นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ภายหลังพล.อ.รณชัย พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล ประธานสโมสรเซาเธิร์น บีช (SOUTHERN BEACH ) นำทีมยุวชนไทยใน3จังหวัดชายแดนใต้ 38 คนเข้ารับโอวาทก่อนไปแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอลยุวชนโลก ที่เมืองโกเธนเบิร์ค ประเทศสวีเดน ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ว่า 3จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่มีวัฒนธรรมฟุตบอลแข็งแกร่ง อีกทั้งเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15-20 ปีแล้วที่รัฐและภาคประชาสังคมได้ร่วมกันส่งเสริม และเด็กกลุ่มนี้คือผลผลิตของนโยบายดังกล่าวที่สามารถทำให้เด็กๆไปแข่งขันในเวทีนานาชาติได้ ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นสิ่งที่เด็กๆจะต้องภูมิใจ และแม้จะได้หรือไม่ได้รางวัลกลับมาแต่ก็ทำให้เด็กๆกลุ่มนี้ได้เห็นศักยภาพของตัวเองและทีมอื่นๆที่ร่วมแข่งขัน
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า การที่ภาครัฐอย่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอบต.)และสโมสรเซาเธิร์น บีช ร่วมกันคัดเลือกเด็กจนได้ทีมที่จะส่งไปแข่งขันระดับโลก ย่อมจะส่งผลไปถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ด้วย เพราะเมื่อคนมีศูนย์รวมทางจิตใจ และจะมีความหวัง เมื่อคนมีความหวังจะไม่ปล่อยไม่ทอดทิ้ง จะขยับเนื้อขยับตัวเพื่อจะทำสิ่งละอันพันละน้อย
“การไปแข่งในประเทศสวีเดนครั้งนี้ ผมเชื่อว่าเด็กๆคงจะกลายเป็นทูตตัวน้อยๆในด้านการกีฬา และคงจะมีคนถามเขาถึงเพื่อนๆที่ติดถ้ำ และเด็กคงจะเล่าให้ฟังว่าพวกเขาติดตามห่วงใยและให้กำลังใจกันและกันอย่างไร ซึ่งสิ่งที่ปรากฏที่ถ้ำหลวงฯ จังหวัดเชียงรายนั้น แต่ละคนทุ่มเทสรรพกำลังที่ตัวเองมีอยู่อย่างไม่คิดถึงชีวิต และทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนชื่นชมไปทั่วโลก”นายวีระศักดิ์กล่าวและว่า น้องๆจาก3จังหวัดชายแดนใต้เหล่านี้ก็เช่นกัน กำลังทำให้คนเห็นว่าพื้นที่ที่ทุกคนเห็นว่ามีแต่ความขัดแย้งนั้นสามารถสร้างความรักความสามัคคี และสามารถรักษาวัฒนธรรมฟุตบอลไว้ได้
ด้านพล.อ.รณชัยกล่าวว่า เท่าที่ติดตามมา เห็นว่าเด็กรุ่น11-13 ปี ทั้ง3 รุ่นมีความตั้งใจมีความมุมานะที่จะเล่นฟุตบอล และพัฒนาฝีมือขึ้นมาก หวังว่าจะสามารถเข้ารอบลึกๆได้ เพราะเด็กก็อยากจะนำชื่อเสียงนำเกียรติยศมาสู่ประเทศชาติ หากได้แชมป์มาทางสโมสรจะมีรางวัลให้แน่นอน และได้ฝากผู้ปกครองเด็กไปแล้วว่าเมื่อเด็กกลับมาจากการแข่งขันจะต้องช่วยกันดูแลในเรื่องการศึกษาให้ดีด้วย
