วิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ยิ่งใหญ่ในใจทั่วโลก
พลังคิงเพาเวอร์พลังธุรกิจน้ำดี13รัฐบาล

คนที่โลกต้องจดจำไปตลอดกาลกับชื่อ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ถึงวันนี้จะอำลาโลกไปแล้ว ทว่าภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็สามารถทำให้คนทั่วโลก ชาวเมืองเลสเตอร์และคนไทยอีกมากมาย สัมผัสได้ถึงพลังของบุรุษผู้นี้-พลัง คิง เพาเวอร-พลังคนไทย ที่สร้างปรากฎการณ์จริงเรื่อง “ความจริงใจและความดีที่ไม่มีวันตาย” จะคงอยู่ในใจทุกคนตราบนิรันดร์

“วิชัย ศรีวัฒนประภา” ถูกขนานนามจากพนักงานนับแสนชีวิตนับหมื่นครอบครัวทั้งในประเทศและชาวเมืองเลสเตอร์ว่าเป็น THE POSSIBLE MAN VS-ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ในฐานะของ “ผู้สร้าง” ทั้งทางด้านศักดิ์ศรีให้กับตระกูล “ศรีวัฒนประภา” สร้างความรักเมตตาสู่สากล สร้างชัยชนะ สร้างบุญาบารมีทางธรรม สร้างปูชนียสถาน สร้างจนเป็นมหาเศรษฐีด้วยใจอันยิ่งใหญ่ดั่งมหาสมุทร กระทั่งวันนี้ทั่วโลกสนใจเฝ้าติดตามเส้นทางความเป็นมาของธุรกิจ 1.62 แสนล้านบาท ของการเป็น “ผู้ให้” ทั้งในทางโลกผ่านธุรกิจ และทางธรรมผ่านมูลนิธิคิง เพาเวอร์ ทำบุญ บริจาค ช่วยเหลือโรงเรียน โรงพยาล วัด และผู้ด้อยโอกาสมากมายจนเกินกล่าวได้ไม่หมด

THE POSSIBLE MAN VS ได้ใช้เวลาสร้างทุกอย่างจากพลังคนไทยยาวนาน 30 ปี ก่อนจากไปด้วยวัยเพียง 60 ปี โดยใช้ครึ่งหนึ่งของชีวิตบุกเบิกก่อสร้าง “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” ขึ้นด้วยความยากลำบาก ด้วยการใช้ “หัวใจ” ผนวกเข้ากับ “ความมุ่งมัน” และ “การคิดดี-คิดให้ผู้อื่น” จนกลายเป็นที่รักของคนรอบข้างทั้งในและต่างประเทศ มีเครือข่ายมหามิตรมากมาย ทำให้เป็นเกราะป้องกันสามารถนำธุรกิจฝ่าฟันทุกอุปสรรคได้ตลอด 13 รัฐบาล นับตั้งแต่รัฐบาล “พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 17 มาจนถึงปัจจุบัน “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีคนที่ 29

Advertisement

กระทั่งวันนี้ทุกคนพากันเรียกว่า “อาณาจักรคิง เพาเวอร์” ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจหลักคือ “ร้านค้าปลอดภาษีและอากร” หรือดิวตี้ฟรี ดำเนินกิจการครอบคลุมทุกประเภท ได้แก่ ดิวตี้ฟรีสาขาในเมือง 4 แห่ง คือ คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต ดิวตี้ฟรีในสนามบิน 5 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และดิวตี้ฟรีบนเครื่องบินอีก 2 แห่ง ได้แก่ การบินไทย และแอร์เอเชีย

ส่วนกีฬาก็เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ในประเทศอังกฤษ กับ Oud-Heverlee Leuven : OHL ประเทศเบลเยี่ยม และกีฬาขี่ม้าโปโลซึ่งเป็นความชื่นชอบส่วนตัว โดยได้ตั้งสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย จากนั้นเมื่อปี 2560 ได้ใช้เงินราว 500 ล้านบาท ซื้อสนามแฮมโปโล ใจกลางกรุงลอนดอน พัฒนาปรับปรุงแล้วแปลี่ยนชื่อเป็น คิง เพาเวอร์ บิลลิ่งแบร์ โปโล พาร์ค

