เปิดใจ ‘รศ.นพ.ทวี เลาหพันธ์’ บุกเบิก ‘แพทย์แผนไทยประยุกต์’ อุดมศึกษา เจ้าของรางวัลมหิดลทยากร 2561

อดีตหัวหน้าภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายการศึกษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประธานราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย และหัวหน้าสถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ประธานอนุกรรมการการจัดสอบแพทย์แผนไทยประยุกต์ ประธานอนุกรรมการพิจารณาการรับรองสถาบันการศึกษาและฝึกอบรมสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ เลขาธิการสภาการแพทย์แผนไทย และประธานอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์

มีผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์มากมายทั้งในวารสารวิชาการนานาชาติและในประเทศ รวมทั้งได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ อาทิ รางวัลอาจารย์ตัวอย่างของสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล รางวัลอาจารย์ดีเด่นของแพทยสภา และรางวัลบุคคลคุณภาพของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

รศ.นพ.ทวี เลาหพันธ์ กล่าวว่า ภารกิจการสอนมีความสำคัญที่จะนำลูกศิษย์ทุกคนไปสู่ความสำเร็จ ตนเองมีความสุขเมื่อได้จัดการเรียนการสอน ไม่ใช่ทำเพราะเป็นหน้าที่หรือทำตามคำสั่ง ไม่หยุดนิ่ง ต้องปรับปรุงพัฒนางานอยู่เสมอเพื่อตอบโจทย์หรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน

Advertisement

“ในช่วง 16 ปีหลังได้มีโอกาสทำหน้าที่บริหารงานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้กับคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เนื่องจากมีการโอนย้ายโรงเรียนอายุรเวทที่ท่านอาจารย์อวย (ศ.นพ.อวย เกตุสิงห์) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 เข้ามาเป็นหน่วยงานใหม่ในสังกัด เมื่อได้เข้าไปสัมผัส เข้าไปเรียนรู้ ก็เห็นความจำเป็นชัดเจนที่ต้องนำสาขานี้เข้ามาพัฒนาต่อในระดับอุดมศึกษา เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นของท่านอาจารย์อวยที่อยากให้ภูมิปัญญาของชาติได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวหน้าและยั่งยืนอยู่บนพื้นฐานวิชาการเหมือนวิชาชีพวิทยาศาสตร์สุขภาพ อื่นๆ ปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลสามารถจัดการศึกษาในสาขานี้จนถึงระดับปริญญาเอกและมีผลงานทางวิชาการในด้านนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง”

นอกจากการพัฒนาการจัดการศึกษาและงานวิชาการแล้ว ยังต้องเร่งพัฒนาให้เกิดงานการให้บริการตรวจรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยซึ่งรวมถึงการผลิตยาจากสมุนไพรด้วย เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้และฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษา โชคดีที่งานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ได้รับการสนับสนุนให้สร้างโรงงาน ผลิตยาจากสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GMP และมีโอกาสใช้พื้นที่ชั้นที่ 7 ทั้งชั้นในอาคารปิยมหาราชการุณย์ที่ก่อสร้างขึ้นใหม่เพื่อจัดเป็นงานบริการทางการแพทย์แผนไทยประยุกต์

“ในช่วงนั้นยังไม่มีรูปแบบงานบริการทางการแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ชัดเจน จากการเรียนรู้หลักการของศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่มองร่างกายและชีวิตของมนุษย์แบบองค์รวม อธิบายได้ทั้งในสภาวะที่มนุษย์มีสุขภาพดีหรือเมื่อเจ็บป่วยเป็นโรค บวกกระแสแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อลดภาระในการตรวจรักษาโรคเมื่อเจ็บป่วย”

Advertisement

ด้วยการออกแบบพื้นที่ของงานบริการทางการแพทย์แผนไทยประยุกต์จึงมีสองส่วน

ส่วนแรกเป็น “คลินิกอายุรเวท” แพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคด้วยยาจากสมุนไพร การนวดไทยแบบราชสำนัก การประคบและการอบไอน้ำสมุนไพร

พื้นที่ส่วนที่สองเรียกว่า “ศิริราชสัปปายสถาน” เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ จัดเป็นพื้นที่สำหรับการพัฒนางานการสร้างเสริมสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ให้บริการมีผู้มาศึกษาดูงานและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และนำต้นแบบที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้

“ระบบบริบาลสุขภาพปัจจุบันให้ความสำคัญกับการบูรณาการงานบริการของการแพทย์แบบตะวันตกซึ่งเป็นกระแสหลักกับการบริการของวิทยาศาสตร์สุขภาพทุกสาขาวิชาชีพ ซึ่งหมายรวมถึงการแพทย์แบบดั้งเดิมด้วย เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดีและเหมาะสมที่สุด งานการแพทย์แผนไทยซึ่งเป็นภูมิปัญญาของไทย ต้องพัฒนาให้มีความชัดเจน ให้มีข้อมูลเชิงประจักษ์ เพื่อบทบาทที่ชัดเจนมากขึ้นในระบบบริบาลสุขภาพ” รศ.นพ.ทวีบอก และว่า

มหาวิทยาลัยมหิดลมีประวัติและเกียรติภูมิมายาวนาน คงต้องอาศัยบุคลากรรุ่นหลังทุกประเภทช่วยกันสานต่อ ในส่วนของอาจารย์ อยากให้แบ่งเวลาสำหรับการทำภารกิจด้านต่างๆ ให้เหมาะสม ทั้งในเรื่องการเรียนการสอน การบริการ งานวิชาการ รวมทั้งงานอื่นๆ ที่เป็นการชี้นำสังคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image