วันยางพาราบึงกาฬ 62 จัดเต็มนวัตกรรมเด่น เปิดลานเด็กเล่นเสริมเยาวชน

นับเป็นความโชคดีของชาวบึงกาฬ ที่สามารถปรับตัวและยืนอยู่ได้ในภาวะวิกฤตยางพาราราคาตกต่ำ แม้จะอยู่แบบทรมาน แต่ก็มีความหวัง ด้วยส่วนหนึ่งมาจากองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านยางพาราที่ได้รับการส่งเสริมจากงาน “วันยางพาราบึงกาฬ” ในหลายครั้งที่ผ่านมา นำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ในด้านต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าแก่น้ำยางพารา

รวมถึงยังมีการนำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เป็นสิ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของการจัดงานตลอด 6 ปีที่ผ่านมา

ถนนยางพาราจาก มจพ.

ในครั้งนี้ การจัดงาน “วันยางพาราบึงกาฬ 2562” ถือเป็นมหกรรมยางพารายิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-19 ธ.ค.2561 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ภายในงานได้รวบรวมสุดยอดนวัตกรรมด้านยางพาราใช้ได้จริงมาไว้มากมาย โดยมีนวัตกรรมไฮไลต์สำคัญจากหลายหน่วยงาน อาทิ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) บริษัท แอดวานช์ คิว จำกัด การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และนวัตกรรมสุดล้ำจากประเทศจีน พร้อมต่อยอดความรู้กับเวทีเสวนายางพาราที่ดีที่สุดเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง

ปีนี้ เอ็มเทคจัดเต็มเพื่อคนบึงกาฬ นำนวัตกรรมด้านยางพาราหลายรายการมาให้ชม พร้อมทดลอง ทดสอบผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองมากมาย อาทิ

Advertisement

Para TRAP กาวดักแมลงจากน้ำยางพารา ใช้งานง่ายไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ดักแมลงได้ดี ผลิตจากน้ำยางพาราในประเทศและใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ นับเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกรที่ต้องการดูแลผลิตผลจากสวน โดยรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมไปด้วยในขณะเดียวกัน จึงเหมาะกับสินค้าเกษตรปลอดภัย หรือเกษตรอินทรีย์

กาวดักแมลงจากน้ำยางพารา นวัตกรรมจากเอ็มเทค
ParaFIT น้ำยางข้นสำหรับผลิตโฟมยางไม่มีกลิ่นฉุน

ParaFIT น้ำยางข้นสำหรับผลิตโฟมยาง ทำหมอน และที่นอนยางพารา ทดแทนการใช้น้ำยางพาราข้นทางการค้าที่มีกลิ่นฉุน ซึ่งน้ำยาง ParaFIT มีปริมาณแอมโมเนียต่ำ จึงไม่มีกลิ่นฉุน ปลอดภัยต่อสุขภาพผู้ใช้งาน ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน สามารถผลิตโฟมยางที่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ ยังช่วยลดเวลาในการบ่มน้ำยางก่อนนำไปใช้งานเหลือเพียง 3 วัน ในขณะที่น้ำยางทางการค้าต้องใช้เวลาถึง 21 วัน น้ำยาง ParaFIT จึงช่วยลดต้นทุนให้ผู้ผลิตน้ำยางพาราข้น และประหยัดเงินลงทุนในการสร้างอุปกรณ์จัดเก็บน้ำยางพาราข้นอีกด้วย

สารบีเทพ (BeThEPS) สารรักษาสภาพน้ำยางสดเพื่อแปรรูปยางแผ่น โดยใช้แทนแอมโมเนียและโซเดียมซัลไฟต์ที่มีกลิ่นฉุน และเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งสารบีเทพ (BeThEPS) ช่วยยืดอายุน้ำยางสดก่อนการแปรรูปได้นานขึ้น 1-3 วัน เพิ่มปริมาณยางแผ่นรมควันคุณภาพดี ลดปริมาณยางตกเกรด ช่วยให้ชาวสวนยางได้มูลค่าเพิ่มราว 900 บาท ต่อการผลิตยางแผ่น 1 ตัน

Advertisement

ด้านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เป็นอีกหน่วยงานที่มีการพัฒนาและวิจัยเรื่องยางพาราอย่างต่อเนื่อง ก็จัดหนักเพื่อคนบึงกาฬเช่นเดียวกัน โชว์นวัตกรรม ถนนยางพาราดินซีเมนต์ หรือ Para Rubber Soil Cement Road ที่นำน้ำยางธรรมชาติมาผสมรวมกับสารเคมี เพื่อใช้ทดแทนการนำเข้าน้ำยาพอลิเมอร์สังเคราะห์จากต่างประเทศที่มีราคาสูง ซึ่งการนำยางพารามาใช้ในการทำถนนยางพาราดินซีเมนต์นั้น สามารถนำไปประยุกต์ได้หลายรูปแบบ ทั้งถนนดินลูกรังตามชนบทแบบไร้ผิวทาง ถนนแบบมีผิวทางเป็นคอนกรีต หรือลาดยางมะตอย ซึ่งถนนยางพาราดินซีเมนต์เพิ่มความทนทานต่อแรงกดอัด สามารถป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ดี ลดการเกิดฝุ่นในดินและซีเมนต์ ซึ่งการใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมในการก่อสร้างถนนจะช่วยพัฒนาให้อุตสาหกรรมยางพาราขับเคลื่อนไปได้อย่างต่อเนื่อง

