ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุรัตน์ สกุลคู |
เผยแพร่ |
เมื่อไม่นานมานี้ มีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ประเด็นหนึ่งคือการตั้งสมณศักดิ์ให้กับบาทหลวงคาทอลิกฝรั่งเศสท่านหนึ่ง
ทว่า รายละเอียดข้อมูลยังไม่ประจักษ์ชัดว่าเป็นใคร สมณศักดิ์อะไร หรือแม้แต่สมณศักดิ์ที่ได้รับนั้นตั้งโดยใคร นี่เป็นความสงสัยที่สร้างความคาใจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากมีการตั้งสมณศักดิ์จริง ย่อมเป็นเรื่องที่ “ออกนอกขนบ” อยู่ไม่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น บาทหลวงคาทอลิกที่ได้รับสมณศักดิ์นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อผู้ที่ตั้งให้เป็นแน่
สำรวจเอกสารฝรั่งเศสยุคพระนารายณ์
‘ผู้ปราดเปรื่องเต็มไปด้วยรัศมีเจิดจ้า’
จากการเริ่มต้นสำรวจวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเอกสารและหลักฐานชั้นต้นของฝรั่งเศสในช่วงรัชสมัยพระนารายณ์ พบว่าในบันทึกของ อับเบ เดอ ชัวซีย์ (Abb de Choisy) ได้กล่าวว่า “ชื่อพระสังฆราชลาโนได้รับพระทานมีว่า พระผู้ประเสริฐ พระสังฆราชฝรั่งเศสหลุยส์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ในพระศาสนา ผู้มีความยุติธรรม ผู้เป็นเลิศในหลายๆ ด้าน ผู้ปราดเปรื่องเต็มไปด้วยรัศมีเจิดจ้า…”
หลักฐานชิ้นนี้แม้จะไม่ได้ระบุชื่อว่าใครเป็นผู้ตั้งสมณศักดิ์ให้ แต่อย่างน้อยบันทึกชิ้นนี้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ นั่นคือ “พระสังฆราชลาโนได้รับพระราชทาน” หากพิจารณาจากข้อความนี้ ก็หมายความว่าพระสังฆราชลาโนได้รับสมณศักดิ์จากพระมหากษัตริย์ แต่หลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้เชื่อว่ามีการตั้งสมณศักดิ์ (จริง) ก็คือ “จดหมายอภิบาล” จดหมายฉบับนี้ เขียนด้วยลายมือภาษาสยาม จำนวน 4 หน้า ความว่า
“หนังสือพระธรรมษาครถ่งบดีปูพระสังฆราชฝรังเสศถึงพีนองสับบุรุดทังหลายณจัหงวัตแวน้แควนเมืองพิศหนุโลก…” (ภาษาในต้นฉบับ) ซึ่งถอดความได้ว่า “หนังสือพระธรรมสาครถึงบิชอปพระสังฆราชฝรั่งเศสมาถึงพี่น้องสัปปุรุษทั้งหลาย ณ จังหวัดแว่นแคว้นพิษณุโลก….” จดหมายฉบับนี้ลงท้ายว่า “แลหนังสือนีมาวันพระหัศเดือนส่บีแรมฺแปด่คำสักราช 2228 ปีหลูสุบับศกแลปดตราเปนสำคัน”ซึ่งถอดความได้ว่า “และหนังสือนี้มาวันพฤหัสบดี เดือนสิบ แรมแปดค่ำ ศักราช 2228 ปีฉลู ศุภศก และประทับตราเป็นสำคัญ”
จากหลักฐานข้างต้นทำให้ค่อนข้างเชื่อว่า “พระธรรมสาคร” คือสมณศักดิ์ที่พระนารายณ์ทรงตั้งให้ และใช้เรียกเรื่อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2228 เป็นต้นมา แต่ปัญหาก็คือ พระนารายณ์ทรงตั้งสมณศักดิ์ให้กับพระสังฆราชหลุยส์ ลาโน เมื่อไร? และเพราะสาเหตุใดถึงได้มีการตั้งสมณศักดิ์ให้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีกษัตริย์พระองค์ใดทรงตั้งสมณศักดิ์ให้แก่บาทหลวงหรือมิชชันนารี ทำให้ผมสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่การตั้งสมณศักดิ์ในลักษณะนี้คือการแสดงความไม่พอใจพระสงฆ์ของพระนารายณ์ที่มักนินทาพระองค์ กระทั่งเกิดความไม่ลงรอยกัน
