ที่มา | มติชนรายวัน หน้า 17 |
---|---|
คอลัมน์เริงโลกด้วยจิตรื่น | |
ผู้เขียน | จัทนร์รอน |
เผยแพร่ |
โลกของเรา ชีวิตของใคร
เมื่อมีใครบอกว่า “ชีวิตบังคับไม่ได้ มันจะเป็นไปเอง” เบื้องต้นเราจะฟังแบบปล่อยผ่าน คือฟังๆ ไป แต่ลึกๆ แล้วคัดค้านอยู่ในใจว่า “ทำไมจะไม่ได้ ชีวิตเป็นของเรา จะให้เป็นอย่างไรก็ย่อมทำได้” แล้วก็สรุปว่า “เพียงแต่ไม่ได้ทำเท่านั้นเอง”
นั่นเป็นความคิดเบื้องต้น
หากเอามาขบคิดสักนิดให้เป็นความคิดที่ละเอียดขึ้น เราจะรับรู้จากความคิดนั้นว่า “ก็จริงอยู่ เรากำหนดชีวิตไม่ได้ทั้งหมด เนื่องจากเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นประกอบด้วยอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง บางอย่างเกิดจากเรา แต่มีจำนวนมากที่เกิดจากคนอื่น สิ่งอื่น จากสิ่งแวดล้อมทุกๆ อย่าง และสิ่งหรือคนเหล่านั้นก่อให้เกิดผลกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น บ่อยครั้งมากกว่าสิ่งที่เรากำหนดได้”
ความคิดเช่นนี้จะทำให้เราเริ่มยอมรับว่า “ชีวิตเป็นไปโดยที่เรากำหนดไม่ได้”
แต่ก็อีกนั่นแหละ แม้จะรับรู้จากความคิดว่าเป็นเช่นนั้น ตามประสาคนเราที่ต้องการความมั่นใจ จะเกิดความคิดแบบแบ่งว่า ในเรื่องราวหนึ่ง “มีบางอย่างที่เรากำหนดได้ บางอย่างที่เรากำหนดไม่ได้”
แล้วก็เริ่มคิดว่าจะต้องเริ่มต้นจากการจัดการปัจจัยที่เรากำหนดได้ และปล่อยให้เรื่องอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการกำหนดของเราไปก่อน
จัดการเฉพาะที่กำหนดได้ให้ดีที่สุด อย่างอื่นก็ปล่อยไป หรือค่อยๆ ขยายความสามารถในการจัดการให้กว้างขวาง ครอบคลุมขึ้นเรื่อยๆ
นี่เป็นการบริหารจัดการที่อยู่ในความจริงระดับหนึ่ง
ระดับที่เห็นศักยภาพของตัวเองชัดเจนว่าสามารถจัดการกับอะไรได้ จัดการกับอะไรไม่ได้ หรืออาจจะถึงขั้นเห็นว่าจะต้องเพิ่มศักยภาพให้เป็นอย่างไร จึงจะสามารถขยายการจัดการให้เรื่องราวต่างๆ เป็นไปตามที่ต้องการมากขึ้น กว้างขึ้น ครอบคลุมขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีอยู่กับสติ เห็นการเชื่อมประสานกันของปัจจัยภายนอกที่ควบคุมได้ยาก หรือไม่ได้ กับปัจจัยภายในที่คิดว่าต้องควบคุมได้ แต่จะมีบางครั้งที่เกิดความรู้สึกว่า แม้กระทั่งปัจจัยภายใน อันหมายถึงการตัดสินใจของเราเองก็ควบคุมไม่ได้ หรือยากที่จะควบคุม
อย่างเช่น อยากทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเรื่องสร้างที่เราคิดสร้าง และกำหนดจัดการ ชีวิตกับนำพาไปเอ้อระเหยลอยชาย กับเรื่องราวบางอย่างที่รับรู้ได้ว่าจะสร้างความรื่นรมย์
พาไปในสิ่งที่ชอบ โดยไม่ได้นึกว่าควรหรือไม่ควร
จากรู้สึกว่าบางครั้งเป็นเช่นนั้น แต่หากทบทวนให้ดีแล้วว่า ไม่ใช่บางครั้งหรอก แต่เป็นบ่อยครั้ง หรือกระทั่งเป็นส่วนใหญ่
ปัจจัยภายในที่คิดว่าอยู่ในการควบคุมสามารถจัดการได้นั้น ที่สุดแล้วไม่ต่างจากปัจจัยภายนอก หรือจัดการได้ยาก หรือกระทั่งจัดการไม่ได้เลย
ด้วยความรู้สึกนี้ หากกลับมาทบทวนข้อสรุป “ชีวิตควบคุมไม่ได้ มันเป็นไปเอง” เราจะรู้สึกถึงความเป็นจริงมากขึ้น
เมื่อมองให้ลึกลงไป
“ความคิดเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจกระทำ ความคิดจะสร้างวิธีการแสดงออกเพื่อตอบโต้สิ่งต่างๆ ของเรา”
เหมือนว่าหากเรากำหนดความคิดได้ ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่ต้องการจัดการ เพราะจะแสดงออกได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการให้เป็น
ทว่าบ่อยครั้งอีกเช่นนี้ที่เรารู้สึกว่า “กระทั่งความคิดของเราที่ต้องการกำหนดว่าควรคิดอย่างไร ก็ยังกำหนดไม่ได้”
ดูเหมือนกระทั่งความคิดที่เป็นแก่นแกนของการแสดงออกทั้งหมดของเรา ยังถูกควบคุมได้อย่างอื่น สิ่งอื่น
ที่สำคัญคือสิ่งที่ควบคุมความคิดของเรานั้น เรามองไม่เห็น ไม่เข้าใจ สัมผัสไม่ได้ว่าคืออะไร
มีสารพัดปัจจัยที่อยู่ภายในใจของเราที่สร้างความคิดขึ้นมาเอง โดยที่เราไม่เข้าใจ
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ในบางครั้งปัจจัยที่ประกอบกันเพื่อสร้างความคิดนั้น เราเริ่มมองเห็น และเข้าใจบ้างแล้วว่าคืออะไร แต่กลับกลายเป็นว่าปัจจัยนั้นแปรเปลี่ยนไป ก่อปัจจัยใหม่ที่อยู่นอกเหนือการเห็น และเข้าใจของเราขึ้นมาอีก
เกิดขึ้น หายไป เกิดใหม่ อยู่เรื่อยๆ
เกินกว่าจะเห็นและเข้าใจได้ทัน
แต่ทั้งที่ไม่เห็น ไม่เข้าใจ แต่ปัจจัยที่ไม่แน่นอนเหล่านั้น กลับเป็นตัวกำหนดความคิดเราให้แสดงออกต่อสิ่งต่างๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว
เมื่อเป็นเช่นนี้ “เราจะควบคุมชีวิตให้เป็นไปตามที่ต้องการได้อย่างไร”
อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ก่อนที่จะหาวิธีทำให้สามารถควบคุมชีวิตให้เป็นไปตามที่ต้องการได้
ลองถามตัวเองให้ชัดๆ ว่า “ชีวิตเราต้องการอะไร” ตอบให้หนักแน่น ไม่ลังเลแม้สักนิดได้หรือไม่