ปตท. เดินหน้าโครงการ ‘ลมหายใจเดียวกัน’ เตรียมความพร้อม สร้างความมั่นใจ รับมือโอมิครอน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะการเข้ามาของสายพันธุ์โอมิครอน ที่กระจายตัวอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สร้างความวิตกให้ประชาชนไม่น้อย

ท่ามกลางความกังวล เรายังคงเห็นความหวังที่ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ต่างร่วมมือร่วมใจกันหาทางคลี่คลายสถานการณ์อย่างขยันขันแข็ง หนึ่งในนั้นคือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ยังคงยืนหยัดเดินหน้า “โครงการลมหายใจเดียวกัน” อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 กระทั่งถึงปัจจุบัน สร้างรอยยิ้มให้กลับคืนสู่คนไทยอีกครั้ง

โครงการลมหายใจเดียวกัน เป็นโครงการที่กลุ่ม ปตท. ร่วมกับพันธมิตรทางการแพทย์อย่าง โรงพยาบาลปิยะเวท รับมือสถานการณ์โควิด-19 ที่ทวีความเข้มข้นขึ้น โดยพร้อมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ไปจนกว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลาย ช่วยสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน และเป็นการแบ่งเบาภาระภาครัฐ เพื่อนำพาให้ประชาชนทุกคนก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างเข้มแข็ง

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เผยรายละเอียดว่า โครงการลมหายใจเดียวกัน เน้นการให้บริการแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “ตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว” ประกอบด้วย หน่วยคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาคาร EnCo Terminal หรือ Enter ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่ง ณ ขณะนี้ทำการตรวจคัดกรองประชาชนไปแล้วกว่า 65,000 คน รับผู้ป่วยเข้าดูแลรักษาในโครงการแล้วกว่า 3,900 คน

Advertisement

นอกจากนี้ ยังจัดเตรียมโรงพยาบาลสนาม ฮอสพิเทล เพื่อรองรับผู้ป่วยระดับ “สีเขียว” กว่า 1,000 เตียง โรงพยาบาลสนาม “สีเหลือง” สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักขึ้น 300 เตียง และโรงพยาบาลสนาม ICU รองรับผู้ป่วยวิกฤต “สีแดง” จำนวน 120 เตียง ซึ่งอย่างหลังสามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีภาวะโรคไตและต้องฟอกไตได้ด้วย

ด้าน นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โรงพยาบาลปิยะเวท จำกัด (มหาชน) เสริมว่า หลายฝ่ายมีความกังวลต่อโรคติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน การที่โครงการลมหายใจเดียวกันของกลุ่ม ปตท. ยังเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นข่าวดีที่ยังมีจุดดูแลรักษาประชาชนได้แบบครบวงจร เป็นการเสริมความเชื่อมั่นในการรักษาโรค

Advertisement

อย่างไรก็ดี การป้องกันส่วนบุคคลยังเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอันดับหนึ่ง คือ การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง ไม่อยู่ในที่ชุมชนโดยไม่จำเป็น อีกทั้งต้องส่งเสริมการฉีดวัคซีน ซึ่งที่ผ่านมาอาคาร Enter และเครือโรงพยาบาลปิยะเวท ได้ให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนแล้วกว่า 2 ล้านเข็ม

นอกจากบทบาทการตรวจแยกรักษาและการให้บริการฉีดวัคซีน กลุ่ม ปตท. ยังจัดตั้งสายด่วนจิตอาสา สำหรับให้บริการรับสายเรียกเข้าจากผู้ที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมให้คำแนะนำทันที และส่งรถพยาบาลรุดให้ความช่วยเหลือถึงบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่โทร. 1745 และ Line Official Account : ลมหายใจเดียวกัน ATK โดยสามารถค้นหาด้วยการพิมพ์ @ptt.covid-atk ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

โครงการลมหายใจเดียวกัน เป็นเพียงหนึ่งในโครงการที่กลุ่ม ปตท. สนับสนุนความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเมื่อนับถึงเดือนธันวาคม ปี 2564 ได้ใช้งบประมาณแล้วกว่า 1,850 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้แสดงถึงความตั้งใจของกลุ่ม ปตท. ในการช่วยเหลือสังคม และเป็นดั่งประกายแสงแห่งความหวัง ให้คนไทยร่วมก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกันอีกครั้ง เพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุข เพราะเราทุกคนล้วนมี “ลมหายใจเดียวกัน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image