หยุดโซเชียลมีเดียก็หยุดเครียด : คอลัมน์มหัศจรรย์การ์ตูน

เมื่อวานนี้ได้รับทราบข่าวน่าตกใจทางไลน์ค่ะ เพื่อนสาวส่งไลน์มาบอกว่า เพื่อนสมัยเรียนเตรียมอุดมศึกษาด้วยกันและสอบเข้ามาเป็นแพทย์เหมือนกันเสียชีวิต เธอจึงไลน์มาถามว่าผู้เขียนทราบข่าวบ้างไหมเพราะเธอทราบคร่าวๆ จากเฟซบุ๊กของเพื่อนอีกคนหนึ่งเท่านั้น เพื่อนสาวยังบอกด้วยว่าเธอรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลยที่ทราบข่าวทางอ้อมจากเพื่อนอีกคนหนึ่ง รู้สึกตกใจ เสียใจ และคิดว่าตัวเองไม่สนใจติดตามข่าวสารจากเพื่อนจนมารู้อีกทีเพื่อนก็เสียชีวิตไปแล้ว ถึงตรงนี้ก็รู้สึกสะกิดใจขึ้นมาค่ะ ประการแรกคือการเป็นเพื่อนที่ดีควรติดตามข่าวสารของเพื่อนผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอจริงหรือ และประการที่สองคือถ้าเราไม่เล่นเฟซบุ๊กล่ะ เราจะกลายเป็นคนที่ไม่ใส่ใจเพื่อนไปหรือเปล่า แล้วถ้าย้อนไปสมัยที่ยังไม่มีโซเชียลมีเดีย เพื่อนเขาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องชีวิตของตัวเองกันอย่างไร

มีคนไข้สาวคนหนึ่งที่หยุดพักการเรียนปริญญาโทไปครึ่งปีเพราะรักษาโรคซึมเศร้ารุนแรงค่ะ ตอนนี้เธอหายดีแล้วและพร้อมจะกลับไปเรียนต่อในเทอมหน้า คุณแม่บอกว่าไม่มั่นใจว่าเธอพร้อมจริงหรือไม่เพราะเธอนอนดึกทุกคืน เช้าก็ตื่นสาย แบบนี้จะไปเรียนได้อย่างไร

“นอนดึกนี่คือกี่ทุ่มคะ”

“ก็ตี 2-3 ค่ะ”

Advertisement

“ดึกมากเลยนะคะ คุณทำอะไรก่อนนอนคะถึงยังไม่ง่วง”

เธออมยิ้มอย่างเขินอายแล้วบอกว่ากิจกรรมก่อนนอนคืออ่านเฟซบุ๊ก ความที่เธอหยุดเรียนมาระยะหนึ่งและซึมเศร้าจนขาดการติดต่อกับคนอื่นไปนาน ตอนนี้จะกลับไปเรียนแล้วจึงอยากติดตามข่าวเพื่อนๆ บ้าง อ่านไปอ่านมาก็เพลินจนดึกค่ะ ดังนั้นคำแนะนำเพื่อให้นอนและตื่นได้ตรงเวลาพร้อมสำหรับการกลับไปเรียนคือหยุดเล่นโซเชียลมีเดียก่อนนอนเท่านั้นเอง

