TCEBเปิดแบรนด์ใหม่ ‘Thailand : Redefine’ ปี’62
รับ 6 เทรนด์โลกชูEEC-CLMVดันไทยขึ้นนำฮับไมซ์

TCEB ลุยเปิดแบรนด์ใหม่ “Thailand : Redefine your Business Events” ชิงใช้โอกาสเป็นเจ้าภาพจัด IT & CMA-CTW Asia Pacific ประกาศให้โลกรู้ถึงการนำอุตสาหกรรมไมซ์ไทยโตเคียงข้าง 6 เทรนด์โลก พร้อมขึ้นผู้นำฮับการค้า-การลงทุน เอเชีย ด้วยแรงขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติเมกะโปรเจ็กต์ ระเบียงเศรษฐกิจ EEC-ไทยแลนด์ ริเวียร่า-เกตเวย์ CLMV

นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” เปิดเผยว่า ในแผนธุรกิจไมซ์ปี 2562 วางกลยุทธ์เปิดตัวแบรนด์ใหม่ Thailand : Redefine your Business Events เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จทั้งการปฏิรูปองค์กร แนวคิด การทำงานร่วมกันกับภายในและภายนอกองค์กรทั้งระดับประเทศและทั่วโลก โดยสื่อสารผ่านกลยุทธ์ แคมเปญ การตลาด อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ไทยมีขีดความสามารถทางการแข่งขันติด 1 ใน 5 ผู้นำไมซ์เอเชีย ซึ่งขณะนี้ไทยครองแชมป์ตลาดคอนเวนชั่นและเอ็กซิบิชั่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปี 2562 จะต้องเร่งขึ้นอันดับต้น ๆ ในเอเชีย โดยจะเพิ่มความเข้มข้นเรื่องคุณภาพ และการประมวลตัวเลขผลตอบแทนการลงทุน (Return of investment : ROI) เพื่อลงลึกถึงการเพิ่มยอดกลุ่มนักลงทุนชัดเจน สอดคล้องกับนโยบายของขยายพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) และพื้นที่เลียบทะเลอ่าวไทย ไทยแลนด์ ริเวียร่า จากเพชรบุรี-ชุมพร-ระนอง โดยจะมีเมกะโปรเจ็กต์ไร้พรมแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีน One Belt One Road ระบบโลจิสติกส์ บก-น้ำ-อากาศ เข้ามาเสริมทัพ รวมทั้งการเป็นเกตเวย์ของกลุ่มประเทศดาวรุ่งใหม่ CLMV

การพัฒนาทั้งภายในประเทศของไทยกับจากการเชื่อมโยงของด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งจะขยายผลมายังการดึงดูดเม็ดเงินลงทุน ในแถบ EEC ของ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมดาวรุ่งหรือ S-CURV เติบโตตามขึ้นมาอีกมากมาย เป็นโอกาสและจังหวะของ สสปน./TCEB ที่จะขยายธุรกิจเพิ่มรายได้กระจายสู่จังหวัดต่าง ๆ ลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายรัฐบาล

Advertisement

นางนิชาภา กล่าวว่า ปี 2562 จะต้องนำไมซ์ของประเทศไทยก้าวไปพร้อม ๆ กับ 6 เทรนด์โลก ได้แก่ 1.แนวโน้มตลาดผู้สูงวัยจะเพิ่มขึ้นเป็นตลาดขนาดใหญ่จึงต้องสร้างสรรค์งานให้โดนใจตลาดดังกล่าว 2.วิกฤตของสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงมีความเสี่ยงในการเดินทางประชุม สัมมนา จัดงาน จึงต้องให้ผู้เกี่ยวข้องกับการจัดงานเสนอถึงมาตรการความปลอดภัย 3.การขยายตัวของเทคโนโลยีดิจิตอลเติบโตแบบไร้พรมแดน สสปน.จึงต้องร่วมือกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และ กระทรวงดิจิตอล สร้างสร้างศักยภาพให้ผู้ประกอบการธุรกิจไทย ให้เข้าสู่โลกยุคไซเบอร์ได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งมีทั้ง เทคโนโลยี ดิจิตอล และอินโนเวชั่น

