กลุ่มข้าวชุมชนบ้านแม่ระวาน อ.สามเงา จ.ตาก รวมตัวทำนาแปลงใหญ่ ช่วยลดต้นทุนกว่า 1,500 บาทต่อไร่

คุณปราณี ตั้งน้อย ประธานกลุ่มข้าวชุมชนบ้านแม่ระวาน เปิดเผยว่า ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านแม่ระวาน ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา จ.ตาก เป็นศูนย์ ศพก.ขยายของ อ.สามเงา จ.ตาก ซึ่งทางกลุ่มดำเนินกิจกรรมการทำนาเป็นหลัก เพราะอาชีพหลักของคนในชุมชนคือการทำนา มีพื้นที่โดยรวมกว่า 500 ไร่ แรกเริ่มจะปลูกข้าวพันธุ์เดิม ต่อมาในปี 2545 ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรอำเภอสามเงา จึงมีการรวมตัวกันอย่างชัดเจน เพื่อจะรองรับการสนับสนุนปัจจัยการผลิต โดยมีการประชุม ครั้งแรกในวันที่ 11 มิถุนายน 2545 เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ วัตถุประสงค์ ของโครงการ และรับสมัคร สมาชิก โดยเริ่มต้นมีสมาชิก จำนวน 54 คน พันธุ์ข้าวที่ได้รับการสนับสนุน คือ พันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเหนียว กข 6 พร้อมปุ๋ย รวมมูลค่า 60,000 บาท จนปัจจุบันเรานำพันธุ์ข้าวที่ได้รับการสนับสนุนมาขยายให้กับสมาชิกในชุมชน ทำให้เรามีผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น และได้ราคาสูงกว่าท้องตลาด

ปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิกทั้งหมด 77 ราย มีการระดมหุ้นๆ ละ 50 บาท รวมกว่า 3,600 หุ้น มีการจัดสรรหาข้าวพันธุ์ดีมาสู่ชุมชนรวมไปถึงเครือข่ายอื่นๆ ที่มีการประสานงานมาด้วย ซึ่งต่อมา กลุ่มก็มาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เติบโตขึ้นอีก จึงไปจดเป็นวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวบ้านแม่ระวาน ดำเนินการกู้เงินจาก ธกส.มาจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรต่างๆ เช่น รถดำนา รถแทรกเตอร์ เครื่องอัดฟาง เป็นต้น เพื่อต้องการให้การผลิตของทางชุมชนเราดีขึ้น อีกทั้งนำมาทดแทนแรงงานที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และลดต้นทุนการผลิตจากแรงงานคนมาเป็นเครื่องจักร ลดระยะเวลาในการจัดการงาน

ปราณี ตั้งน้อย ประธานกลุ่มข้าวชุมชนบ้านแม่ระวาน

สำหรับผลผลิตที่ได้ ในช่วงแรกจะจำหน่ายให้กับพ่อค้าคนกลาง ต่อมาได้หันมาทำกันเองครบวงจร คือ แปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสารเพื่อบรรจุถุงจำหน่าย โดยมีเจ้าหน้าเกษตรอำเภอ เกษตรจังหวัด เข้ามาให้การสนับสนุน ประกอบกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายเรื่องนาแปลงใหญ่ ซึ่งในตอนแรก ระบุว่าต้องรวบรวมให้ได้ 2,000 ไร่ ถึงจะเข้าร่วมโครงการได้ ก็คิดว่าทางกลุ่มไม่สามารถร่วมโครงการได้แน่นอนเพราะเรามีแค่ 500 ไร่ แม้จะเคยมีความคิดว่าจะรวบรวมจากตำบลอื่นให้ได้ครบจำนวนตามที่กำหนด

Advertisement

แต่เมื่อคิดอีกที คิดว่าคงจะมีปัญหาด้านการประสานงานแน่นอนเพราะอยู่คนละพื้นที่กัน จึงไม่ได้รวบรวม จนกระทั่ง ทางรัฐบาลออกมากำหนดใหม่ว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมแปลงใหญ่สามารถมีพื้นที่รวมเริ่มต้นที่ 300 ไร่ขึ้นไป ทางกลุ่มจึงสามารถเข้าร่วมโครงโดยการสนับสนุนของกรมส่งเสริมการเกษตร ให้เป็นแปลงใหญ่ตั้งแต่ปี 2560 นอกจากนั้นเรายังกู้เงินเข้ามาพัฒนากลุ่มเราเพื่อจัดซื้อเครื่องจักรต่างๆเข้ามาให้ทางกลุ่มได้เป็นศูนย์ข้าวแบบครบวงจร.

ผลผลิตที่ได้จากสมาชิกนาแปลงใหญ่

Advertisement

“จากการดำเนินงานนาแปลงใหญ่ของกลุ่ม พบว่าสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้ จากไร่ละ 6,250 บาท เหลือ 4,800 บาท (ค่าไถ่,แรงงานปลูก,น้ำ,เมล็ดพันธุ์, ปุ๋ย เก็บเกี่ยว) ผลผลิตที่ได้เฉลี่ย 600-750 กก.ต่อไร่ สูงกว่าที่ปกติจะอยู่ประมาณ 500-550 กก. สามารถขายผลผลิตได้ราคาดีกว่าผ่านพ่อค้าคนกลาง กล่าวคือ ขั้นต่ำ 12.50 บาทต่อ กก. และแพงกว่าท้องตลาด กก.ละ 0.50 บาท นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังสามารถกำหนดข้อตกลงในการใช้สารเคมีในแปลงนาได้เอง ซึ่งปัจจุบัน ได้ขอข้าวปลอดภัย โดยทำ GAP จำนวน 50 แปลง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการออกใบรับรอง โดยเรามีเป้าหมายที่จะทำให้ครบทุกแปลงในโอกาสต่อไป”คุณปราณี กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image