มี ONA (Original net animation แอนิเมชั่นที่ฉายทางอินเตอร์เน็ต) เรื่อง “Isekai Izakaya: Koto Aitheria no Izakaya Nobu” (บาร์ต่างมิติ “โนบุ”) ดูจะมีจุดประสงค์ให้คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดแรงงานหันมาเข้าสังคมด้วยการพบปะพูดคุยกันที่ร้านเหล้าแบบดั้งเดิมแทนที่จะเล่นโซเชียลมีเดียโดยไม่เจอหน้ากันจริงๆ ค่ะ แอนิเมชั่นเรื่องนี้กล่าวถึงร้านอาหารแบบกินดื่มชื่อ “โนบุ” ซึ่งประตูหน้าร้านเปิดออกรับลูกค้าจากโลกแฟนตาซีที่ไม่เคยรู้จักร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่น (อิซากายะ) มาก่อน สองหนุ่มจากมิติแฟนตาซีที่สู้รบอย่างหนักในช่วงกลางวันตัดสินใจมาพักผ่อนดื่มเบียร์และกินกับแกล้มที่ร้านแห่งนี้ ลูกค้าหน้าใหม่ตกตะลึงกับเบียร์เย็นเฉียบในแก้วทรงสูงและกับแกล้มคลาสสิกอย่างถั่วแระต้มโรยเกลือ ในตอนแรกของแอนิเมชั่นมีการแนะนำเมนูโอเด้ง (ลูกชิ้นต้มในน้ำซุป) ที่ใส่มันฝรั่งลงไปด้วย ตอนที่สองคือไก่ทอดคาราอาเกะที่เข้ากันดีกับเบียร์เย็นๆ แอนิเมชั่นนำเสนอมุมมองของลูกค้าใหม่ร้านอาหารแบบกินดื่มและความสนุกของการพูดคุยกับเพื่อนหลังเลิกงานผ่านสายตาของคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ใช้บริการร้านอิซากายะมาก่อน ถือว่าเป็นการเข้าสังคมอีกรูปแบบหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ควรเรียนรู้นอกเหนือจากติดตามข่าวเพื่อนผ่านทางโซเชียลมีเดียค่ะ

Advertisement

สำหรับคนที่เสพโซเชียลมีเดียเป็นกิจวัตรประจำวัน ลองลดความเครียดด้วยการลบเฟซบุ๊กไปสัก 5 วัน การวิจัยโดยศาสตราจารย์เอริค แวนแมน จากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ในบริสเบน ออสเตรเลียพบว่าการหยุดใช้เฟซบุ๊ก 5 วัน ช่วยให้ระดับความเครียดลดลงได้จริงจากผลการตรวจระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมามากเมื่อมีความเครียด เขาแบ่งอาสาสมัครที่ใช้เฟซบุ๊กเป็นประจำออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้หยุดพักการใช้ไป 5 วัน ในระหว่างที่อีกกลุ่มหนึ่งยังคงใช้ต่อเนื่อง ผลพบว่าเมื่อเก็บตัวอย่างน้ำลายของกลุ่มหยุดใช้ไปตรวจระดับฮอร์โมนความเครียดก็ลดลงได้จริง เป็นที่ทราบดีว่าฮอร์โมนความเครียดนี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายอย่าง ทั้งรบกวนระบบภูมิคุ้มกันทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้น รบกวนความจำ และทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนมากขึ้น ดังนั้น การลดระดับฮอร์โมนเหล่านี้ก็จะดีต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่น่าสนใจจากการวิจัยนี้มากกว่าระดับฮอร์โมนความเครียด ผู้วิจัยพบว่าอาสาสมัครที่หยุดใช้เฟซบุ๊ก 5 วัน รู้สึกว่าคุณภาพชีวิตของตัวเองแย่ลง รู้สึกว่าชีวิตสนุกน้อยลงเนื่องจากขาดการติดต่อทางสังคมกับเพื่อนบนเฟซบุ๊ก เหตุนี้ผู้วิจัยจึงสันนิษฐานว่าที่อาสาสมัครบางคนบอกว่าการหยุดใช้เฟซบุ๊กไม่ได้ทำให้รู้สึกเครียดน้อยลงแม้ว่าระดับฮอร์โมนความเครียดจะลดลงก็ตามอาจเนื่องมาจากความรู้สึกไม่ดีที่ขาดการเข้าสังคมผ่านทางเฟซบุ๊กก็ได้

หลังทำความเข้าใจความรู้สึกของคนเล่นโซเชียลมีเดียแล้ว ผู้เขียนก็ได้รับไลน์จากเพื่อนสาวอีกครั้ง เธอบอกว่าคงต้องหาเวลานัดเพื่อนเก่ามาเจอกันบ้างแล้ว ตั้งแต่หลังเรียนจบก็ไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบ 20 ปี ถือเป็นวิธีที่ดีมากสำหรับผู้เขียนซึ่งไม่ได้เล่นเฟซบุ๊กค่ะ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image