สารบีเทพ (BeThEPS) สารรักษาสภาพน้ำยางสดเพื่อแปรรูปยางแผ่น
นวัตกรรมมีดนกเงือก ตอบโจทย์ทุกปัญหาการกรีดยาง

พร้อมกันนี้ มจพ.ยังเตรียมนวัตกรรมอีกหลายรายการเพื่อนำเสนอในงาน “วันยางพาราบึงกาฬ 2562” เป็นครั้งแรก อาทิ นวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหากลิ่นเหม็นในโรงงานอุตสาหกรรมยางพารา, สารจับยาง IR คือสารที่ใช้แยกเนื้อยางพาราออกจากน้ำที่มีความเข้มข้นต่ำ เช่นเดียวกับบริษัท แอดวานช์ คิว จำกัด เตรียมอวดนวัตกรรม มีดกรีดยางนกเงือก ที่สามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาการกรีดยาง แถมได้ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้นในทุกๆ พื้นที่ ช่วยขยายโอกาสการสร้างรายได้ และผลกําไรแก่เกษตรกร

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นอีกหน่วยงานที่มีภารกิจดูแลเรื่องยางพาราแบบครบวงจร และยืนยันมาโดยตลอดว่า การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสามารถแก้ปัญหาเรื่องยางพาราได้อย่างยั่งยืน โดยงานนี้ขนนวัตกรรมเกี่ยวกับยางพารามาโชว์เพียบ

โดยเฉพาะนวัตกรรมการสร้างสนามฟุตซอลที่ปลอดภัย ลดการบาดเจ็บของผู้เล่น ซึ่งงานนี้เป็นการทดสอบประสิทธิภาพจริงจากนักกีฬาฟุตซอล ในการแข่งขัน “บึงกาฬฟุตซอลคัพ 2019” การแข่งขันฟุตซอลครั้งแรกบนสนามยางพารา 100 เปอร์เซ็นต์

สนามฟุตซอล ออกแบบและวิจัยโดยการยางแห่งประเทศไทย
เครื่องกรีดยางแบบพกพาจากประเทศจีน

ในส่วนของประเทศจีน โชว์ นวัตกรรมเครื่องกรีดยางระบบมือถือ พกพาง่าย ใช้สะดวก เพิ่มความรวดเร็วในการกรีดยางมากขึ้น ทำงานด้วยระบบมอเตอร์ สามารถกรีดยางได้มากถึง 1,000 ต้น/คน/วัน แถมหน้ายางเรียบ ช่วยยืดอายุการกรีดต้นยางได้ยาวนานขึ้น

นวัตกรรมเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนิทรรศการที่จัดแสดง ภายในงานยังมีสุดยอดเทคโนโลยี นวัตกรรม และการแปรรูปยางพาราที่ผ่านการคิดค้น วิจัย จากหลายหน่วยงาน นำมาเปิดตัวครั้งแรก เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาเรื่องยางพารา ตลอดจนการต่อยอดเพื่อเพิ่มรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป

นอกเหนือจากองค์ความรู้และสุดยอดนวัตกรรมด้านยางพาราแล้ว การจัดงาน “วันยางพาราบึงกาฬ 2562” ยังส่งเสริมกระบวนการคิดของเยาวชน ผ่านการเรียน การเล่น และกิจกรรมต่างๆ ที่จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่น

โดยปีนี้ ส่งเสริมกระบวนคิดผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้ โซนบึงกาฬลานเด็กเล่น 1 ใน 12 โซน ที่เด็กๆ ต้องห้ามพลาด เพราะมีความพิเศษของกิจกรรมที่เต็มไปด้วยสีสันของความรู้และความสนุกสนาน จากแนวคิดการจัดกิจกรรมของเหล่ากูรูผู้มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ ที่ตั้งใจมาจัดกิจกรรมเพื่อเด็กๆ และเยาวชนบึงกาฬโดยเฉพาะ