Advertisement

เส้นทางความเป็นมาของ “อาณาจักรคิง เพาเวอร์” ได้รับความสนใจและถูกนำมาเสนอย้ำซ้ำๆ ในเชิงธุรกิจ เมื่อนิตยสาร Forb จัดชั้นปี 2561 ให้ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 5 ของเมืองไทย มีทรัพย์สินมูลค่ารวมมากถึง 1.62 แสนล้านบาท ก็ยิ่งทำให้คนไทยและสื่อแสดงความสนใจถึงที่มาของความร่ำรวยดังกล่าว โดยหยิบประเด็นง่ายสุดจุดกระแสให้สังคมเชื่อคือ “ธุรกิจสัมปทานดิวตี้ฟรี” ทำให้มีเงินมหาศาล

หากแต่ความเป็นจริงแล้ว “วิชัย” เจ้าของธุรกิจ “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” เริ่มต้นจากการเข้าร่วมทุนกิจการร้านขายของที่ระลึก ดี.เอฟ.เอส (ไทยแลนด์) จำกัด ในนาม JMT ครั้งแรกที่สนามบินดอนเมืองนั้น

จุดเริ่มยุคนั้นถ้าวิชัยคิดแค่หาประโยชน์ส่วนตัวเพียงอย่างเดียวแล้ว ในวันนั้นก็คงจะไม่สามารถก้าวข้าม “จุดเปลี่ยน” มาได้ถึง 13 รัฐบาล อย่างแน่นอน

เพราะทุกรัฐบาลล้วนแล้วแต่มีศักยภาพความสามารถต้องนำพาประเทศสู่ความเจริญ มิใช่มาเพียงเพื่อทำหน้าที่เอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจตามคำครหาทั้งหลายของสังคม จากนี้ไปคนไทยควรจะต้องได้เรียนรู้และเข้าใจกติกาบ้านเมือง และความเป็นจริงซึ่งมีมากกว่าเรื่องเล่าบางประเด็นที่ถูกบิดเบือนบอกให้ฟังต่อ ๆ กันมา

ตัวตนของ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” คือ “ผู้สร้างและผู้ให้” เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้ประกาศให้สังคมรับรู้ กระทั่งจนถึงวันต้องสูญเสียบุรุษชื่อนี้ไป ทั่วโลกและคนไทยจึงหันมาสนใจอีกครั้งว่าเขาคือใคร เหตุใดจึง “ยิ่งใหญ่” ได้ถึงขึ้นทำให้คนทั้งโลกหลั่งน้ำตาและต้องจดจำไปตลอดกาล

เสียงร่ำไห้ของผู้คนอันเป็นที่รักดังกึกก้องไปทั่วโลกนับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 มาจนถึงขณะนี้ อาจจะสวนทางกับสังคมไทยบางส่วนที่ต้องการรู้ลึกถึงอนาคต “อาณาจักร คิง เพาเวอร์” หากขาดหางเสือใหญ่อย่าง “วิชัย ศรีวัฒนประภา” แล้วจะเดินต่อไปได้อย่างไร

ในความเป็นจริงแล้ว “วิชัย ศรีวัฒประภา” บอกมาตลอดว่า คนทำดีย่อมได้ดีเสมอ ใน 13 รัฐบาล ตลอดห้วงเวลา 30 ปี มิได้มากมาย ถ้าหากได้ทำสิ่งดีปราศจากความเลวร้ายแล้วธุรกิจของทุกคนยังคงอยู่เป็นปกติได้เหมือนทุกวัน

เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญมากไปกว่าการให้และการใช้ใจคิดสร้างสรรค์วิธีคืนประโยชน์สู่สังคม ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว กีฬา และโลกแห่งธรรมะ เขาได้ทำครบทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำพิธีกรรมทางศาสนาพุทธไปเผยแพร่จนกลายเป็นภาพจำทุกวันนี้ที่แม้แต่คนในซีกโลกตะวันตกยังยอมรับเรื่องพระพุทธศาสนา ด้วยการกราบไหว้ สวดมนต์ นับถือพระพุทธรูป

“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” เปิดเผยว่าหลังจากวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 เมื่อต้องเผชิญเหตุการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตด้วยวัยเพียง 31 ปี ได้เรียนรู้ถึงทั่วโลกให้ความสำคัญของพ่อคือบุคคคลสำคัญอย่างแท้จริง ในฐานะทายาทต้องรับภารกิจดูแลทุกอย่างทั้งในประเทศ ต่างประเทศ สโมสรฟุตบอล ประการสำคัญสุดคือทีมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติซึ่งมีครอบครัวต้องเลี้ยง ดูแล ดำรงชีวิต ถึงแม้ตอนนี้จะถูกตั้งคำถามมากมายแต่ตอบได้ชัดเจนว่าทุกเรื่องพ่อสอนไว้ให้ทำทุกอย่างด้วยความถูกต้อง คิดดี ทำดี คือคัมภีร์นำพาทุกสิ่งสู่ความเจริญได้อย่างยั่งยืน

“ความจริงในประเทศไทยทุกวันนี้ต้องช่วยกันคนละไม้ละมืออธิบายความถูกต้องชัดเจน นั่นคือเมื่อเกิดความสูญเสียผู้นำองค์กรอย่างคิง เพาเวอร์ สิ่งที่ต้องทำต่อไปให้ได้คือ ต้องดำเนินชีวิตต่อไปอย่างเข้าใจ เข้าถึง และรับรู้ถึงความเป็นจริงชีวิตต้องดำเนินต่อไปให้ได้ด้วยการประกอบอาชีพ คนนับหมื่นครอบครัวนับแสนชีวิตรออยู่ และในฐานะทายาทธุรกิจกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้องเดินหน้าต่อในการทำกิจกรรมเพื่อให้พนักงานทุกระดับอยู่อย่างมีความสุข มีรายได้เลี้ยงครอบครัวตามปกติ พนักงานทั้งหมดทั้งในประเทศและเลสเตอร์ต้องอยู่รอดปลอดภัย ในระหว่างความสูญเสียคิง เพาเวอร์ก็ต้องเดินหน้าทำกิจกรรมทุกอย่างให้เป็นไปตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแคมเปญความร่วมมือกับ วอลท์ ดีสนีย์ ฉลอง 90 ปี มิคกี้เมาส์ ให้ครบ 88 วัน หรือการเปิดขายโซนต่าง ๆ ใน คิง เพาเวอร์ มหานคร”

ส่วนการเดินหน้าประมูลงานธุรกิจในประเทศไทย ซึ่ง “ตระกูลศรีวัฒนประภา” เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีและอากร (duty/tax free) นั้นไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเข้าสู่การยื่นประมูลดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานอู่ตะเภา พื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร หรือช่วงธันวาคม 2561 ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กลุ่มบริษัท  คิง เพาเวอร์ พร้อมจะลงสนามแข่งขันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยจะต่อสู้บนความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม

ประสบการณ์ของคิง เพาเวอร์ ตลอด 13 รัฐบาลที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วธุรกิจดิวตี้ฟรีได้มาด้วยการแข่งขันต่อสู้อย่าง “ถูกต้องเป็นธรรม” และการเสียชีวิตของ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ไม่ได้แปลว่า “คิง เพาเวอร์” จะสูญสิ้นมนต์ขลัง เพราะพลังคนไทย พลังคิง เพาเวอร์ จะอยู่ตลอดไปตราบนิรันดร์เฉกเช่นที่โลกยกย่องให้เป็น THE POSSIBLE MAN

                     เรื่องโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ -gurutourza

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image