์ ตึกแถว อาคารสำนักงาน และบ้าน
ด้วยการออกแบบดีไซน์ แบ่งฟังก์ชั่นของห้องต่างๆ รองรับกลุ่มลูกค้าไม่เกิน 10 คนบ้าง 15-20 คนขึ้นไปบ้าง หรือบางแห่งอาจรองรับได้ไม่เกิน 50 คนก็มี
ภายในห้องประชุมบรรยากาศจะเหมือนร้านกาแฟที่เขาเคยชิน เพราะนอกจากจะมีบริการชา กาแฟ โอวัลติน โกโก้แล้ว ยังมีบริการน้ำเปล่า แสน็กให้กับผู้ใช้บริการอีกด้วย
นอกจากนั้น ยังมีฟรี wifi มีจอโปรเจ็กเตอร์ มีปลั๊กเสียบโน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟนในหลายๆ จุด หรือถ้าหากประชุมยาว และอยากจะสั่งอาหารเที่ยง อาหารเย็น เพิ่มเติม หรืออยากจะปาร์ตี้กันหลังประชุมเสร็จ ทางโค-เวิร์กกิ้ง เสปซ บางแห่งก็จะมีบริการให้
เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องไปไหนเลย
สำหรับค่าบริการของธุรกิจโค-เวิร์กกิ้ง เสปซ แบ่งออกเป็นรายชั่วโมง รายวัน และรายเดือน ถ้าเป็นรายชั่วโมงจะอยู่ที่ 150-500บาท ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่ อุปกรณ์ในการประชุม
ส่วนค่าบริการรายวันจะอยู่ที่วันละ 5,000 บาท
ขณะที่ค่าบริการรายเดือนจะอยู่ที่ 15,000-30,000 บาท ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่ ทำเล และการบริการในแต่ละแพคเกจด้วย
นอกจากนั้น บางแห่งยังมีบริการที่ทำการไปรษณีย์เล็กๆ และเมสเซ็นเจอร์เพื่อวิ่งรับส่งเอกสารอีกด้วย ส่วนสนนราคาขึ้นอยู่กับสถานที่ใกล้ไกลที่จะไป
สำหรับธุรกิจโค-เวิร์กกิ้ง เสปซ ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะอยู่กลางเมืองของมหานครกรุงเทพ อาทิ สุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ สยามสแควร์ สีลม ราชเทวี ลาดพร้าว พูดง่ายๆ คืออยู่ตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส
ส่วนต่างจังหวัดที่มีแล้วในขณะนี้คือเชียงใหม่
และอนาคตน่าจะขยายไปตามหัวเมืองต่างๆ อีกด้วย
ฉะนั้น จะเห็นว่าการทำธุรกิจในปัจจุบันต่างมุ่งตอบสนองคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้วว่าจะมองเห็นโอกาสหรือเปล่า
เพราะโอกาสอยู่ในอากาศ เพียงแต่เราจะคว้ามาครอบครองได้หรือไม่เท่านั้นเอง เพราะโลกธุรกิจในปัจจุบันเป็นของพวกเขาแล้ว
เราจึงต้องมองพวกเขาอย่างชื่นชมด้วย