นับตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาด เราได้เห็นการร่วมแรงร่วมใจของหลายภาคส่วนในสังคม ที่ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ กลุ่ม ปตท. ที่เดินหน้า ‘โครงการลมหายใจเดียวกัน’ ร่วมกับพันธมิตรทางการแพทย์ เพื่อรับมือโควิด-19 อย่างแข็งขัน ตั้งแต่ปี 2564 กระทั่งถึงปัจจุบัน ทั้งบทบาทการสนับสนุนทางการแพทย์ในด้านต่างๆ ให้บริการฉีดวัคซีน การตรวจคัดแยก ไปจนถึงการรักษา ช่วยสร้างรอยยิ้มให้ประชาชนได้อีกครั้ง
เพื่อขยายขอบเขตการช่วยเหลือให้ครอบคลุมขึ้นแบบครบวงจร กลุ่ม ปตท. ยังจัดตั้ง ‘สายด่วนจิตอาสา’ ให้บริการรับสายผู้ตรวจพบเชื้อโควิด-19 พร้อมให้คำแนะนำทันที และส่งรถพยาบาลให้ความช่วยเหลือถึงบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านสายด่วน 1745 และ Line Official Account : ลมหายใจเดียวกัน ATK โดยสามารถค้นหาด้วยการพิมพ์ @ptt.covid–atk
เสียงจิตอาสา ที่อยากรับโทรศัพท์ช่วยเหลือผู้คน
ในสถานการณ์ที่ทุกคนต่างกลัวการออกจากบ้านไปพบปะผู้คน สายด่วนจิตอาสาได้กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญ ให้ภารกิจการเอาชนะโควิด-19 ในครั้งนี้ลุล่วงไปด้วยดี
ใครจะไปคิดว่า เพียงการรับสายโทรศัพท์จากคนแปลกหน้า จะสามารถช่วยให้ครอบครัวหนึ่งได้คลายความกังวลที่ถาโถม อีกทั้งได้รับการรักษาจนหายขาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงเวลาที่เขามืดแปดด้าน ขณะเดียวกัน การรับสายคนแปลกหน้า ก็ได้เปลี่ยนชีวิตของคนคนหนึ่งไปตลอดกาล ให้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า ‘การให้’
“การเข้ามาทำงานจิตอาสากลายเป็นกำลังใจในการทำงานในแต่ละวัน เรารู้สึกว่าตัวเรากระตือรือร้นมากขึ้น เราพร้อมที่จะตื่นขึ้นมาทุกเช้าเพื่อมาทำงานประจำของเรา และพร้อมที่จะทำงานจิตอาสาไปด้วยในเวลาเดียวกัน”
คือเสียงความภูมิใจของ มาริษา โกศัยเสวี ผู้จัดการสังกัดฝ่ายกำกับดูแลและส่งเสริมธรรมาภิบาล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะฐานะจิตอาสาทีม End to End Mobile @1745 ที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ‘โครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท.’ ซึ่งเธอได้บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นจิตอาสานี้ว่า
“ตอนนั้นเป็นช่วงที่ทำงานแบบ WFH เป็นระยะเวลานานจนเกิดเป็นความเครียด ผนวกกับเราได้เห็นข่าวโควิด-19 ทุกวัน ได้เห็นความยากลำบากของผู้ป่วยในการหาเตียง บางรายถูกทิ้งไว้ที่บ้าน เลยคิดว่าถ้าเราได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือคนอื่นในช่วงเวลานี้ได้บ้าง ก็คงเป็นเรื่องที่ดี
“ช่วงนั้นได้รู้จักโครงการลมหายใจเดียวกัน จากการประชาสัมพันธ์ภายใน ปตท. พร้อมกับมีหัวหน้าชวนให้ลองเข้าร่วมโครงการดู เลยตัดสินใจเข้าร่วมอย่างไม่ลังเล เพราะคิดว่าถ้าเราได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือคนอื่นบ้างในช่วงเวลานี้ โดยที่ไม่ต้องออกไปเสี่ยง ก็น่าจะมีคุณค่าและมีประโยชน์ไม่น้อย ”
จากความเห็นใจเล็กๆ และหัวใจที่อยากช่วยเหลือสังคม ทำให้มาริษาเข้ามาร่วมช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่รีรอ เช่นเดียวกับ รุจิรา ทนงกิจ วิศวกรพลังงานชุมชน บริษัท บิซิเนส เซอร์วิสเซส อัลไลแอนซ์ จำกัด อีกหนึ่งอาสาสมัคร ที่ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์การช่วยเหลือผู้ป่วยผ่านสายด่วนอาสา ที่เขาจะไม่มีวันลืม
