ผู้นำททท.ชู3บิ๊กโปรเจ็กต์ดันรายได้พุ่งปี’62
เพิ่มจุดขาย55เมืองรองต่อยอด5More Local

ตลอดปี 2561 ประเทศไทยได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลกมากมาย อีกทั้งยังเป็นเสาหลักเศรษฐกิจสร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น 55 เมืองรอง 22 เมืองหลัก เป็นไปตามเป้าหมาย 3 ล้านล้านบาท

ในปีงบประมาณ 2562 “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) เตรียมเดินหน้าเพิ่มรายได้ตามเป้า 3.41 ล้านล้านบาท ภายใต้โครงการเด่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก เริ่มต้นตั้งแต่ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป กับภารกิจเชิงรุก 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ “ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน-EAT THAI VISIT THAI-VISIT ASEAN RESPONSIBILITY TOURISM 2019 ด้วยพลังขับเคลื่อนแรง ๆ จาก 55 เมืองรอง และ More Local ทั่วไทย 5 ภูมิภาค

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมพร้อมผลักดันรายได้ท่องเที่ยวเพิ่มตลอดปี 2562 ที่ตั้งเป้าทำรายได้ 3.41 ล้านล้านบาท โดยจะเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุกแรง  ภายใต้โครงการไฮไลต์ “ตลาดในประเทศ” คนไทยเตรียมพบกับ “ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน” ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2561 จะใช้สานพลังร่วมกันทั้ง 4 รัฐวิสาหกิจ ทั้ง ททท. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย

Advertisement

ททท.จะผนึกทีมกับ 3 รัฐวิสาหกิจ ทำแคมเปญอย่างยิ่งใหญ่กระตุ้นการท่องเที่ยวโค้งสุดท้ายปีนี้ให้คึกคักมากที่สุด โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นพรี-เซ็นเตอร์ นำเที่ยวเส้นทางตัวอย่างเมืองท่องเที่ยวรอง เพื่อปลุกกระแสชวนคนไทยหันมาเลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเป็นอันดับแรกก่อนตัดสินใจไปเที่ยวต่างประเทศ

ผนวกกับการรณรงค์ให้คนไทยออกมาเดินทางท่องเที่ยวใช้สิทธิประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลเรื่องการนำค่าใช้จ่ายคนละ 15,000 บาท ตลอดการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ช่วง 3 เดือนสุดท้าย ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม นี้ ไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาปี 2561

Advertisement

ส่วน “ตลาดต่างประเทศ” ททท.จะจัดให้ทั่วโลกได้พบกับโครงการ EAT THAI VISIT THAI –กินอาหารไทย เที่ยวเมืองไทย” ล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการดังกล่าว ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พร้อมทั้งมอบนโยบายให้ ททท.ดำเนินการระหว่างสิงหาคม 2561-กันยายน 2562

“หลังจากได้รับนโยบายจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ให้โปรโมตอาหารไทยโดยไม่ต้องรอมิชลินสตาร์ แต่ให้ลงมือทำเอง ดังนั้นจึงเตรียมทำโครงการสำรวจร้านอาหารทั่วประเทศ เพื่อประกาศเป็น ร้านอาหารเด็ด 7 ดาว ตามมาตรฐานของไทยในปี 2562”

“เพราะอาหารไทยสามารถสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแต่ละปีมีมูลค่าประมาณ 1 ใน 4 ตัวอย่างปีที่ผ่านมาทำได้กว่า 850,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในโครงการ EAT THAI VISIT THAI ที่เปิดตัวในลอนดอน ได้นำร่องจับมือกับ 7 ภัตตาคารดังในสหกราชอาณาจักร มีทั้งกลุ่ม ไมเนอร์กรุ๊ป ไทยสแควร์ ไทยเลเชอร์กรุ๊ป บุษบากรุ๊ป โรซ่ากรุ๊ป Kho Thai และ Giggling Group” ดร.ยุทธศักดิ์กล่าว

โครงการ  EAT THAI VISIT THAI ในสหราชอาณาจักร จะช่วยขยายฐานเพิ่มนักท่องเที่ยวตลาดยุโรปกลุ่มเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยครั้งแรก (first visit) เพิ่มขึ้นได้อีกไม่ต่ำกว่าปีละ 5 %

