วันแม่ปีนี้ ก.หม่อนไหม เชิญชวนคนไทย เลือกซื้อผ้าไหมให้เป็นของขวัญวันแม่ ในงาน”โครงการสืบสานงานพระมารดาแห่งไหมไทย”

ในวันแม่ปี 2561 นี้ กรมหม่อนไหมขอร่วมเป็นหนึ่งในการส่งเสริมสินค้าจากผ้าไหม ให้เป็นของขวัญอันล้ำค่าในวันแม่ปีนี้ เชิญชวนเที่ยวงาน “ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ครั้งที่ 13” และเลือกซื้อสินค้าผ้าไหม และผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมได้ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.– 4 ส.ค.61 นี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี

นางสุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงให้ความสำคัญและทรงพระกรุณาในการส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแก่พสกนิกร สนับสนุนอาชีพทางด้านหัตถกรรมการทอผ้าไหมลวดลายต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2513 จากพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงงานด้านหม่อนไหมด้วยพระวิริยะอุตสาหะมาโดยตลอด ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไหม ทอผ้าไหม ได้มีอาชีพที่ยั่งยืน ที่มีรายได้พึ่งพาตนเองได้ จวบจนปัจจุบันอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้กลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยและประเทศไทยได้อย่างน่าภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

กรมหม่อนไหมในฐานะหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีภารกิจในการดำเนินการสนองงานสืบสานอนุรักษ์อาชีพด้านหม่อนไหม ควบคู่ไปกับการพัฒนาและส่งเสริมให้เกษตรกรหม่อนไหมให้สามารถประกอบอาชีพหม่อนไหมได้อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่ผ่านมาจึงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพของบุตรหลานของเกษตรกรให้เป็นผู้สืบทอดอาชีพด้านหม่อนไหมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาหม่อนไหมที่เป็นวัฒนธรรมเก่าแก่และดีงามของไทยให้เยาวชนรุ่นหลังได้สืบทอดให้คงอยู่คู่ประเทศไทย โดยดำเนินการตามภารกิจต่างๆ ผ่านศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้ง 21 ศูนย์ ซึ่งตั้งอยู่ครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ

Advertisement

เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2561 กรมหม่อนไหมขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญในการประกอบอาชีพด้านหม่อนไหมของเกษตรกร และเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกรมหม่อนไหมให้เป็นที่ประจักษ์มากยิ่งขึ้น กรมหม่อนไหม จึงได้จัดทำโครงการสืบสานงานพระมารดาแห่งไหมไทยขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยได้จัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ และจำหน่ายสินค้าหม่อนไหมและผลิตภัณฑ์ ภายใต้ธีม “ซื้อผ้าไหมให้แม่”

“อย่างไรก็ตามในโอกาสนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีในเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นเดือนมหามงคลที่ลูกๆ จะเลือกซื้อสินค้าผ้าไหม และผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมให้กับแม่ โดยการซื้อผ้าไหมนี้ นอกจากจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมีกำลังใจในการผลิตและสร้างสรรค์ผ้าไหมที่สวยงามออกสู่ตลาดต่อไปแล้ว และยังเป็นการสืบสานงานของพระมารดาแห่งไหมไทยให้อยู่คู่กับสังคมไทยจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพด้านหม่อนไหมให้เป็นอาชีพที่มั่นคงและสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าผ้าไหมกันได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ซึ่งงานจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 ก.ค. – 4 ส.ค.61 ณ อิมแพค เมืองทองธานี. และหลังจากจบงานดังกล่าว ประชาชนทั่วไปสามารถเลือกหาซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าไหมได้โดยตรงจากกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ หรือพื้นที่สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 1–6 และศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้ง 21 ศูนย์ ตลอดเดือนสิงหาคมนี้”  อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าว

นายไพโรจน์  เฮงแสงชัย รองอธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 กรมหม่อนไหมได้จัดให้มีโครงการสืบสานงานพระมารดาแห่งไหมไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติและถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ผู้ซึ่งได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “พระมารดาแห่งไหมไทย” สืบเนื่องจากที่พระองค์ทรงส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นอาชีพสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านหม่อนไหมให้กับผู้สนใจนำไปประกอบอาชีพ โดยเฉพาะกิจกรรมการซื้อผ้าไหมให้แม่ ซึ่งจะมีการจัดแสดงและออกร้านค้า  ผ้าไหมไทยในราคาพิเศษ ซึ่งจะมีสินค้าผ้าไหมมากมายหลายรูปแบบตามเอกลักษณ์ท้องถิ่น เช่น ผ้าซิ่นตีนแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ผ้าไหมสาเกตนคร จังหวัดร้อยเอ็ด ผ้าไหมมัดหมี่ชนบท จังหวัดขอนแก่น ผ้าไหมหางกระรอก จังหวัดนครราชสีมา ผ้าไหมกาบบัว จังหวัดอุบลราชธานี ผ้าไหมแพรวา จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นต้น โดยกรมหม่อนไหมได้ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 6 เขต และ 21 ศูนย์ทั่วประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image