จากปารีสสู่สยาม ‘สังฆราชฝรั่ง’ นอกขนบแห่งยุคสมัย
พระธรรมสาคร หรือ พระสังฆราชหลุยส์ ลาโน (Mgr.Louis Laneau) พระสงฆ์พื้นเมืองสังกัดคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิการสามเณราลัยในอยุธยาองค์แรก และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประมุขมิสซังสยามองค์แรก มีบทบาทสำคัญในด้านการศาสนาในรัชสมัยพระนารายณ์ และนับเฉพาะเพียงเท่านี้ ก็คงเป็นที่ประจักษ์ว่าบุคคลท่านนี้มิใช่บาทหลวงธรรมดาที่เพียงเข้ามาเผยแผ่คริสต์ศาสนา ความไม่ธรรมดาของบาทหลวงฝรั่งเศสผู้นี้ไม่เพียงแต่เราจะเห็นได้จากตำแหน่งที่ท่านได้รับหรือสิทธิและอำนาจในด้านการเผยแผ่คริสต์ศาสนาหรือในทางการเมือง หากแต่แนวคิดและภูมิหลังความรู้ที่นำเข้ามายังราชอาณาจักรสยามช่างดูแตกต่างจากมิชชันนารีหรือนักบวชอื่นๆ ที่เดินทางมายังราชอาณาจักรสยามอย่างสิ้นเชิง รวมถึงบทบาทและความสัมพันธ์ระหว่างพระธรรมสาครกับพระนารายณ์ เราก็คงพบกับความแปลกประหลาด น่ามหัศจรรย์ใจอยู่ไม่น้อยว่าท่านนี้ได้กระทำการต่างๆ ในลักษณะที่เป็นการ “ออกนอกขนบ” ของยุคสมัยนั้นและยังเป็นเหมือนผู้ที่กระทำการในลักษณะปิดทองหลังพระอยู่ไม่น้อย โดยที่ท่านได้เลือกแนวทางต่างๆ ไม่ว่าจะผิดหรือถูกอย่างไรก็ตามล้วนกลับกลายเป็นผลดีต่อการวางรากฐานอย่างมั่นคงของคริสต์ศาสนาในสยาม
บาทหลวงฝรั่งคนแรกผู้ฟัง พูด อ่าน เขียน ‘ภาษาสยาม’ คล่องแคล่ว
พระสังฆราชหลุยส์ ลาโน เกิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ.1637 ที่มองดูโบล แขวงลัวร์และแชร์ เวลานั้นอยู่เขตสังฆมณฑลชาร์ตร (ปัจจุบันเรียกว่าสังฆมณฑลบลัวส์) ขณะกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยซอร์บอน ท่านได้รู้จักคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1658 จึงสมัครเข้าร่วมกับคณะนี้ หลังจากบวชเป็นพระแล้ว ได้เดินทางออกจากกรุงปารีสในเดือนกันยายน
ค.ศ.1661 พร้อมกับพระสังฆราชฟรังซัวส์ ปัลลือ (Franois Pallu) และมิชชันนารีอีก 8 ท่าน เพื่อเดินทางเข้ามาในเอเชีย กระทั่งมาถึงอยุธยาเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.1664 และได้รับการสถาปนาเป็นพระสังฆราชเกียรตินามแห่งเมเตโลโปลิสเมื่อปี ค.ศ.1673
แนวคิดและวิธีการที่มุ่งหวังให้ผู้คนพื้นเมืองกลายเป็นคริสต์ชนผ่านกระบวนการ Localization และหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญคือ “ภาษาท้องถิ่น” เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าแรกเริ่มหลักคำสอนอย่างพระคัมภีร์ไบเบิลถูกเขียนด้วยภาษาละติน ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่บรรดานักเผยแผ่ศาสนาเองต่างก็รู้ดีว่าถ้าไม่ปรับคำสอนหรือเนื้อหาบางอย่างให้สอดคล้องกับความเชื่อเดิมของท้องถิ่นหรือศาสนาดั้งเดิมของดินแดนที่เข้าไปเผยแผ่คริสต์ศาสนา ก็เป็นการยากที่จะทำให้ผู้คนพื้นเมืองจะเข้าใจในหลักคำสอนหรือหันมาเปลี่ยนศาสนา