ประเดิมความพิเศษแรกด้วย กิจกรรมห้องเรียนศิลปะ สอนวาดการ์ตูนเบื้องต้น โดย อิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์ นักเขียนการ์ตูนและอนิเมเตอร์อิสระ ที่กวาดรางวัลมานับไม่ถ้วน ผลงานที่สร้างชื่อได้แก่ โรงเรียนเม็ดกวยจี๊, อุดมสุข โดยมาพร้อมกับ จีรพงษ์ ศรนคร นักเขียนการ์ตูน และนักออกแบบคาแร็กเตอร์ชื่อดัง มีผลงานหลายเล่ม อาทิ ขายหัวเราะ มหาสนุก ซึ่งงานนี้จะมาสอนเทคนิคการระบายสีไม้ เพื่อนำไปใช้ในห้องเรียน และการประกวดระบายสีภาพชิงรางวัล ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน

ความพิเศษที่สอง กิจกรรมสนุกกับสีน้ำ (Painting Workshop) กับ ตะวัน วัตุยา ศิลปินระดับโลก เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความโดดเด่นของงานเขียนสีน้ำ กับหัวข้อที่กระตุ้นความคิด เขาเลือกที่จะสื่อสารด้วยการถ่ายทอดผ่านความรวดเร็ว และความกระปรี้กระเปร่า ที่เขารับรู้ในสังคมโลกปัจจุบัน โดยเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีเอกลักษณ์ และมีส่วนร่วมมากที่สุดของประเทศ งานของเขาถูกเลือกให้จัดแสดงในไทย สิงคโปร์ ปักกิ่ง โตเกียว ปารีส นิวยอร์ก และอีกหลายแห่ง ซึ่งงานนี้ ตะวันบินกลับจากต่างประเทศเพื่อมาร่วมงาน โดยเตรียมโปรเจ็กต์พิเศษมาสร้างงานศิลป์กับเด็กๆ ชาวบึงกาฬ

ผลงานของ “กานต์ รัตนจุล” นักวาดภาพนกและธรรมชาติ
”หมอหม่อง” นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา

ความพิเศษที่สาม กิจกรรมห้องเรียนธรรมชาติ กับ “หมอหม่อง” นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ คุณหมอนักอนุรักษ์ชื่อดัง และประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา ยอมเดินทางไกลจากเชียงใหม่ เพื่อมาสอนทักษะการดูนกเบื้องต้น ก่อนพาเด็กๆ ไปเรียนรู้และสัมผัสธรรมชาติในพื้นที่จริงที่บึงโขงหลง พื้นที่ชุ่มน้ำโลกในจังหวัดบึงกาฬที่มีนกกว่า 167 ชนิด และยิ่งสนุกไปกันใหญ่ เมื่อทั้ง “หมอหม่อง” และ กานต์ รัตนจุล นักวาดภาพนกและธรรมชาติชื่อดังที่ฝากผลงานร่วมวาดภาพประกอบหนังสือคู่มือดูนกเมืองไทย ของหมอบุญส่ง เลขะกุล และหนังสืออีกหลายเล่ม จะสอนการสเกตช์ภาพนกในพื้นที่จริงอีกด้วย

ความพิเศษที่สี่ กิจกรรมเสกระดาษ…สร้างศิลป์สนุก มหัศจรรย์การพับกระดาษแบบโอริงามิ ศิลปะการพับกระดาษอันเก่าแก่ของญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย แม้แต่ประเทศไทยก็ฮิตติดลมจนเกิดเป็นชมรมนักพับกระดาษขึ้นมา ซึ่งเด็กๆ จะสนุกสนานในการเรียนรู้ไปกับ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ขวัญใจของเด็กๆ ที่บึงกาฬ โดยครังนี้มีการต่อยอดเพิ่มเติมเรื่องของการออกแบบเข้าไปด้วย

ความพิเศษที่ห้า กิจกรรมดู “เมฆ” แล้วได้อะไร ซึ่ง ดร.บัญชาจะมาเปิดห้องเรียนท้องฟ้า ชวนเด็กๆ มาไขปริศนา “ดูเมฆ” แล้วได้อะไร พร้อมทำความรู้จักกับเมฆในแบบต่างๆ อย่างเข้าใจ รวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร

ภาพโดย Varaporn Mahahing ชมรมคนรักมวลเมฆ

และความพิเศษที่หก กิจกรรมเก่งวิทย์ คิดสนุก เรื่องของวิทยาศาสตร์สนุกๆ ในแบบของ ดร.บัญชา ที่จะชวนเด็กๆ มาร่วมสร้างอุปกรณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเล่นเอง นอกจากจะสนุกสนานแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างถูกต้อง

ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของไฮไลต์สำคัญที่จะเกิดในงาน “วันยางพาราบึงกาฬ 2562” มหกรรมยางพารายิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ 13-19 ธันวาคม 2561 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ

อาจารย์กำลังเตรียมเจ้าสิ่งนี้ ไปเล่นกับเด็กที่บึงกาฬ อยากรู้ว่าคืออะไรพบกันที่ลานเด็กเล่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image