ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | วิภา จิรภาไพศาล [email protected] |
เผยแพร่ |
บทความ, หนังสือ เกี่ยวกับเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 หรือ “การปฏิวัติสยาม 2475” มีให้หาอ่านได้มากมาย ในหลากหลายมิติ แต่ที่นิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับเดือนตุลาคม 2563 นี้นำเสนอ เป็นเรื่องที่ยังไม่ค่อยมีการกล่าวถึงนัก
นั่นคือบทความเรื่อง “เหรียญที่ระลึกและพระพุทธรูปกับการเมืองในบริบท การปฏิวัติสยาม 2475” ที่ วิศรุต บวงสรวง ปรับปรุงจากวิทยานิพนธ์ของเขาเอง
วิศรุต บวงสรวง ได้รวบรวมเรื่องราวของเหรียญพระเครื่อง, เหรียญที่ระลึก และพระพุทธรูป จำนวนมากที่สัมพันธ์กับการเมืองในช่วงทศวรรษ 2470-80 หลายรายการด้วยกัน แต่ในที่นี้ขอนำเสนอเพียงบางส่วน
เริ่มจากเหรียญพระแก้วมรกต ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้ร่วมบริจาคเงินในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวาระครบ 150 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ.2472
งบประมาณในการบูรณะครั้งนั้นอยู่ที่ 600,000 บาทเศษ รัชกาลที่ 7 พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 200,000 บาท, ใช้เงินแผ่นดินอีก 200,000 บาท ส่วนที่ยังขาดอยู่อีก 200,000 บาทเศษ โปรดเกล้าฯ ให้เรี่ยไรบอกบุญกับประชาชนทั่วไปที่ต้องการร่วมทำบุญ เพื่อให้ข่าวสารการเรี่ยไรกระจายไปทั่วถึง จึงมีการจัดทำใบปลิวออกเผยแพร่
ใบปลิว 4 หน้า จำนวน 20,000 ฉบับ ที่โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจพิมพ์ถวาย หน้าแรกพิมพ์รูปหน้าบันพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และมีข้อความว่า “ประกาศ บอกบุญในการปฏิสังขรณ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พ.ศ.2472” ส่วนเนื้อหาภายในเป็นการบอก วัตถุประสงค์ที่มาของการบูรณปฏิสังขรณ์, ความสำคัญของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม, การเชิญชวนให้ร่วมกันบริจาคเงิน และประกาศระเบียบการรับเงินเรี่ยไร ลงวันที่ 16 กันยายน 2472
เมื่อใบปลิวพิมพ์เสร็จ ก็มีกระทรวงมหาดไทยเป็นกลไกสำคัญในการกระจายข่าวสาร ทั้งกำชับข้าราชการของกระทรวงอย่างมากในการดำเนินการแจกจ่ายใบปลิวและเรี่ยไรเงินทำบุญดังกล่าว เช่น แต่ละหมู่บ้านต้องได้ใบปลิว 1 ฉบับ, ผู้ใหญ่บ้านและกำนันเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดแก่ลูกบ้านให้ชัดเจน ไม่ใช่แค่ติดประกาศใบปลิว, เลือกที่ปิดใบปลิว ไม่ให้โดนแดดหรือฝนเสียหาย และข้าราชการมหาดไทยในท้องที่ต้องเป็นธุระชักจูงให้ประชาชนเกิดศรัทธาในการร่วมบุญ
นอกจากจะเรี่ยไรเงินทำบุญด้วยการบอกข่าวผ่านใบปลิวแล้ว ยังมีการประกาศบอกบุญในหนังสือของราชการอย่างราชกิจจานุเบกษา และสร้างความจูงใจให้ด้วยการประกาศรายชื่อผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 5 บาทขึ้นไป ในหนังสือราชกิจจานุเบกษาอีกด้วย
แล้วเหรียญพระแก้วมรกตที่ว่ามีลักษณะอย่างไร
ใบปลิวบอกบุญระบุว่า “เหรียญที่ระลึกที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนั้น เป็นเหรียญดุนรูปพระมหามณีรัตนปฏิมากร (แก้วมรกต) อยู่ในเรือนแก้วด้านหนึ่ง ดุนลายยันต์มีตัวอักษรภาษามคธว่า ‘วา ละ ลุ กัง สัง วา ตัง วา’ ด้านหนึ่ง” ทำจากวัสดุหลายชนิด สำหรับสมนาคุณแก่ผู้บริจาคเงินในจำนวนที่แตกต่างกัน ดังนี้ เหรียญทองสำหรับผู้บริจาคตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป, เหรียญเงินบริจาค 20 บาทขึ้นไป, เหรียญทองขาวบริจาค 5 บาทขึ้นไป และเหรียญทองแดงบริจาค 1 บาทขึ้นไป
