| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | จินตนา กิจมี |
| เผยแพร่ |
จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 การแข่งขันรถล้อเลื่อนที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี ที่ “เจอร์ไฮ” ร่วมสืบสานวัฒนธรรมและสนับสนุนการพัฒนาชุมชน ณ ดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15-16 ธันวาคม 2561
แต่ปีนี้คึกคักกว่าเมื่อปีกลายมาก เพราะมีการแข่งขันล้อเลื่อนไม้คู่พิเศษ ระหว่าง สุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดกิจกรรมด้วยการแข่งล้อเลื่อนไม้คู่พิเศษลงมาจากเนินสูงกับ มนตรี เตชะเลิศพนา แชมป์ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางกองเชียร์นักท่องเที่ยวและชาวบ้านม่อนแจ่มที่ส่งเสียงลุ้นกันอย่างสนุกสนาน
“รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ และได้ขับรถล้อเลื่อนด้วยตนเอง รู้เลยว่ายากมากในการบังคับรถลงมาจากที่สูงและโค้ง ซึ่งผู้เข้าแข่งขันทุกคนต้องมีใจ ทักษะ ความกล้า และการฝึกซ้อมที่หนักมากจึงจะสู้กันได้ เพราะต้องใช้สติในการตัดสินใจ”
สุขวัฒน์เล่าถึงความรู้สึกหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งล้อเลื่อนไม้เปิดงาน
“เชื่อว่าการแข่งขันนี้ไม่ได้สำคัญไปกว่าชัยชนะ แต่เป็นความสำคัญทางวัฒนธรรม ความรัก ความสามัคคีในกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหวังให้เกิดขึ้นกับชุมชนจนมีความเข้มแข็ง” และว่า อยากให้ชุมชนจดลิขสิทธิ์การแข่งขันฟอร์มูล่าม้งไว้เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิด้วย ล่าสุดมี 13 จังหวัดสนใจจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วย คาดว่าปีที่ 3 กิจกรรมจะสนุกสนานและสร้างประโยชน์ต่อทุกชุมชน
สำหรับ “รถล้อเลื่อนไม้” หรือเรียกกันติดปากว่า “ฟอร์มูล่าม้ง” ถือเป็นภูมิปัญญาของชาวเขาที่ดัดแปลงมาจากรถเข็นผลผลิตทางการเกษตร แต่ปัจจุบันรถล้อเลื่อนไม้นี้ถูกแทนที่ด้วยรถยนต์และจักรยานยนต์ไปแล้ว เหลือเพียงการละเล่นและแข่งขันกันเพื่อความสนุกสนานในหมู่เพื่อนฝูงกลุ่มเล็กๆ ภายในหมู่บ้าน และขยายเป็นการแข่งขันกันระหว่างหมู่บ้าน
โดยผู้เข้าแข่งขันหรือนักแข่ง “รถล้อเลื่อนไม้” ต้องอาศัยความชำนาญเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การผลิตรถล้อเลื่อนไม้สำหรับการแข่งขันที่จะไม่สามารถใช้เครื่องยนต์ กลไกมอเตอร์ หรือลูกปืนใดๆ นอกจากไม้ รวมถึงความสามารถในการบังคับรถบนเส้นทางการแข่งที่เป็นทางลงเขาและโค้งลาดชันราว 300 เมตร กิจกรรมนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวและสร้างสีสันความสนุกสนานท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเย็นของดอยม่อนแจ่มเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้ กับการจัดการแข่งขันรถล้อเลื่อนที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี สุขวัฒน์บอกว่า ความที่เจอร์ไฮ มีเป้าหมายมุ่งมั่นจัดกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง เล็งเห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการรักในถิ่นฐาน ปกป้องรักษาทรัพยากรท้องถิ่นของตนเองให้แก่คนรุ่นหลัง ตลอดจนการอนุรักษ์ไว้ซึ่งกีฬาการละเล่นที่เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของท้องถิ่นชาวเขาเผ่าม้ง จึงจัดการแข่งขันรถล้อเลื่อนไม้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี “เจอร์ไฮฟอร์มูล่าม้ง 2018” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ณ ดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยตั้งเงินรางวัลมูลค่ารวมสูงถึง 270,000 บาท
นอกจากนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ภายในชุมชน จึงนำผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเครือซีพีเอฟ อาทิ ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ ซีพี เอเอ บีเคพี ซีพีคอนซูเมอร์ เชสเตอร์ ไก่ย่างห้าดาว และซีพีเมจิ มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท มามอบให้กับกลุ่มสมาคมแม่บ้าน โรงเรียน และชมรมการท่องเที่ยวดอยม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ จำหน่ายภายในงาน เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
ในส่วนของเส้นทางการแข่งขันครั้งนี้ สุขวัฒน์อธิบายเพิ่มเติมว่า เป็นทางลงเขาและโค้งที่ลาดชัน มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ได้รับความสนใจจากผู้เข้าแข่งขันชาวเขาเผ่าม้ง ประมาณ 32 คน จากเครือข่ายชุมชนชาวเขาเผ่าม้ง 13 หมู่บ้าน โดยจับสลากแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม แข่งแบบประกบคู่แพ้คัดออก กระทั่งได้ผู้ชนะในแต่ละกลุ่มมาประกบคู่กัน จนเหลือคู่ชิงชนะเลิศ และใครเข้าถึงเส้นชัยก่อนจะเป็นผู้ชนะ โดยผู้เข้าแข่งขัน ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อป้องกันอันตราย เช่น หมวกกันน็อก, สนับเข่า เป็นต้น เพื่อป้องกันอันตราย และมีการทำประกันอุบัติเหตุให้กับผู้เข้าแข่งขันทุกคนด้วย
ด้าน จีรศักดิ์ เตชะเลิศพนา ผู้ดูแลจุดให้บริการรถล้อเลื่อนม่อนแจ่ม อธิบายเพิ่มเติมว่า ปีนี้ได้ปรับพื้นที่สนามการแข่งขัน ตั้งแต่ด้านบนลงมาสู่ด้านล่าง และเตรียมอุปกรณ์รอบสนามเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นของผู้เข้าแข่งขันและผู้ที่มารับชมการแข่งขัน โดยปีนี้มีคนท้องถิ่นให้ความสนใจเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อน นักกีฬาผู้สมัครมาร่วมแข่งมีการเตรียมความพร้อมทั้งตัวรถและตัวนักกีฬาเอง
จากเจ้าภาพและผู้จัดงานมาที่ผู้เฟข้าแข่งขัน เจ้าของแชมป์เก่าเมื่อปี 2560 สุรินทร์ นทีไพรวัลย์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหอยเก่า เล่าถึงการเข้าร่วมการแข่งขันว่า การที่หมู่บ้านหนองหอยเก่าได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเมื่อปีกลายไม่เพียงนำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ความสนุกสนาน รวมทั้งยังเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมของชุมชนตนเองออกไป
ที่สำคัญคือ เงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันเมื่อปีที่แล้วยังนำไปสนับสนุนการพัฒนาสร้างศาลาป่าช้า เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา สร้างห้องน้ำสาธารณะ และจัดซื้ออุปกรณ์เสียงตามสายเพื่อใช้ประชาสัมพันธ์กระจายข่าวสารภายในชุมชน นับเป็นประโยชน์สาธารณะเพื่อชุมชนตามวัตถุประสงค์ที่เจอร์ไฮ ผู้จัดการแข่งขันได้ตั้งไว้ทุกประการ
