ฟรีสไตล์เรื่องบ้านๆ : เฮทั้งแผ่นดิน’ดอกเบี้ยคสช.’

กระดี๊กระด๊าเป็นอย่างยิ่งสำหรับโครงการบ้านประชารัฐ

ปูพื้นกันสักนิด โครงการบ้านประชารัฐเป็นเวอร์ชั่น ล่าสุด ของนโยบายสร้างบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือนโยบายบ้านคนจน เป็นหนึ่งในนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐที่รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยจะต้องเข้ามาดูแล เพราะผู้มีรายได้น้อยหรือคนจนถือเป็นกลุ่มด้อยโอกาสในสังคม

โดยเฉพาะความต้องการอยากมีบ้านเป็นของตัวเองดูเหมือนเป็นเรื่องไกลสุดเอื้อมสำหรับคนจนบางคน หรืออาจจะหลายๆ คนก็ได้ เพราะบ้านยุคนี้ราคาก็แพงแสนแพง

รัฐบาลชุดปัจจุบันโปรโมตนโยบายบ้านผู้มีรายได้น้อยตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว ราวๆ กลางเดือนตุลาคม 2558 เริ่มต้นดี๊ดี จะต้องมีราคาไม่เกิน 5-7 แสนบาท สำหรับผู้ซื้อที่มีรายได้เดือนละไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท

Advertisement

แต่ก็อย่างว่า …ระหว่างทางกลายพันธุ์ไปเยอะ โครงการนี้กว่าจะเป็นรูปธรรมมีการหารือกันหัวแทบแตก ฝ่ายเอกชนที่ถูกดึงเข้ามาร่วมสังฆกรรมยกแม่น้ำทั้งห้ามาเล่าให้รัฐบาลฟังว่าราคาที่กำหนดมาทำไม่ได้จริงๆ เพราะต้นทุนพัฒนาโครงการแพงมาก โดยเฉพาะราคาที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนหลัก

ประเด็นคือจะไม่ง้อเอกชนก็ไม่ได้อีกต่างหาก เพราะรัฐบาลทั่นไปสำรวจดีมานด์บ้านคนจนมีสูงถึง 4.5 ล้านครัวเรือน ในขณะที่หน่วยงานภาครัฐที่ทำบ้านคนจนมองไปก็มีเพียง “การเคหะแห่งชาติ” หรือ กคช. ขีดความสามารถทำได้เฉลี่ยปีละ 1 หมื่นหลัง รัฐบาลอยากทำเร็วๆ ก็เลยทำแผนแม่บทสร้างบ้านคนจน 10 ปี 2.7 ล้านหลัง เฉลี่ยปีละ 2.7 แสนหลัง แปลว่าจะฝากความหวังไว้กับการเคหะฯเพียงองค์กรเดียวคงไม่เร็วแน่นอน จึงเป็นเหตุผลที่ต้องดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมให้เยอะๆ

นโยบายบ้านคนจนจึงพัฒนามาเป็นโครงการบ้านประชารัฐ มาจากแนวคิด “รัฐร่วมมือกับเอกชน ประชาชนได้ประโยชน์” นั่นเอง

Advertisement

ด้วยเหตุผลของการดึงภาคเอกชนมาร่วมมือคงเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐต้องพบกันครึ่งทางมากขึ้น เพื่อให้บ้านประชารัฐมีโอกาสเกิดได้จริง และเกิดได้ในปริมาณเยอะๆ ราคาตั้งต้น 5-7 แสนบาท จึงกลายเป็นการขยับเพดานสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาทในปัจจุบัน

เอาล่ะ เข้าเรื่องดอกเบี้ยเสียที (ฮา) อสังหาริมทรัพย์ราคาบ้านประชารัฐ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทนั้น เดิมฝั่งเอกชนให้ความสนใจกันน้อยมากเพราะหาซื้อที่ดินยาก ทำแล้วกำไรก็น้อย เรื่องนี้รัฐบาลรู้ดีก็เลยหันมาโด๊ปให้เข้ามาร่วมทำเยอะๆ ด้วยการแจกสิทธิประโยชน์ด้านสินเชื่อ ซึ่งถือว่าเป็นจุดอ่อนของภาคเอกชนก็ว่าได้ เพราะตอนนี้ขายได้แต่โอนไม่ได้ เนื่องจากแบงก์ไม่ปล่อยกู้ หรือปล่อยกู้ยากมาก