ผู้ว่าการ ททท.กล่าวว่า ยังมีอีกภารกิจสำคัญในปี 2562 ตามที่ประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็น “ประธานอาเซียน” ททท.พร้อมจะรวมพลังด้านท่องเที่ยวกับสมาชิกอาเซียน โดย ททท.จะเสนอในการประชุมผู้ว่าการองค์การท่องเที่ยวเวที ASEAN TOURISM FORUM 2019 :ATF 2019 เดือนมกราคม 2562 ณ เมืองดานัง สาธารณรัฐเวียดนาม เชิญชวนให้ทุกประเทศหันมาร่วมมือกันทำแคมเปญ “การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ” หรือ “VISIT ASEAN Responsibility Tourismซึ่งจะสร้างการท่องเที่ยวยั่งยืนได้อย่างแท้จริงในระยะยาว

 

เนื่องจากอาเซียนมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังเมืองไทยปี 2561 ใกล้เคียงกับจีนคือประมาณ 9.8 ล้านคน ดังนั้นจึงใช้โอกาสที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน ทำเป็นปีท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ สอดคล้องกับเทรนด์ทั่วโลกให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันหันมาดูแลใส่ใจรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ดร.ยุทธ์ศักดิ์ ย้ำว่า ตลอดปีงบประมาณ 2562 จะเน้นพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยวโดยมุ่งเพิ่มการเติบโตใน 55 เมืองรอง โดยจะขยายกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกด้วยโครงการ MORE LOCAL  กระตุ้นทั้ง 5 ภูมิภาค ธีมเบื้องต้นจะต้องหารือกันต่อไปภายใน ททท. ประกอบด้วย ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน  ภาคตะวันออก เร่งต่อยอดการท่องเที่ยวตามรอยเมืองรอง ผนวกจุดแข็งและจุดขายเรื่องอาหารถิ่นของ แต่ละภาค แต่ละเมือง แต่ละชุมชน ร้อยเรียงเป็นเรื่องเล่า สร้างความรู้ ความเข้าใจ และดึงดูดความสนใจ ให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติโดนใจเดินทางเข้ามาค้นหาประสบการณ์แปลกใหม่ในแต่ละมุมของแคมเปญ “AMAZING THAILAND OPEN TO THE NEW SHADES”

ส่วนโครงการ More Local ในทั้ง 5 ภูมิภาค จะต้องทำเป็นธีมขายเบื้องต้นกำลังหารือกันอยู่ตั้งแต่ละชื่อตามคอนเซ็ปต์ดังนี้

ภาคใต้- More Inspire ปลุกการท่องเที่ยวด้วยนวัตกรรมและความสร้างสรรค์ที่มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

ภาคเหนือ – More Authentic ปลุกการท่องเที่ยวด้วยเรื่องราวศิลปวัฒนธรรมที่บอกเล่าวิถีชีวิต อันเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ ท่ามกลางภูมิประเทศที่สวยงาม

ภาคกลาง – More Legacy ปลุกการท่องเที่ยวด้วยศิลปกรรม การหลอมรวมวัฒนธรรมนานาชาติและวิถีชาวน้ำที่สืบทอดเป็นมรดกแห่งสยาม

ภาคอีสาน – More Gastronomy ปลุกการท่องเที่ยวด้วยอาหารที่บอกเล่าเรื่องราววิถีคนอีสาน ความชาญฉลาดของคนที่มีต้นทุนจากความกันดาร

ภาคตะวันออก – More Fun ปลุกการท่องเที่ยวด้วยการเปลี่ยนกิจกรรมวันธรรมดาให้เป็นเรื่องแสนสนุกที่จะเติมสีสันให้ชีวิต

โดยแต่ละภาคจะถูกนำอัตลักษณ์มาทำใหม่ และส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล สร้างรายได้กระจายลงไปยังชุมชนฐานราก มุ่งปลุกกระแสคนไทยเที่ยวในประเทศ ด้วยการร้อยเรื่องราวที่มีอยู่มากมายมานำเสนอ ควบคู่กับการพยายามเปลี่ยน “วันธรรมดา” ให้เป็นวันสุข ทุกที่ ทุกเวลา

ททท.พร้อมทำหน้าที่รัฐวิสาหกิจแถวหน้าของประเทศนำความสำเร็จทางการท่องเที่ยว ทำให้คนไทยทั้งประเทศอยู่อย่างมั่งคั่ง ยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำโดยมีรายได้ท่องเที่ยวเข้าไปหล่อเลี้ยง ชุมชน เมืองรองอย่างเต็มศักยภาพต่อไป

เรื่องโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ -gurutourza

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image