สสว. เสริมเกราะ สร้างแกร่ง SME ในยุคดิจิทัล หนุนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว เข้าถึงตลาดออนไลน์

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ผนึกกำลังพหุภาคี 4 ฝ่าย กับ สภาที่ปรึกษาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “กลยุทธ์การก้าวสู่ยุคดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการ SME อาเซียนในอุตสาหกรรมเดินทางและท่องเที่ยว” สนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างเว็บไซด์ดึงดูดลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆได้ด้วยตนเอง และเข้าสู่ e-commerce ได้มากขึ้นอย่างเป็นระบบ

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยว่า ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจหนึ่ง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย มีผู้ประกอบการ SME ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก และจะสามารถเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง หากผู้ประกอบการก้าวทันโลกดิจิทัล นำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ประกอบการจึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเนื้อหาและช่องทางการตลาดให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

“สำหรับประเทศไทย ในปีที่ผ่านเรามี SME ประมาณ 3 ล้านราย มีการจ้างงานมากกว่า 12.2 ล้านคน มีรายได้เป็นสัดส่วน 12.4% ของ GDP ของประเทศ โดยเรามีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วน GDP ของ SME ให้ถึงร้อยละ 50 ในปี 2021 นั่นหมายความว่าประเทศไทยจะเดินหน้ายกระดับ SME ให้มีนวัตกรรม โดยสาขาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเป็นสาขาหนึ่งที่เรามุ่งมุ่นในการพัฒนาและส่งเสริม เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้”

Advertisement

สสว.จึงจัดการสัมมนาครั้งนี้ขึ้นโดยเชิญผู้ประกอบการ SME ไทย หน่วยงายภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้แทนจากสภาที่ปรึกษาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ABC) รวมกว่า 200 รายเข้าร่วม เพื่อเข้าใจถึงสถานการณ์ โอกาส ความท้าทาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ไทย สร้างเครือข่ายกับบริษัทชั้นนำทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

นายสาธิต อดิเรก ตัวแทนจากบริษัท CISCO บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกาที่มีลูกค้าอยู่ทั่วโลก หนึ่งในวิทยากรที่ให้เกียรติร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “โอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวไทยในการก้าวสู่ยุคดิจิทัล” โดยมีใจความสำคัญว่า สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง ทำให้สมาร์ทโฟนกลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของสังคม ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรนำการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อตอบโจทย์การตลาดของธุรกิจ ด้วยการนำข้อมูลการเข้าใช้ระบบอินเทอร์เน็ต wifi จาก Access Point ในพื้นที่มาวิเคราะห์ ว่า ลูกค้าอยู่ที่ไหน ลูกค้าทำอะไร ลูกค้าอยู่นานไหม และมีการกลับมาบ่อยหรือไม่ รวมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน อาทิ อายุ เพศ การศึกษา รายได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ยกตัวอย่างโครงการ Phuket Smart City ซึ่งมีการปล่อย Wifi ให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงทำการ Sign in ครั้งแรก ผ่านโซเซียลมีเดีย เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล ก็จะสามารถใช้ Wifi ได้ทั่วเมือง ทำให้สามารถนำข้อมูลของนักท่องเที่ยวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้

อีกส่วนที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจท่องเที่ยว คือ ระบบการจ่ายเงินของผู้บริโภคที่นำดิจิทัลมามีส่วนร่วม กรกช กาญจนไพโรจน์ ตัวแทนจากบริษัท Paypal กล่าวว่า ผู้ประกอบการจะต้องตระหนักถึง 3 ส่วน คือ Reserch โดยต้องนำธุรกิจของเราไปอยู่ในทุกที่ที่ลูกค้าทำการค้นหา รูปภาพต้องสวยงาม และมีรายละเอียดครบถ้วน, Booking ต้องมีช่องทางการชำระสินค้าและบรการที่หลากหลาย และเหมาะสม โดยผู้ประกอบการต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละองค์ประกอบ เพื่อการตอบแทนที่คุ้มค่า และ Pre-trip & Post trip ต้องหากลยุทธ์ในการดึงลูกค้าเข้ามาหาผู้ประกอบการโดยตรง โดยไม่ผ่านเอเจนซี่รวมทั้ง สร้างความประทับใจ ให้ผู้บริโภคมีการบอกต่อ หรือกลับมาใช้บริการซ้ำอีก

Advertisement

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงเข้าสูยุคดิจิทัล จะสามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถแข่งขันในเวทีสากลได้ หากผู้ประกอบการเรียนรู้ และปรับตัวให้ก้าวทันกับเทคโนโลยีอย่างตรงจุด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image