นับถอยหลัง ปี 2566 วันที่โลกไร้ไขมันทรานส์ เทสโก้ฯชูธง ‘ขนมปังเพื่อสุขภาพ’

“ขนมปัง” สำหรับหลายๆ คนเป็นหนึ่งในฟาสต์ฟู้ด บรรเทาความหิวยามเร่งรีบ และกับอีกหลายๆ คนเป็นความหลงใหลส่วนตัว เพราะหอมกรุ่น มีให้เลือกหลากหลาย รวมทั้งเบเกอรี่ที่ขาดไม่ได้ในทุกห้วงเวลาแห่งความสุข

ทว่า หารู้ไม่ว่าอันตรายที่มากับความฟินของขนมปังและเบเกอรี่ รวมทั้งอาหาร อื่นๆ ที่ใช้เนยขาวและมาการีน ก็คือ “ไขมันทรานส์” (Trans Fat) ซึ่งเป็นไขมันที่อันตรายที่สุด อันตรายกว่าไขมันอิ่มตัวถึง 2 เท่า สาเหตุสำคัญของการเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

ไม่น่าแปลกที่หลายประเทศเตรียมตัวประกาศกฎหมายห้ามใช้ไขมันทรานส์ในอาหาร ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น !

“ไขมันทรานส์” เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว พบได้เล็กน้อยในธรรมชาติ แต่ส่วนมากแล้วเกิดขึ้นจากการปรุงแต่งของมนุษย์ โดยกระบวนการเติมไฮโดรเจนลงในกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Partially Hydrogenated Oils: PHOs) เปลี่ยนสภาพของเหลวของน้ำมันให้แข็งขึ้น หรือมีสภาพกึ่งแข็งกึ่งเหลว เพื่อให้เก็บได้นาน ไม่มีกลิ่นหืน แต่กลับเป็นดาบสองคมที่สร้างอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างมหันต์

Advertisement

ที่ผ่านมา มีการวิจัยพบว่าการบริโภคไขมันทรานส์ส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคในกลุ่ม “NCDs” (Non-communicable diseases) หมายถึงกลุ่มโรคไม่ติดต่อ ที่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมในการบริโภค และการใช้ชีวิต เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน

กระแสตื่นตัวเพื่อสร้างความตระหนักรู้จึงเกิดอย่างแพร่หลายในโลกใบนี้รวมถึงเมืองไทย เนื่องจากพบไขมันทรานส์อยู่ในอาหารที่เราๆ ท่านๆ ชื่นชอบแทบทั้งนั้น อันดับ 1 มาการีน มีปริมาณไขมันทรานส์ 0.08-15.32 กรัมต่อ 100 กรัม อันดับ 2 โดนัททอด 0.02-5.14 กรัมต่อ100 กรัม อันดับ 3 พาย 0.03-4.39 กรัมต่อ 100 กรัม อันดับ 4 พัฟและเพสตรี 0.01-2.46 กรัมต่อ 100 กรัม อันดับ 5 เวเฟอร์ช็อกโกแลต 0.06-6.24 กรัมต่อ 100 กรัม

“เทสโก้ โลตัส” จึงเปิดตัวเบเกอรี่ไร้ไขมันทรานส์ ภายใต้แนวคิด “Healthy @ Heart ใส่ใจ ให้คนไทยสุขภาพดี” มี สลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส, มาลี จิรวงศ์ศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอิสระชื่อดังของไทย ร่วมพูดคุยให้ความรู้เกี่ยวกับ “ไขมันทรานส์” ไขมันที่เป็นอันตรายกับร่างกายมนุษย์ที่คร่าชีวิตคนมาแล้วนับไม่ถ้วน

Advertisement

สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอิสระชื่อดังของไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันโรคไม่ติดต่อ (Non Communicable Diseases – NCD) อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคหวาน มัน เค็ม และไขมัน รวมถึงไขมันทรานส์ จัดเกินไป คร่าชีวิตคนไทยถึง 73% และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้น ต้องฉลาดรู้ที่จะเลือกรับประทาน”

ฉลาดรู้ในการบริโภคที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการคนดังกล่าวกล่าวถึงคือ การใช้ สูตร 6:6:1 นั่นคือ บริโภคน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา น้ำมันไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา และเกลือไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา นอกจากนั้นยังควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไขมันทรานส์ที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าไขมันอิ่มตัวปกติถึง 2 เท่า

โดยองค์การอนามัยโลก WHO ได้ประกาศรณรงค์ให้ทั่วโลกยุติการใช้ไขมันทรานส์ ภายในปี ค.ศ.2023 (พ.ศ.2566) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการเสียชีวิตจากการบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์ ซึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารซึ่งไม่เป็นผลดีกับผู้บริโภค เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจสูงถึงร้อยละ 21 และเสียชีวิตร้อยละ 28 ซึ่งถ้ายุติได้จะช่วยชีวิตคนได้ถึง 10 ล้านคน

สง่า ดามาพงษ์ และ สลิลลา

ทางด้านตัวแทน อย. มาลี จิรวงศ์ศรี บอกว่า การกินอาหารที่มีไขมันทรานส์ก่อความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งคนเราไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันทรานส์เกินร้อยละ 1 ของพลังงาน ซึ่งพลังงานเฉลี่ยที่ควรได้รับอยู่ที่ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน

“สิ่งสำคัญของการบริโภคในทุกวันนี้คือ เราต้องปรับสมดุลแห่งการกิน ต้องปรับพฤติกรรมอย่ารับประทานเกินสิ่งที่ร่างกายต้องการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการออกมาพัฒนาสินคาเพื่อสุขภาพทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น สร้างทางเลือกที่ดีทางด้านสุขภาพมากขึ้น โดยเร็วๆ นี้น่าจะมีการประกาศใช้กฎหมายห้ามใช้ไขมันทรานส์ในอาหารแล้ว”

ขณะที่ สลิลลาเล่าถึงเบื้องหลังของการปรับสูตรว่า “เทสโก้ โลตัส ได้ปรับสูตรเบเกอรี่และขนมปังทุกรายการให้ปราศจากไขมันทรานส์ โดยยกเลิกการใช้เนยขาวและมาการีนที่มีไขมันทรานส์ แต่ยังคงรสชาติที่อร่อยเหมือนเดิม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสูตรก่อนที่ อย.จะประกาศใช้กฎหมายห้ามใช้ไขมันทรานส์ในอาหารเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจ-หลอดเลือด โดยเทสโก้ โลตัส ไม่ได้ปรับราคาเบเกอรี่หลังเปลี่ยนสูตรเพื่อให้ลูกค้าและประชาชนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากปกติ”

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2561 นี้ เทสโก้ โลตัส ได้สร้างทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพให้กับผู้บริโภค ด้วยการทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพในหลากหลายหมวดหมู่ อาทิ น้ำอัดลมสูตรน้ำตาลน้อยตราเทสโก้ 4 รสชาติ มีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่า 6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร และได้รับตราสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพเป็นแบรนด์เครื่องดื่มแรกๆ ของไทย

เป็นการส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพออกมาสู่ตลาด แต่ทั้งนี้ก็ต้องตระหนักรู้ให้เท่าทัน เปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภค ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image