พูดตรงกับไม่พูด อะไรจะดีต่อคู่รักใหม่มากกว่ากัน

คุณสุภาพสตรีวัยสาวท่านหนึ่งแวะมารักษาหลายปีแล้วค่ะ แรกเริ่มที่รักษาคือหลังจากแต่งงานกับสามีใหม่ๆ เธอเครียดเนื่องจากญาติฝั่งสามีไม่ชอบเธอนักเพราะคิดว่าเธออาศัยจังหวะที่ภรรยาเก่าของสามีเสียชีวิตเข้ามาตีสนิทด้วยและคงหวังเงินทอง ที่ญาติๆ คิดแบบนี้เพราะอายุของเธอห่างจากสามีเกือบสามสิบปีและตอนนั้นเธอไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ เธอเครียดจนนอนไม่หลับและไประเบิดอารมณ์ใส่ญาติสามีหลายครั้ง ต่อมาเริ่มรู้สึกซึมเศร้าท้อแท้ หลังได้ยารักษาก็ดีขึ้นมากค่ะ ผ่านไปหลายปีบุคลิกเธอก็ยังไม่เปลี่ยน เจอหน้าญาติสามีทีไรเป็นต้องเหวี่ยงวีนใส่จนช่วงหลังสามีก็เริ่มไม่พอใจพฤติกรรมก้าวร้าวของเธอด้วย

“เมื่อก่อนหนูพูดอะไรแฟนหนูเขาก็ไม่เคยว่า แล้วทำไมตอนนี้เพิ่งมาว่า หนูก็เป็นของหนูเหมือนเดิม หรือว่าถ้าหนูไม่พอใจก็ควรเก็บๆ ไว้ไม่ต้องพูดใช่ไหมคะ แต่ถ้าไม่พูดแล้วหนูหงิดหงิด พอเจอหน้าแฟนมันก็อึดอัดพาลให้โมโหทุกทีเพราะเขาก็ว่าแต่หนูไม่เห็นไปว่าญาติเขาบ้าง”

คำถามของเธอมีเหตุผลเลยทีเดียวค่ะ เวลามีเรื่องไม่พอใจเกิดขึ้นกับคู่ครอง เราควรพูดตรงๆ หรือเก็บไว้บ้างเพื่อให้ความสัมพันธ์ยังดีอยู่ และที่จริงเราควรคาดหวังกับคู่ครองมากน้อยแค่ไหนอย่างเช่นที่คาดหวังให้ไปเคลียร์กับญาติตัวเองบ้าง งานวิจัยเก่าๆ ยังมีข้อถกเถียงอยู่เหมือนกันค่ะ ทางหนึ่งบอกว่าถ้าเราตั้งมาตรฐานชีวิตคู่สูงแต่อีกฝ่ายทำไม่ได้อาจนำมาซึ่งความผิดหวังและทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงกว่าคู่ที่ตั้งมาตรฐานไม่สูงมาก แต่งานวิจัยอีกทางหนึ่งกลับบอกว่าการตั้งมาตรฐานชีวิตคู่ไว้สูงมีข้อดีคือช่วยให้อีกฝ่ายรู้และอยากปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์แนบแน่นยิ่งขึ้น ผลออกมาต่างกันแบบนี้แสดงว่ามีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในชีวิตแต่งงานมากกว่าการตั้งมาตรฐานแน่ๆ ค่ะ เราได้ยินบ่อยๆ ในโทรทัศน์คือคนในครอบครัวต้อง “สื่อสาร” กัน แต่สื่อสารที่ว่าคืออะไรกันแน่

“Love Rerun” การ์ตูนสะท้อนชีวิตคู่แต่งงานใหม่ของอามาซาวะ อากินำเสนอชีวิตคู่รักได้อย่างน่าสนใจเชียวค่ะ ตอนที่ 5 ซึ่งเพิ่งออกมาว่าด้วยการสื่อสารพอดี “ซายากะ” สาวออฟฟิสวัย 30 ปี ที่ไม่เคยเสียพรหมจรรย์ให้ใครฟื้นขึ้นมาในห้องเพื่อร่วมงาน “มาจิดะ” และพบว่าความทรงจำของเธอหายไปช่วงหนึ่ง เธอจำไม่ได้ว่าตกลงเป็นแฟนและมาอาศัยอยู่กับมาจิดะตั้งแต่เมื่อไร จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยรักกับมาจิดะ วิบากกรรมล่าสุดคือซายากะเห็นภาพผู้ชายเปลือยท่อนบนผุดขึ้นมา เธอไม่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นและไม่กล้าถามมาจิดะว่าทั้งสองเคยมีความสัมพันธ์กันหรือเปล่า สมมุติฐานเดียวคือเธออาจจะนอกใจมาจิดะแล้วมีความสัมพันธ์กับผู้ชายอื่น เวลานั้นเองเด็กหนุ่มท่าทางเพลย์บอกก็เข้ามาทักและบอกว่าเขากับซายากะเคยมีความสัมพันธ์กัน หลังสติแตกอยู่หลายวันมาจิดะจึงเพิ่งทราบเรื่องค่ะ มาจิดะ “สื่อสาร” ให้ซายากะเข้าใจว่าเธอไม่ใช่คนที่จะนอกใจใครง่ายๆ เขาเชื่อใจเธอและขอให้เธอเชื่อใจตัวเองด้วย ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นคงเป็นพวกหลอกเอาเงินจากผู้หญิงมากกว่า