นอกจากเหรียญที่สร้างโดยทางการแล้วก็ยังมีเหรียญที่สร้างโดยเอกชน เช่น นายมาสี สยามวาลา ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้างและจำหน่ายเข็มพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก, นางสอาด ศิริสัมพันธ์ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสร้างเหรียญที่ระลึกในงานฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดารามและฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระบรมรูป 7 รัชกาล ฯลฯ
ต่อมาในทศวรรษ 2480 การปกครองของประเทศเปลี่ยนไปสู่ระบอบประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และ “รัฐธรรมนูญ” นี้เอง ที่กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดใหม่ใน “ทำเนียบสิ่งศักดิ์สิทธิ์” ทั้งหลายที่มีอยู่เดิม ดังที่ผู้เขียน (วิศรุต บวงสรวง) เขียนไว้ว่า
“ช่วงปลายทศวรรษ 2470 จนถึงปลายทศวรรษ 2480 อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญและงานฉลองรัฐธรรมนูญกลายเป็นงานเฉลิมฉลองระดับชาติแทนที่งานพระราชพิธีแบบจารีต ราษฎรสามัญทั่วไปในพื้นที่ต่างจังหวัดได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญประจำจังหวัดขึ้น
โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในบางจังหวัดมีการสร้างเหรียญรัฐธรรมนูญขึ้น เช่น เหรียญที่ระลึกในงานเปิดอนุสรณ์รัฐธรรมนูญสุรินทร์ ด้านหน้าเป็นรูปอนุสรณ์รัฐธรรมนูญสุรินทร์ ด้านหลังมีข้อความว่า ‘ที่ระลึกในงานสมโภชน์อนุสรณ์รัฐธรรมนูญ จังหวัดสุรินทร์ 10 ธันว์ 79’ เหรียญ ส.ค.ส. พิทักษ์รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2480 โดยทำเป็นรูปวัวแบกพานรัฐธรรมนูญ”
ขณะเดียวกันก็มีการจัดทำเหรียญที่ระลึกการปฏิวัติเช่นกัน ซึ่งมีทั้งที่คณะราษฎรเป็นผู้จัดทำ และบุคคลเสนอให้จัดทำ ซึ่งเหรียญที่ระลึกการปฏิวัติสยามเหรียญแรกของคณะราษฎรสร้างขึ้นคือ “เหรียญพระราชทานรัฐธรรมนูญ” เพื่อแจกในงานพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญ และมีงานเฉลิมฉลองจัดขึ้นในกรุงเทพมหานครและทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475
เหรียญดังกล่าว มีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานรัฐธรรมนูญ และจารึกอักษรความว่า “ที่ระลึกได้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2475” คิดราคาเหรียญละ 50 สตางค์ โดยใช้งบในการทำเหรียญที่ระลึกดังกล่าว 571.50 บาท การแจกเหรียญรัฐธรรมนูญดังกล่าวมีขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2475 ให้เป็นรางวัลสำหรับเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่มาจัดงานมหรสพในงานเป็นรายบุคคล คนละ 1 เหรียญ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,143 เหรียญ (ยกเว้นแต่คณะโขนหลวงเพราะถือเป็นการช่วยเหลือทางราชการด้วยกัน)
ส่วนเหรียญต่างๆ ข้างต้นที่กล่าวมานั้น เหรียญอื่น และพระพุทธรูปที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้ สร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์โดยตรง และเป้าประสงค์แฝงประการใด ขอได้โปรดติดตามจาก “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับเดือนตุลาคมนี้