| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ชนากานต์ ปานอ่ำ |
| เผยแพร่ |
ผ่านพ้นงานใหญ่ประจำปี อีเวนต์สำคัญระดับโลกอย่าง “งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟจังหวัดสุโขทัย 2561” ไปแล้ว
ชาวสุโขทัย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศจูงมือ คล้องแขน ร่วมงานเนืองแน่น
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระบรมวงศานุวงศ์ 11 พระองค์ พระราชทานไฟพระฤกษ์และพระประทีปร่วมงานลอยกระทง เพื่อลงลอยเป็นปฐมฤกษ์ ณ สระน้ำวัดสระศรี (ตระพังตะกวน) ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย ในค่ำคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง
โดยมี นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวสุโขทัย ร่วมถวายการต้อนรับไฟพระฤกษ์และพระประทีปพระราชทาน สร้างความปีติยินดีแก่พสกนิกร ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ขณะเดียวกัน กว่า 300,000 คน คือจำนวนนักท่องเที่ยวในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 หรือวันลอยกระทงเพียงวันเดียว
ยังไม่รวมกับเม็ดเงินกว่า 500 ล้านบาท ตลอด 10 วัน 10 คืน (16-25 พ.ย.) ของการจัดงานที่ไหลทะลักเข้า “สุโขทัย” ทั้งจากการจองที่พัก ร้านอาหาร ของฝาก และการจับจ่ายใช้สอยทั้งในงานและตามร้านค้าต่างๆ ในจังหวัด
ตัวเลขสวยงามขนาดที่พ่อเมืองยิ้มไม่หุบ ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดปลื้มใจหายเหนื่อย กระทั่ง ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย โชว์ไทม์ไลน์กิจกรรมการท่องเที่ยวอื่นๆ ยาวจนถึงปีใหม่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็น “เทศกาลกินปลาและของดี อำเภอกงไกรลาศ” งาน “Sukhothai Sukhotime Happy New Year 2019” หรืองานสวดมนต์ข้ามปีที่วัดตระพังทอง ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย
มีให้เลือกหลากหลาย เจาะทุกไลฟ์สไตล์ ตามแต่ใจชอบ
อิ่มท้อง อิ่มใจ จบครบงานเดียว
งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ จ.สุโขทัย จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 42
ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ ตลาดโบราณ หรือตลาดแลกเบี้ย ซึ่งต้องใช้ “เบี้ย” ในการซื้อขายแทนเงินสด คัดสรรร้านค้า ร้านอาหาร ของอร่อยขึ้นชื่อของสุโขทัย ทั้งข้าวเปิ๊บ หมูสะเต๊ะกุมารทอง รวมถึงอาหารโบราณอื่นๆ กว่า 50 ร้านค้า
เดินออกจากตลาดยังพบการออกร้านอาหารคาวหวานละลานตา ชวนให้นักท่องเที่ยวช้อปและชิม อิ่มอร่อยจนพุงกาง
ใกล้กันยังมีเวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรม ระบำ รำ ฟ้อน รวมถึงการจำลองหมู่บ้านวิถีไทย
นอกจากนี้ยังมีการแสดงตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ การจุดพลุ-ตะไล-ไฟพะเนียง การประกวดโคมชักโคมแขวน กระทงใหญ่-กระทงเล็ก
อีกทั้งตลอดทางจะพบพ่อค้าแม่ขายนั่งเรียงรายจำหน่าย “กระทง” มีให้เลือกทุกขนาด ทุกประเภท จับจ่ายไปลอยกันตามใจชอบ
หากเดินไปอีกหน่อย บริเวณลานหน้าวัดมหาธาตุจะพบบรรยากาศชิล…ชิล ผู้คนมากหน้าหลายตาตีตั๋วนั่งล้อมวงบนเสื่อ ทาน “ขันโตก” เคล้าการแสดงท้องถิ่นสุโขทัย มีชื่อเรียกไพเราะว่า “ข้าวขวัญ วันเล่นไฟ สำรับ สำราญ อาหารสุโขทัย”
โดยมีสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัยรับผิดชอบคัดสรรอาหารขึ้นชื่อของจังหวัด อาทิ ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย แกงหยวก คั่วขนุน ปลาเห็ด ลอดช่องคีรีมาศ ขนมวง ตักทานได้ไม่อั้น
อิ่มท้องไปแล้ว ยังหากิจกรรมให้อิ่มอกอิ่มใจเพิ่มขึ้นได้ กับการแสดงแสงเสียง ตอน “เล่าเรื่องเมืองสุโขทัย”
