ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
เผยแพร่ |
วัดชนะสงครามเป็นวัดแรกใน 9 วัด ที่พุทธศาสนิกชนนิยมไปนมัสการ เพื่อความเป็นสรรพสิริมงคล และทุกวันพระจะมีประชาชนผู้สนใจมาศึกษาและปฏิบัติธรรมกันเนืองแน่นพระอุโบสถ แม้ชาวต่างประเทศที่ตั้งใจมาศึกษาพุทธศิลป์ ก็ยังศรัทธาในธรรมศาสตร์ที่สามารถประสบพบได้ด้วยตนเอง
ที่สำคัญสูงสุดคือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชเสาวนีย์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ดังนี้
“สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชอนุสรว่า สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระมหาเถราจารย์ผู้เจริญในสมณคุณธรรม สมบูรณ์ด้วยศีลวัตร แตกฉานในพระปริยัติธรรม แม่นยำในพระธรรมวินัย ทั้งได้บำเพ็ญกรณียกิจมีอุปการคุณยิ่งแก่พุทธจักรและอาณาจักร นับเป็นสมณะรูปหนึ่งแห่งพระพุทธศาสนา น้อมนำพระราชศรัทธาให้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงสดับพระธรรมเทศนา ซึ่งสมเด็จพระมหาธีราจารย์ได้แสดงถวายในวันธรรมสวนะอยู่เป็นนิจ
เมื่อพระมหาสมณะรูปนี้มรณภาพ จึงทรงพระอาลัยยิ่ง และได้มีพระราชเสาวนีย์ให้จัดพิมพ์หนังสือ 3 เรื่องคือ 1. พระธรรมเทศนามงคลวิเสสกถา และพระธรรมเทศนาในการบำเพ็ญพระราชกุศล โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ 2.รวมพระธรรมเทศนาของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ 3.สมุดภาพสมเด็จพระมหาธีราจารย์ พระราชทานเป็นอนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงฃ เพื่อเผยแพร่ชีวประวัติ และพระธรรมเทศนาของท่านให้อนุชนได้ศึกษาเป็นแบบอย่าง กับเพื่อเป็นธรรมบูชาแก่ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ทรงพระราชอุทิศกุศลทั้งปวง อันพึงบังเกิดแต่หิตานุหิตประโยชน์ของหนังสือทั้ง 3 เรื่อง และพระมหากุศลจากพระบรมราชินูปถัมภ์ในการจัดสร้าง “พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” ตามปณิธานของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ณ วัดทิพย์สุคนธาราม จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ให้เป็นปัจจัยเสริมส่งสมเด็จพระมหาธีราจารย์ไปสู่สุคติภพที่ท่านตั้งประสงค์ไว้ และทรงหวังพระราชหฤทัยว่า กิตติคุณของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ต่อพระพุทธศาสนา จักสถิตเสถียรอยู่ในความรำลึกของพุทธศาสนิกชนสืบไปตลอดกาลนาน”

สำหรับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ศ.พิเศษเสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ได้เขียนมหาเถรสดุดีไว้ว่า
“ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจนจบพระพุทธวจนะ ด้วยเป็นเปรียญถึง 9 ประโยค เป็นศิษย์มีครู คือได้แบบอย่างในการปกครองสงฆ์จากเจ้าพระคุณ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธรมหาเถร ป.ธ.9) วัดสามพระยา มีความมั่นคงต่อพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง มีการตัดสินใจเด็ดขาด กรณีปัญหาวัดพระธรรมกาย ชี้ชัดว่า เจ้าประคุณสมเด็จฯเป็นผู้ยืนหยัดในความถูกต้อง เห็นแก่หลักการมากกว่าบุคคลเพียงใด แบบอย่างเช่นนี้มิใช่หรือ ที่ต้องการให้มีมากๆ ในสถาบัน หาไม่แล้วในวงการพระพุทธศาสนาก็จะมีแต่ทุมมังกุบุคคล”
ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เกิดวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2466 ณ บ้านท่าหิน ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 14 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2479 ณ วัดกระสังข์ ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูโบราณคณิสสร (แกร สุมโน) วัดตองปุ เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุได้ 22 ปี เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2487 ณ พัทธสีมาวัดพระญาติการาม ตำบลไผ่ลิง อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ กล่าวเฉพาะคุณูปการด้านการปกครอง ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ วางระเบียบการรับพระภิกษุสามเณรที่จะเข้าสังกัดวัดชนะสงคราม ลดหลั่นตามวุฒิ และมีการสอบผู้ที่จะเข้ามาสังกัด เพื่อการศึกษาเล่าเรียน
ที่น่าภาคภูมิใจเป็นพิเศษคือ แบอย่างการปกครองคณะสงฆ์ได้ถูกถ่ายทอดสู่ศิษย์ใกล้ชิด เช่น พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม และเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ซึ่งใช้ภูมิรู้ภูมิธรรมอย่างคุ้มค่า ดังปรากฏผลงานการค้นค้า และจัดพิมพ์ตำราทางพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นท่านยังเห็นความสำคัญของการสือต่อพระปริยัติ อันเป็นรากแก้วแห่งปฏิบัติ และปฏิเวธ จึงก่อตั้ง สถาบันบาลีพุทธโฆษ วัดมหาสวัสดิ์นาคพุทธาราม อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ควบคู่ไปกับ ศูนย์ปฏิบัติธรรม “ธรรมโมลี” อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นับเป็นพระพุทธศาสนทายาทที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ บ่มเพาะไว้ในอันดับต้นๆ
ปัจจุบัน วัดชนะสงครามมีพระภิกษุ 114 รูป สามเณร 30 รูป



นอกจากนี้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ยังจัดถวายรางวัลและหนังสือเรียนคณะพระอาจารย์สอนหนังสือและพระภิกษุสามเณรผู้สอบได้ในสำนักเรียนวัดชนะสงครามทุกปี
ปัจจุบันมีผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค จำนวน 72 รูป เฉพาะสามเณรนาคหลวงมีมากถึง 13 รูป ที่พิเศษกว่านั้นคือ สามเณรนาคหลวงรูปแรกของวัดชนะสงคราม สามเณรประกอบ วงศ์พรนิมิตร ผู้สอบได้เมื่อ พ.ศ.2519 ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมกวี รับผิดชอบสนองงานคณะสงฆ์เป็นศรีพระพุทธศาสนาในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร และเจ้าคณะภาค 13 พร้อมกันนี้ สามเณรอุเทน สัจจับ ผู้สอบได้เมื่อ พ.ศ.2525 ปัจจุบันเป็นนักปฏิบัติในคราบของนักวิชาการ มีผลงานหนังสือที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวงกว้าง สร้างชื่อเสียงให้แก่วัดชนะสงคราม ในนาม “พระมหาอุเทน ปญฺญาปริทตฺโต”
ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงพระเมตตาโปรดพระราชทานงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม จันทนินทร ฐานิสสรมหาเถระ) วัดชนะสงคราม ไว้ในพระราชานุเคราะห์เป็นประจำทุกปี

ปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม ท่านพระครูวิสิฐสรการ (มนต์ศักดิ์ สุชิตมนฺโต) พระฐานานุกรมในพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม จันทนินทร ฐานิสสรมหาเถระ) วัดชนะสงคราม จึงขอเชิญพระภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกา และศิษยานุศิษย์ร่วมอนุโมทนา และสละเวลาไปร่วมโดยเสด็จพระราชกุศล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 08-9664-0192