| ผู้เขียน | เมตตาร ทับทิม [email protected] |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ฮานี้บ่าเฮ้ย หลบฝนเมืองไทยดันไปเจอฝนเมืองหนาว
วันนี้ชวนคุยหัวข้ออินเตอร์สักเล็กน้อย ว่าด้วยอสังหาริมทรัพย์โซนยุโรป คัดมา 3 ประเทศแต่เป็นเรื่องเดียวกัน ประกอบด้วยเช็กรีพับลิก ออสเตรีย เยอรมนี
แหล่งข้อมูลไม่เป็นทางการแต่มีประสบการณ์ท่องยุโรปกว่า 30 ปีในฐานะหัวหน้าไกด์ชื่อ “พี่บัญญัติ” นั่นเอง
ในประเทศเช็ก ไกด์ท้องถิ่นชื่อ คุณอองเดรหรือแอนเดรียตามที่พี่บัญญัติเรียกขาน เล่าให้ฟังว่าเป็นคนเก่าแก่ อายุจริงๆ น่าจะเลยวัยเกษียณด้วยซ้ำ เกิดสมัยประเทศยังเป็นสังคมนิยม ทุกอย่างเป็นของรัฐ
หมายความว่าตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย รัฐจัดหาและแบ่งปันให้หมด รวมทั้งที่อยู่อาศัยด้วย
ต่อมา พอพลิกกลับมาเป็นประเทศประชาธิปไตย มีเรื่องกรรมสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ส้มหล่นลูกเบ้อเริ่มตกอยู่กับประชาชนที่สามารถยืนยันการอยู่อาศัยในบ้านหรือคอนโดมิเนียมตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหา (อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ค่ะ)
ทำให้ประชากรเริ่มสูงวัยอยู่ในกลุ่มที่รัฐดูแล โดยจัดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในยุคสังคมนิยมให้ 100% ทุกวันนี้จ่ายแต่ค่าดูแลสาธารณูปโภคส่วนกลางเดือนละกว่า 1,000 เช็กโครน (สกุลเงินท้องถิ่น)
เงิน 1 เช็กเท่ากับ 1.50 บาทไทยค่ะ ตัวเลขกลมๆ
ถัดจากคนที่ได้รับส้มหล่น ที่เหลือเข้าสู่โหมดทุนนิยมเต็มรูปแบบ อยากได้บ้านหรือคอนโดต้องซื้อหาด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ในเมืองใหญ่อย่างกรุงปรากราคาจับแทบไม่ลงเพราะแพงหูฉี่ เป็นสภาพเดียวกับหัวเมืองหลักๆ ทั่วโลก
สไตล์อสังหาฯยุโรปคือ อาคารสูงประมาณ 5-6 ชั้นยืนพื้น เห็นบอกว่าไม่ทำสูงกว่านี้เพราะต้องเดินขึ้นเดินลง ไม่ได้ติดตั้งลิฟต์ จากนั้นชั้นล่าง อาจจะหมายถึงชั้น 1 ลงใต้ดินบ้าง ขึ้นมาถึงชั้น 2-3 บ้าง ให้เช่าทำร้านค้า
ส่วนบนชั้น 4-6 ส่วนใหญ่ให้เช่าอยู่อาศัย และห้องราคาถูกสุดเป็นห้องใต้หลังคา คนวัยเริ่มทำงาน นักศึกษาต่างประเทศ โดยสรุปคือคนเบี้ยน้อยหอยน้อย ซึ่งพื้นที่ใช้สอยจำกัด เผลอๆ เวลาเดินในห้องอาจต้องก้มหรือย่อตัวเพราะหัวติดหลังคา
เราตัดฉากเข้ากรุงมิวนิกอย่างรวดเร็ว ต้องเขียนกระชับๆ เพราะพื้นที่จำกัด (ฮา)
พฤติกรรมการอยู่อาศัย คนเยอรมันจะมีบ้าน 2 หลัง โดยบ้านที่เป็นบ้านแนวราบจะอยู่นอกเมือง ซื้อกันทีละเอเคอร์ บางทีซื้อไว้ 1-10 เอเคอร์เข้าไปโน่นเลย เขาเอาไว้รอเกษียณแล้วกลับมาปลูกผักไม้ใบหญ้า และเป็นบ้านพักผ่อนวีกเอนด์
ส่วนวันทำงานก็จะเข้าเมือง เช่าคอนโดอยู่เพราะต้นทุนใช้ชีวิตในเมืองแพงมาก ดังนั้น จึงตัดเรื่องค่าที่จอดรถ ค่าประกันภัยต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน ฯลฯ
กับอีกประเด็นคือคอนโดเขาห้องไซซ์ใหญ่ แบบสตูดิโอเริ่มต้น 40-50 ตารางเมตรขึ้นไป ฟังก์ชั่่นในห้องมีสไตล์ที่เรียกว่า one and a half room หรือ 1 ห้องครึ่ง หมายความว่ายุบพื้นที่ 2 ห้องแล้วทำ 1 ห้องนอน กับอีกครึ่งห้องเป็นทุกอย่างทั้งห้องนั่งเล่น ครัว ห้องน้ำ
การพักอาศัยวัยเริ่มต้นครอบครัว มีพ่อ-แม่-ลูก ตอนแรกนอนเตียงสองชั้น ลูกเริ่มโตก็ส่งไปอยู่กับปู่ย่าตายายนอกเมือง สุดสัปดาห์ขับรถไปหาแล้ววันธรรมดาขับรถกลับเข้าเมือง วนเป็นวัฏจักรอยู่อย่างนี้
ค่าเช่าก็ไม่ธรรมดา ย่านดังๆ อย่างฌองเอลิเซ่ห้องละ 800 ยูโร หรือ 3 หมื่นบาท/เดือน แต่ถ้ายอมอยู่ไกลออกมาหน่อย รัศมี 20 กิโลเมตรจากในเมืองสามารถหาห้องเช่าราคาเฉลี่ยเดือนละ 250 ยูโร ได้อยู่
โดยสรุป คนเยอรมันไม่นิยมซื้ออสังหาฯในโครงการจัดสรร แต่นิยมรีโนเวตบ้านหลังเดิมเป็นหลัก อสังหาฯ ในเมืองส่วนใหญ่ขายมือ 2 มือ 3 และขายแบบยกครัว เจ้าของเดิมไม่ขนอะไรออกมาเลย
สนนราคาบ้านมือ 2 มือ 3 เห็นป้ายประกาศขายผ่านตาแวบๆ ห้องไซซ์ 80 ตารางเมตร ราคา 6 แสนยูโร หรือไซซ์ 100 ตารางเมตร ล่อเข้าไป 1 ล้านยูโร กันเลยทีเดียว
