ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ดฯ จับมือพันธมิตร เพิ่มสิทธิประโยชน์ ชูแอดเวนเจอร์โปรแกรม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มครอบครัวไฮเอ็นด์

บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้ดำเนินงานโครงการบัตรเอกสิทธิ์พิเศษ “ไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด” เดินหน้าขยายฐานสมาชิกกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพระดับสูง และสมาชิกกลุ่มครอบครัว จับมือพันธมิตร ขยายสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกกลุ่มครอบครัวไฮเอ็นด์ สำหรับผู้ถือบัตร อีลิท อูทิเมท พริวิเลจ (Elite Ultimate Privilege)” และ “อีลิท แฟมิลี่ พรีเมี่ยม (Elite Family Premium)” ด้วยโปรแกรม Adventure Thailand ประเดิมกับกิจกรรมเดย์ไลฟ์ ขี่ม้า พัฒนาบุคลิกภาพ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมาชิกคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ร่วมกันในครอบครัวนอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ทางด้านวีซ่าที่อำนวยความสะดวกในการเข้าออก และการอยู่อาศัยในประเทศไทย และพริวิเลจทางด้านสิทธิประโยชน์ภาคธุรกิจและบริการต่างๆจากเครือพันธมิตรเดิม ทั้ง บริการรถรับส่งสนามบิน สิทธิประโยชน์ด้านสันทนาการ (Relaxation) ด้านกีฬา และด้านสุขภาพ เป็นต้น

นางสาวรัชดาวรรณ เลิศศิลาทอง รองผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารและกิจการองค์กร และรักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้บริหารจัดการโครงการบัตรเอกสิทธิ์พิเศษ “ไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด” เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทฯได้เพิ่มประเภทบัตรไทยแลนด์ อีลิทคาร์ด ให้มีความหลากหลายทั้งด้านราคาและสิทธิประโยชน์ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีบัตรทั้งหมด 7 ประเภท มีราคาตั้งแต่ 5 แสนบาท – 2 ล้านบาท ช่วยให้บริษัทฯสามารถขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่รักเมืองไทย ต้องการอยู่อาศัยและลงทุนในประเทศไทย  รวมถึงลูกค้ากลุ่มที่มาเป็นครอบครัว ซึ่งพบว่า ลูกค้ากลุ่มครอบครัวมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นมากในระยะหลัง  ดังนั้น บริษัทฯจึงได้เพิ่มพริวิเลจด้านสิทธิประโยชน์ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น โดยพบว่าเป็นกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่มีความชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์

Advertisement

ล่าสุดบริษัทฯจึงได้ร่วมกับพันธมิตรในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางด้านโปรแกรม Adventure สำหรับผู้ถือบัตรประเภท“อีลิท อูทิเมท พริวิเลจ (Elite Ultimate Privilege)” และ “อีลิท แฟมิลี่ พรีเมี่ยม (Elite Family Premium)” ซึ่งเป็นแพคเกจที่พ่วงกันสำหรับบุคคลในครอบครัว โดยจะได้รับทางเลือกด้านสิทธิประโยชน์มากขึ้นด้วยโปรแกรม Adventure Thailand กับคอร์สเรียนขี่ม้าจากโรงเรียนสอนขี่ม้ามาตรฐานสากลในเครือพันธมิตร  นอกเหนือจากพริวิเลจต่างๆ ทางด้านอาหาร สันทนาการ (Relaxation)  และด้านสุขภาพ เช่น การสอนทำอาหารไทย การสอนกอล์ฟ  และบริการตรวจสุขภาพ เป็นต้น

ทั้งนี้ สมาชิกผู้ถือบัตรทั้งสองประเภทสามารถติดต่อขอรับสิทธิประโยชน์ด้าน Adventure โปรแกรมนี้ได้จากเครือพันธมิตร ได้แก่  Golden Horse Riding Club และ Horseshoes Point เป็นต้น โดยคุณอัญนา ผู้จัดการ Golden Horse Riding Club หนึ่งในเครือพันธมิตร เปิดเผยว่า Golden Horse Riding Club ตั้งอยู่ที่ถนนกรุงเทพกรีฑา เป็นโรงเรียนสอนขี่ม้ามาตรฐานสากล ให้บริการทั้งการสอนขี่ม้า และคาเฟ่ม้า สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ  3 ขวบ ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่สนใจในเรื่องม้า  ที่สอนตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ไปจนถึงนักกีฬาระดับทีมชาติ  ซึ่งการเรียนขี่ม้ามีให้เลือกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเรียนเพื่อไปแข่งขัน เรียนแบบคาวบอย หรือเรียนเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพ ผู้ที่จะมาเรียนขี่ม้าที่นี่จะได้รับบทเรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล โดยมีครูสอนที่ผ่านการฝึกอบรม มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์จากการแข่งและการสอนสูง