โดยที่สิทธิประโยชน์หลักๆ ของบ้านประชารัฐมองผ่านแคมเปญ ธอส. (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) มีดังนี้ 1.บ้านประชารัฐราคาต่ำกว่า 7 แสน รับไปเลย ดอกเบี้ย 0% 1 ปีแรก ปีที่ 2-3 คิดดอกเบี้ย 3% ปีที่ 4-6 คิดดอกเบี้ย 5% หลังจากนั้นตลอดอายุเงินกู้คิดดอกเบี้ย MRR ลบสามสลึง (MRR -0.75%)

อยากจะชี้ให้เห็นว่า ดอกเบี้ยโปรโมชั่นยาวขึ้น เทียบกับปกติดอกเบี้ยโปรโมชั่นจะมีแค่ 2-3 ปีแรก แต่บ้านประชารัฐต่ำ 7 แสนยาวถึง 6 ปีแรก

ต่อมา บ้านประชารัฐราคา 7 แสน-1.5 ล้าน ใจป้ำมากให้ดอกเบี้ยคงที่ 3% 3 ปีแรก ปีที่ 4-6 ดอกเบี้ยคงที่ 5% หลังจากนั้นตลอดอายุเงินกู้ MRR ลบสามสลึง (ถ้าเป็นลูกค้าสวัสดิการ ธอส.ให้ MRR ลบ 1 บาท)

อยากจะชี้ให้เห็นว่า ดอกเบี้ยโปรโมชั่นของกลุ่มนี้ยาวถึง 5 ปีแรก ซึ่งก็ยาวนานกว่าดอกเบี้ยโปรโมชั่นปกติเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อกู้ซ่อมแซม ตกแต่ง ซื้อเฟอร์นิเจอร์อีกรายละ 5 แสนบาทสำหรับคนที่มีบ้านเป็นของตนเองอยู่แล้ว เข้าใจว่าเทอมสินเชื่อให้ 6 ปี เงื่อนไขดี๊ดีคือมีดอกเบี้ย 0% ปีแรก กับดอกเบี้ย 2% ในปีที่ 2-3 ส่วนปีที่เหลือดอกเบี้ยคิด 5%

คนมีกะตังค์อย่าเพิ่งเซ็งค่ะ คนที่กำลังจะซื้อบ้านราคาเกิน 1.5 ล้านคงได้แต่ตะโกนดังๆ อยู่ในใจว่า …แล้วฉันล่ะ

จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม นโยบายรัฐบาลเวลาทำอะไรออกมาสักอย่างจะส่งแรงกระเพื่อมไปถึงฟากเอกชนเสมอ เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง อสังหาฯ ราคาต่ำ 1.5 ล้านมีประมาณ 10% เท่านั้น แปลว่าอีก 90% ราคาเกิน 1.5 ล้าน รัฐบาลบอกโต้งๆ อยู่แล้วว่าไม่ได้ช่วยอะไร แปลความหมายอีกทีคือเอกชนต้องช่วยตัวเอง

เรื่องนี้ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ (24-27 มีนาคม 2559) ไปทำสำรวจโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านราคาเกินล้านห้า พบว่า หลายบริษัทพากันจัดแคมเปญสินเชื่อยกใหญ่ นำอสังหาฯ

ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม ราคา 2 ล้านถึง 60 ล้านมาจัดสินเชื่อพิเศษ

ล้อไปกับสินเชื่อบ้านประชารัฐ

ตัวอย่างเช่น ดอกเบี้ย 0% ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี (ย้ำอีกที ปกติแบงก์จัดให้ 1-2 ปีแรก) หรือให้เลือกผ่อนล้านละ 1-4 พันบาท ยังไม่นับรวมสิทธิประโยชน์บ้านประชารัฐในเรื่องโปรโมชั่นฟรีค่าส่วนกลางปีแรก กับส่วนลดพิเศษอีก 2% ปรากฏว่า อสังหาฯราคาแพงทั้งหลายพากันให้คล้ายๆ กัน เช่น มีดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี มีดอกเบี้ย 0% (แม้จะมีระยะเวลาสั้นกว่า) หรือให้มากกว่า เช่น ฟรีค่าส่วนกลาง 1-3-5 ปี เป็นต้น

ได้แต่บอกว่าเห็นโปรโมชั่นแล้วน้ำลายหก นึกไม่ออกว่ายังจะมีอะไรเจ๋งไปกว่านี้อีกแล้ว ทั่นผู้ชม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image