4.สถานการณ์ก่อการร้าย ที่กำลังเกิดขึ้น ก็เป็นอีกเทรนด์ที่ไมซ์จะต้องวางมาตรการร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องและสถานที่จัดงานเพื่อป้องกันทางด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล 5.พลังการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือโลจิสติกส์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผนวกับเป็นเกตเวย์ของกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ซึ่งพร้อมจะเติบโตเป็นดาวรุ่งของเอเชีย 6.กระแสความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งเป็นจังหวะและโอกาสอันดีที่ไทยและผู้ประกอบการไมซ์วางรากฐานสร้างความยั่งยืนมาตั้งแต่แรก จึงทำให้นานาประเทศหันมาสนใจเลือกไทยเป็นศูนย์กลางการจัดไมซ์ระดับนานาชาติ

Advertisement

ขณะนี้ตลาดไมซ์ต่างประเทศ กลุ่มประชุมและอินเซ็นทีฟ (Meeting -Incentive :MI) ปีนี้ TCEB ทำให้ไทยมีส่วนแบ่งตลาดภูมิภาคเอเชียเติบโตปีละกว่า 5.6 % โดยอินเซ็นทีฟจากจีนมาไทยเติบโตทั้งรายได้และจำนวนคนมากกว่า 50% โดยมีอินเดียกับอินโดนีเซียตามมาติด ๆ  ส่วนตลาดคอนเว็นชั่น เร่งจับมือกับไทยทีม สมาคม และซัพพลายเออร์ ชิงประมูลงานเข้ามาจัดในไทยเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเทรนด์ offshore Convention ใหม่ ๆ เกิดขึ้นที่น่าสนใจขณะที่ตลาดเอ็กซิบิชั่นจะพุ่งเป้าเจาะงานเมกะอีเวนต์ซึ่งมีแนวโน้มสดใสเช่นกัน

ทางด้านตลาดไมซ์ในประเทศ ได้ใช้แคมเปญ “ไมซ์เพื่อชุมชน” โดย TCEB ทำร่วมกับสหกรณ์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นแนวรุกขยายพื้นที่กระจายรายได้สู่ชุมชนลดความเหลื่อมล้ำ ปี 2562 จะมีอินเซ็นทีฟหรือสิทธิประโยชน์ให้กับกลุ่มจัดการในหลากหลายรูปแบบและต่อเนื่องตลอดทั้งปี

อีกทั้งยังได้จัดตั้ง MTEX : M Power Thailand Exibition ขึ้นโดยจับมือกับ 11 องค์กร ประกอบด้วย 6 กระทรวง 5 องค์กรเอกชน ยกระดับงานไมซ์จาก การจัดระดับภาคขึ้นเป็นระดับประเทศและระดับโลกและยังได้ยกระดับความร่วมมือไทยกลุ่มลุ่มน้ำโขงและ CLMV ในเรื่องโลจิสติกส์แบบครบวงจรเพื่อทำให้เป็นฮับไมซ์และผู้นำเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้นี้

นางนิชาภากล่าวว่า ระหว่าง 18-20 กันยายน 2561 ได้ใช้โอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Incentive Travel & Conventions, Meeting Asia (IT& CMA) ครั้งที่ 26 และงาน Corporate Travel World Asia-Pacific (CTW Asia Pacific) ครั้งที่ 21  ซึ่งไทยได้สิทธิ์จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 เปิดตัวแบรนด์ใหม่ Thailand : Redefine your Business Events โดยได้ก่อสร้างบูธไทยในพื้นที่ 600 ตารางเมตร เพิ่มสีสันโดยเรื่องนวัตกรรมทางเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของ สปปน./TCEB เพื่อสื่อสารไมซ์ของไทยในเวทีโลกในปีต่อ ๆ ไป

สำหรับงาน Incentive Travel & Conventions, Meeting Asia (IT& CMA) ครั้งที่ 26 และงาน Corporate Travel World Asia-Pacific (CTW Asia Pacific) ไทยยังคงได้สิทธิ์จัดต่อเนื่องอีก 2 ปีหน้า จนถึง ปี 2563  สำหรับปีนี้จัด ณ บางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล เวิลด์ ซึ่งมีตัวแทนเข้าร่วมงาน แยกเป็นกลุ่มผู้ซื้อจากทั่วโลก 52 ประเทศ 2,464 คน เพื่อพบปะเจรจากับตัวแทนกลุ่มผู้ขายจากไทย 69 ราย

เรื่องและภาพโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ -gurutourza

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image