“นอกจากเรียนขี่ม้า จะ ฝึกวิธีการสื่อสารกับม้าแล้ว ยังได้ ฝึกสมาธิ และออกกำลังกายไปในตัวด้วย ซึ่งผลพลอยได้จากการเรียนขี่ม้าก็คือได้พัฒนาบุคลิกภาพ ที่มาพร้อมกับสรีระที่สวยงาม นอกจากนี้ทางโรงเรียนเรายังจัดกิจกรรมนอกสถานที่ตามป่าหรือสถานที่ต่างๆ ที่ทางโรงเรียนได้ทำการสำรวจเส้นทางเพื่อความปลอดภัยไว้ด้วย เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นและความสนุกสนานให้กับผู้เรียน จึงอยากเชิญชวนให้สมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด มาเรียนขี่ม้ากับ Golden Horse Riding Club กันเยอะๆนะคะ โดยผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ทางwww.goldenhorseridingclub.com” คุณอัญนา กล่าว

ปัจจุบันยอดสมาชิกของไทยแลนด์ อีลิทคาร์ดฯ นับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2546 จนถึง 12 ตุลาคม 2561 มียอดสมาชิกรวมทั้งสิ้น 6,592 คน มีบัตรทั้งสิ้น 7  ประเภท มีความหลากหลายทั้งด้านราคาและสิทธิประโยชน์ โดยมีราคาตั้งแต่ 5 แสน – 2 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่

1.) บัตร “อีลิท อูทิเมท พริวิเลจ (Elite Ultimate privilege)” หรือแพคเกจหลัก ราคา 2 ล้านบาท อายุบัตร 20 ปี มาพร้อมสิทธิประโยชน์แบบเต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยในระยะยาว 2.) บัตร “อีลิท แฟมิลี่ พรีเมี่ยม (Elite Family Premium)” จะเป็นแพคเกจที่พ่วงกับ “อีลิท อูทิเมท พริวิเลจ” สำหรับบุคคลในครอบครัว ในราคา 1 ล้านบาท โดยอายุบัตรขึ้นอยู่กับบัตรหลัก 3.) บัตร “อีลิท อีซี่ แอสเซส ( Elite Easy Access)” ราคา 5 แสนบาท อายุบัตร 5 ปี สำหรับการเข้าออกในประเทศไทยระยะสั้น สำหรับท่านที่เดินทางคนเดียว และสามารถอัพเกรดเป็นแพคเกจหลักได้ 4.) บัตร“อีลิท แฟมิลี เอ็กซ์เคอร์ชั่น (Elite Family Excursion)” ราคา 8 แสนบาท อายุบัตร 5 ปี เพื่อการเข้าออกในประเทศไทยระยะสั้น เหมาะกับกลุ่มครอบครัวโดยเฉพาะ ด้วยราคาพิเศษสำหรับ 2 ท่านเป็นต้นไป 5.) บัตร “อีลิท แฟมิลี่ อัลเทอร์เนทีฟ (Elite Family Alternative)” ราคา 8 แสนบาท อายุ 10 ปี เป็นบัตรที่เหมาะทั้งมาเดี่ยวและมาเป็นครอบครัว ในการพำนักระยะยาว เหมาะกับผู้อยู่อาศัยระยะยาว ไม่ว่าจะทำงาน หรือพักผ่อน 6.) บัตร “อีลิท พริวิเลจแอคเซส (Elite Privilege Access)” ราคา 1 ล้านบาท อายุบัตร 10 ปี อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการอาศัยในประเทศไทยในระยะยาว ไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือมาเป็นครอบครัว และมีการเดินทางเข้าออกบ่อยครั้ง และ 7.) บัตร “อีลิทซูพีเรียริตี้เอ็กซ์เทนชั่น (Elite Superiority Extension)” ราคา 1 ล้านบาท อายุบัตร 20 ปี สำหรับผู้ต้องการอาศัยในประเทศไทยระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลใจ เหมาะกับกลุ่มเกษียณอายุ หรือผู้ที่ต้องการพำนักในประเทศไทยในระยะยาว

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image