สำหรับพระธรรมสาครหรือบาทหลวงลาโนมีความรอบรู้และเชี่ยวชาญภาษาสยามเป็นอย่างมาก เนื่องจากแรกเริ่มเมื่อท่านเดินทางถึงอยุธยา ท่านได้มีโอกาสพบปะและทำความรู้จักมักคุ้นกับพระสงฆ์ที่อาศัยในอาราม ท่านได้เล่าเรียนภาษาสยามและภาษามคธอย่างกระตือรือร้น จนกระทั่งท่านสามารถเขียนหนังสือด้วยภาษาสยาม ภาษามคธ และภาษาละติน ถึง 26 ชิ้น ในแง่นี้ อาจจะกล่าวได้ว่าท่านเป็นบาทหลวงฝรั่งท่านแรกที่สามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาสยาม ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ผลงานของท่านอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเกือบจะทั้งหมด
วางรากฐาน ‘คาทอลิก’ ในสยามอย่างมั่นคง
บทบาทที่สำคัญของบาทหลวงผู้นี้คือการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิกในสยามด้วยการเข้าไปประกาศพระวรสารเพื่อให้ผู้คนในพื้นที่ต่างๆ ในราชอาณาจักรสยามหันมานับถือพระผู้เป็นเจ้า โดยเริ่มต้นที่อยุธยา ภายหลังจากที่ได้เข้าเฝ้าพระนารายณ์เป็นการส่วนพระองค์พร้อมด้วยคณะบาทหลวงท่านอื่น ๆ ซึ่งคณะบาทหลวงได้ทูลขอพระบรมราชานุญาตสร้างวัดและโรงเรียนซึ่งพระองค์ทรงตอบรับและยินดีให้การช่วยเหลือแก่บรรดาบาทหลวงคณะนี้อย่างเต็มที่ พระองค์พระราชทานที่ดินแปลงหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำและได้พระราชทานเงินและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับสร้างวัดและโรงเรียน ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1666 ทั้งวัดและโรงเรียนเรียกรวมกันว่า “ค่ายนักบุญยอแซฟ” นอกจากนี้ ท่านยังมีบทบาทในการสร้างโรงหมอ ซึ่งบาทหลวงผู้นี้ยังทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลรักษาผู้ป่วยซึ่งบาทหลวงลาโนได้มีโอกาสศึกษาการแพทย์มาจากฝรั่งเศสบ้าง รวมไปถึงการสร้างสามเณราลัยจากการดำริของพระสังฆราชลังแบรต์ เดอ ลา ม็อตต์ และฟรังซัวส์ ปัลลือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการอบรมพระสงฆ์พื้นเมือง โดยมีพระสังฆราชหลุยส์ ลาโน เป็นอธิการบดีคนแรก พื้นที่ต่อมาก็คือพิษณุโลกโดยพระธรรมสาครได้เดินทางไปเผยแพร่ธรรมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ.1671 และพำนักจนถึงวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.1671 นอกจากนี้ ท่านยังโปรดให้สร้างวัดขึ้นหนึ่งแห่งเพื่อใช้ประกอบศาสนพิธี ท่านทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนคำสอนให้แก่ผู้คนที่สนใจในศาสนาคริสต์ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ซึ่งในเวลาต่อมาจำนวนคริสตชนมีจำนวนเพิ่มขึ้น ท่านจึงได้ส่งพระสงฆ์จากสามเณราลัยจากอยุธยาขึ้นไปเผยแผ่ศาสนาและรับผิดชอบดูแลในพื้นที่นั้นและบางกอก
พระนารายณ์พระราชทานที่ดินบริเวณสามเสนให้แก่บาทหลวงซึ่งท่านโปรดให้สร้างวัดปฏิสนธินิรมล หรือวัดคอนเซ็ปชัญในปัจจุบัน ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่อาศัยของชาวโปรตุเกส เขมร และญวณ
ขอขอบพระคุณ
บาทหลวงพรชัย สิงห์สา
รศ.ดร.ปรีดี พิศภูมิวิถี
ธิษณา วีรเกียรติสุนทร