Advertisement

การ “สื่อสาร” ที่มาจิดะทำคือ “การสื่อสารโดยตรง” (direct) ค่ะ หมายถึงการพูดถึงปัญหาอย่างตรงไปตรงมา ข้อดีคือคุยรู้เรื่องแต่ข้อเสียคือบางครั้งก็ตรงจนทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย ส่วนสิ่งที่ซายากะทำคือ “การสื่อสารโดยอ้อม” (indirect) ด้วยการแสดงท่าทีอึดอัดและไม่ถามออกไปตรงๆ ถ้าการสื่อสารนี้มีเนื้อหาเป็นการคุกคามอีกฝ่ายหรือไม่เป็นมิตรด้วยก็ยิ่งต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมค่ะ ไม่ใช่จะไม่ดีเสมอไปนะคะ ที่มาจิดะต่อว่าซายากะตรงๆ เพราะเชื่อคนง่ายเกินไปก็ถือเป็นการสื่อสารโดยตรงแบบไม่เป็นมิตรเหมือนกัน แต่เราจะพบว่าผลออกมาดีกว่าแบบอ้อมด้วยการไม่พูดซึ่งทำให้ปัญหาไม่ได้รับการคลี่คลายเสียที

ดร.เจมส์ แมคนัลตี้ แห่งมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดา ตีพิมพ์ผลการวิจัยเรื่องการสื่อสารของคู่สมรสใหม่ว่าบางอย่างมีผลต่อความสัมพันธ์ในระยะยาว เขาเก็บข้อมูลคู่แต่งงานใหม่ 135 คู่ ในรัฐเทนเนสซี่แล้วเชิญมาสัมภาษณ์และทำแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจในชีวิตสมรสรวมถึงความคาดหวังที่มีต่อชีวิตคู่ทุก 6 เดือนเป็นเวลา 4 ปี ผลการศึกษาพบว่าต่อให้เป็นการสื่อสารที่ไม่เป็นมิตร (hostility) ถ้าใช้ถูกวิธีก็มีประโยชน์ค่ะ เช่นเดียวกับการตั้งมาตรฐานให้คู่สมรสเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ ต่อให้ตั้งไว้สูงแต่ถ้าใช้ถูกวิธีก็มีประโยชน์เช่นกัน

การศึกษาพบว่าถ้าคู่รักใหม่ตั้งมาตรฐานกับอีกฝ่ายไว้สูง หากชีวิตสมรสมีปัญหาความสัมพันธ์น้อยหรือไม่ค่อยมีการสื่อสารที่ไม่เป็นมิตรโดยอ้อม (indirect hostility) คนเหล่านี้จะรู้สึกพึงพอใจในชีวิตสมรสมากกว่าเมื่อเวลาผ่านไป การสื่อสารที่ไม่เป็นมิตรโดยอ้อม ได้แก่ ความดื้อดึง การผัดวันประกันพรุ่ง และพฤติกรรมบึ้งตึงในระหว่างที่การสื่อสารที่ไม่เป็นมิตรโดยตรง ได้แก่ การพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ส่วนคู่รักใหม่ที่ตั้งมาตรฐานกับอีกฝ่ายไม่สูงมาก ถ้าความสัมพันธ์ย่ำแย่อยู่แล้วหรือมีการสื่อสารที่ไม่เป็นมิตรโดยอ้อมเยอะ ความพึงพอใจในชีวิตสมรสจะน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปค่ะ ผลวิจัยนี้ยืนยันว่าถ้ารักกันใหม่ๆ การพูดตรงๆ จะได้ผลดีกว่าการดื้อเงียบหรือบึ้งตึงใส่กันเพราะการใช้ชีวิตร่วมกันใหม่ๆ ยังมีหลายสิ่งที่ต้องปรับตัวเข้าหากันอยู่นั่นเอง

Advertisement

สำหรับคู่แต่งงานใหม่อาจจะเริ่มต้นมองว่าความสัมพันธ์ขณะนี้ยังดีอยู่หรือไม่ค่ะ ถ้ายังดีอยู่ก็ควรสื่อสารโดยอ้อมให้น้อยที่สุดและสามารถตั้งมาตรฐานคาดหวังอีกฝ่ายให้ดีขึ้นกว่านี้ได้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าความสัมพันธ์ตอนนี้ก็ไม่ดีอยู่แล้ว การไม่คาดหวังอีกฝ่ายหรือสื่อสารโดยอ้อมด้วยการดื้อดึงบึ้งตึงกลับจะยิ่งทำให้ชีวิตคู่ไม่มีความสุขขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปค่ะ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image