“มีเคสหนึ่งที่เราพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ที่สุด คือรับสายคุณตาและคุณยายคู่หนึ่งที่ไม่ได้ใช้สมาร์ตโฟน ทั้งคู่ตรวจ ATK แล้วพบเชื้อ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ เขาทำได้เพียงโทรศัพท์มาติดต่อเราที่เบอร์ 1745 แน่นอนว่าทั้งสองคนไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ผ่านช่องทางออนไลน์อื่นๆ เราจึงติดต่อและประสานให้คุณตาคุณยายเข้าไปทำการรักษาที่ศูนย์จนหายเป็นปกติ”
แต่กว่าจะมาเป็นจิตอาสานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจิตอาสาทุกคนต้องผ่านการอบรมให้ความรู้เรื่องจิตวิทยาการพูดคุยกับผู้ป่วย เพราะทุกคนที่ติดต่อมาที่สายด่วน 1745 ล้วนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล มีการจัดอบอรมหลักการให้คำแนะนำจากโรงพยาบาลว่าควรปฏิบัติอย่างไรในการพูดคุย
ดังนั้น ขั้นตอนการทำงานของจิตอาสาสายด่วน จึงไม่ใช่เพียงบทบาทการรับข้อมูล เพื่อประสานต่อไปยังโรงพยาบาล แต่ยังรวมถึงการปลอบประโลมใจผู้ป่วย ให้คลายความวิตก พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลที่ถูกต้องอย่างใจเย็น เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคัดกรองอาการเบื้องต้น แยกระดับของผู้ป่วยได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ไหน
หลังจากนั้น จึงให้ผู้ป่วยแอดไลน์ @ptt.covid–atk เพื่อส่งหลักฐานและผลตรวจที่เป็น ATK บัตรประชาชน เบอร์ติดต่อ ให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสามารถติดต่อและทำการช่วยเหลือได้ พร้อมส่งภาพและข้อมูลต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ในลำดับถัดไป
แม้ว่างานจิตอาสาจะเป็นภารกิจเฉพาะกิจ ไม่ใช่งานประจำที่พวกเขาต้องรับผิดชอบ แต่ทั้งมาริษาและรุจิราต่างสละเวลามาช่วยเหลือคนอื่นด้วยความเต็มใจ ซึ่งทั้งสองเล่าว่า
“ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราสามารถรับสายโทรศัพท์ได้ เพราะมีช่วงเวลาที่เราต้องทำงานประจำ มีกิจกรรมส่วนตัว แต่เราเชื่อมั่นว่าอาสาสมัครที่อยู่ร่วมในโครงการของเรา ก็สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้เหมือนๆ กับที่เราตั้งใจทำ
“สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดตลอดการเป็นจิตอาสา คือ เราเห็นว่าผู้ป่วยที่โทรเข้ามาขอความช่วยเหลือเขามีความพยายามที่จะดูแลตัวเองและดูแลคนที่เขารัก เหมือนๆ กับที่เราดูแลตัวเองและพยายามดูแลคนที่เรารักเช่นกัน”
ทั้งหมดเป็นเพียงเสียงเล็กๆ จากจิตอาสาสายด่วน 1745 ใน ‘โครงการลมหายใจเดียวกัน’ โครงการต่อยอดของกลุ่ม ปตท. ที่อยากเห็นคนไทยทุกคนมีใบหน้าที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม โดยที่ไม่มีสิ่งปกปิดอย่างหน้ากากอนามัยอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ กลุ่ม ปตท. จึงได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วน ไปจนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลาย เพื่อสร้างความอุ่นใจ เสริมความปลอดภัยด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน และแบ่งเบาภาระภาครัฐ ควบคู่กับขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
เพราะกลุ่ม ปตท. เชื่อว่า “คนไทยทุกคนล้วนมีลมหายใจเดียวกัน”