เพราะนอกจากผู้ชมจะได้รับชมความสวยงามตระการตาของฉากการแสดง และนักแสดงมืออาชีพกว่า 400 ชีวิต ที่ร่วมสร้างมนต์ขลังและความประทับใจมิรู้ลืมแล้ว
ปีนี้ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัยยังเพิ่มความพิเศษมากยิ่งขึ้น ด้วยการจับมือกับ “บริษัท เอปสัน ประเทศไทย จำกัด” เนรมิตเทคนิคโปรเจ็กชั่น แมปปิง (Projection Mapping) ฉายภาพบนโบราณสถานประกอบการแสดง ด้วยเครื่องฉายภาพที่มีความสว่างมากที่สุดในประเทศไทย
เล่าประวัติศาสตร์อย่างมีชีวิต
ด้วยเทคนิคแมปปิง ‘โปรเจ็กเตอร์ความสว่างสูง’
“ความท้าทายของฉากที่สุโขทัยคือ งานนี้เป็นงานด้านประวัติศาสตร์ จะเห็นว่าเราใช้โทนสีทึมแล้วแมปปิงเป็นไปตามเรื่อง ดูแล้วขลัง หลายคนบอกว่ากลมกลืน ลื่นไหล เมื่อดูไปนานๆ จะพบว่าการแมปปิงเนียนไปกับเนื้อเรื่องได้อย่างลงตัว” ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการ บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด บอกเล่า
แต่ใครจะรู้ว่า เรื่องยากและท้าทายขนาดนี้ “เอปสัน” เองที่เป็นผู้นำเสนอเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหวแก่ จ.สุโขทัย ขอร่วมสร้างประสบการณ์แปลกใหม่กับผู้ชม โดยเสียงตอบรับจากทางจังหวัดและผู้ร่วมงานต่างบอกว่า “สุดยอดไปเลย!”
ปฏิเสธไม่ได้ว่า แบรนด์ “เอปสัน” แข็งแกร่งและเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการขยายตลาด เพิ่มความรับรู้ของคนทั่วไปที่แต่เดิมมักติดภาพ “โปรเจ็กเตอร์” กับห้องประชุม เวทีเสวนา ตลอดจนการฉายพรีเซ็นเทชั่นต่างๆ
วันนี้ ยรรยงจึงพา “เอปสัน” และ “โปรเจ็กเตอร์ความสว่างสูง” เข้าไปอยู่ในกิจกรรมพิเศษมากมาย หนึ่งในนั้นคืองานประเพณีลอยกระทงสุโขทัยประจำปีนี้
“ความจริงแล้วเราร่วมกิจกรรมพิเศษมาโดยตลอด ทั้งงานระดับโลกหรืองานระดับประเทศ แต่ที่เลือกมาสุโขทัยครั้งนี้นั่นเพราะว่า งานลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟทำมาช้านาน เป็นงานที่คนรับรู้กันทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในจังหวัดหรือในประเทศเท่านั้น เป็นอีเวนต์ที่คนอยากมา ประกอบกับเรามีพาร์ตเนอร์อยู่ที่นี่ ทำให้ความเป็นไปได้ในการจัดงาน ตลอดจนการสร้างมูลค่าให้จังหวัดสามารถเกิดขึ้นได้ เราพูดกับจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมหลายครั้ง เรื่องการนำภาพเคลื่อนไหวและบรรยากาศที่สามารถมูฟเมนต์ได้เข้ามาส่งเสริมการแสดงแสงเสียง เขาบอกว่า ‘สุดยอดเลย!’ เพราะจะช่วยสร้างประสบการณ์แปลกใหม่กับผู้ชม ผู้ฟัง ช่วยดึงดูดคนมาเที่ยวสุโขทัยมากขึ้น”
ซึ่งความ “แตกต่าง” ของฉากในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกับการฉายโปรเจ็กเตอร์บนตึกสูงทั่วไป ยรรยงบอกว่าอยู่ที่ “มิติความไกล” เนื่องจากรูปร่างตึกเป็นทรงแบน อุปสรรคสำคัญจึงมีเพียงหน้าต่าง แต่ที่สุโขทัยยังมีเรื่อง “สีของโบราณวัตถุ” เป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้การฉายโปรเจ็กเตอร์ด้วยเทคนิคแมปปิงยากขึ้นตามลำดับ
แต่ความโดดเด่นของ “โปรเจ็กเตอร์” คือสามารถฉายได้ในทุกพื้นผิว โดยใช้ซอฟต์แวร์แมปปิงเข้าช่วย ต่อให้ฉายบนพื้นหญ้า หลังกำแพง หรือโบราณสถานอื่นๆ ก็สามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีปัญหา!
ทำให้วันนี้ “เอปสัน” พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การแมปปิงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สามารถกลืนเข้ากับฉากและการแสดงแสงเสียงอย่างไร้ที่ติ ภาพฟ้าผ่า เสาเสื่อมโทรม เจดีย์หัก ยังคงติดตา ตรึงความรู้สึกผู้ชมให้อินไปกับ “เรื่องสุโขทัย” ได้อย่างลงตัว
