TCEBใส่เกียร์ปี62ปั๊มรายได้ไมซ์รับEEC-CLMV
เปิดแผนโกย2.2แสนล้าน-ลุ้นพรฎ.ชิงงานEXPO

ผู้นำ TCEB ใส่เกียร์เดินหน้าอุตสาหกรมไมซ์ปี’62 เข้าเป้า 2.21 แสนล้านบาท เร่งต่อยอดความสำเร็จปี’61 เร่งขยาย Area Base เต็มรูปแบบ ใน “EEC-CLMV” ดึงงานกลุ่มอุตสาหกรรม S-CURVE อินเตอร์ กระจายจัดทั่วไทย ลุ้นรัฐบาลคลอด พรฎ.ปลดล็อกให้ TCEB เป็นเจ้าภาพ
ประมูลงานเอ็กซโปร์ เมกะอีเวนต์ได้ บริษัทวิจัยประเมิน 5 ปีหน้า ช่วงปี 2565 ไมซ์จะดูดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไทยทะลุ 4 แสนล้านบาท

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “TCEB” เปิดเผยว่า ในปี 2561 มีผลการดำเนินงานภาพรวมของอุตสาหกรรมไมซ์สร้างรายได้กระจายทั่วประเทศมูลค่ารวม 212,924 ล้านบาท จากจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งในและต่างประเทศสูงถึง 34,267,307 ราย

เป้าหมายปี 2562 ทั้งรายได้และจำนวนตลาดไมซ์ภาพรวมจะเร่งการเติบโตเฉลี่ย 5% ตามเป้ารายได้ตั้งไว้  221,500 ล้านบาท จำนวน 35.98 ล้านคน แบ่งเป็นจากตลาดต่างประเทศ  100,500 ล้านบาท จำนวน 1.32 ล้านคน ตลาดในประเทศ 1.21 แสนล้านบาท จำนวน 34.662 ล้านคน

Advertisement

ในอีก 5 ปีข้างหน้า ช่วงปี 2565 ทางบริษัท ฟรอท์ส แอนด์ ซัลลิวัน(ไทยแลนด์) จำกัด ทำผลวิจัยโดยระบุอุตสาหกรรมไมซ์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ TCEB จะสร้างรายได้ในระบบเศรษฐกิจของไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมได้มูลค่ารวมสูงถึง 3.16-4.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 เท่า โดยมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ธุรกิจไมซ์ 1.772 แสนล้านบาท คิดเป็น 1.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)  รวมทั้งจะจัดเก็บภาษีให้ประเทศได้กว่า 23,400 ล้านบาท จ้างงานสูงราว 1.81 แสนตำแหน่ง

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ปี 2562 จะเน้นการขยายฐานการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์เข้ายัง 2 พื้นที่ (Area Base) คือ 1.ระเบียบเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) ซึ่งทีเส็บจะส่งตัวแทนเข้าไปร่วมอยู่ในสถาบันเอเชียศึกษาในเซกชั่น EEC MICE Corridor 2.CLMV-กัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนมา-เวียดนาม เชื่อมต่อการขายไมซ์เป็นพื้นที่เดียวกันกับไทย ขณะนี้มีเมกะโปรเจ็กต์นำร่องในแถบนี้กับ EEC ในการเปิดตะเข็บไทยในฝั่งจังหวัดตราดกับสีหนุวิลล์ กัมพูชา นำตลาดไมซ์ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทนานาชาติโดยเฉพาะจีนที่เข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจสีหนุวิลล์ เดินทางด้วยเรือเข้ามายังภาคตะวันออกของไทย จากตราดสู่พัทยา และชลบุรี

อีกทั้งระหว่างนี้ยังได้นำเสนอรัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) ให้ TCEB สามารถเป็นหน่วยงานเจ้าภาพประมูลงานเมกะอีเวนต์และเอ็กซโปร์นานาชาติมาจัดในประเทศไทยได้ แตกต่างจากเดิมต้องรอให้ทาง
กระทรวงพนิชย์เป็นเจ้าภาพดำเนินการ

Advertisement

สำหรับปี 2562 TCEB จะสร้างการเติบโตตลาดไมซ์ด้วยการใช้ 3 กลยุทธ์เป็นหัวหอกสำคัญ คือ

กลยุทธ์ที่ 1 สร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจ โดยขยายฐานเพิ่มในตลาดหลักเอเชีย ยุโรป อเมริกา และตลาดรองใน โอเชเนีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชูโปรดักซ์หลักๆ S-CURVE กับ New S-CURVE ได้แก่ 10  อุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล ประกอบด้วย ยานยนต์สมัยใหม่  การบินและโลจิสติกส์ หุ่นยนต์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ การแพทย์ครบวงจร อิเล็คทรอนิกส์อัจฉริยะ ท่องเที่วเชิงสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ ดิจิทอล เน้นขยายผลการจัดประชุมแบบ One on One ซึ่งได้ผลมากกว่าทำโร้ดโชว์

กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาด้วยนวัตกรรม ต่อยอดจากการสร้างมาตรฐานการรับรอง Thailand MICE Venue Standard : TMVS จะเพิ่มมาตรฐาน ISO เข้าไปให้กับกลุ่มศูนย์ประชุมและผู้ประกอบการไมซ์ทั่วประเทศ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 เตรียมเปิด Intelligent MICE Center ทำเป็นศูนย์บริการอัจฉริยะด้านไมซ์แห่งแรกในอาเซียน รวบรวมนำงานวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับไมซ์มาให้ผู้ประกอบการอในอุตสาหกรรมได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ หลังจากเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เปิดตัวแอพลิเคชั่น Bridge Connect ไปเรียบร้อยแล้ว

กลยุทธ์ที่ 3 กระจายรายได้และความเจริญ โดยจะยกระดับการขายไมซ์เชื่อมโยงกับทางกลุ่มประเทศ CLMVและลุ่มน้ำโขง GMS ในปีงบประมาณ 2562 เริ่มจากตุลาคมปีนี้เป็นต้นมา กระจายงานไมซ์อินเตอร์ไปจัดตามพื้นที่ดังกล่าว เช่น งานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก 23-25 พฤศจิกายน 2562 จ.ร้อยเอ็ด งานแสดงสินค้าพลังงานแห่งอนาคต Future Energy Asia 2018 ระหว่าง 12-14 ธันวาคม 2561 และงานระดับโลกรายการใหญ่สุดอย่างงาน 86th UFI Global Congress 2019 ระหว่าง 6-8 พฤศจิกายน 2562

ทั้งนี้ ในปี 2561 TCEB ได้สรุปผลการดำเนินงานการพัฒนาตลาดไมซ์ต่างประเทศเข้าเมืองไทย สามารถทำรายได้สูงถึง 95,623 ล้านบาท เติบโต 119.85% มาจากจำนวนการดึงงานทั่วโลกเข้ามาจัดกว่า 400 งาน ในจำนวนนี้เกินกว่า 50% หรือ กว่า 217 งาน เป็นงานไมซ์ของกลุ่มอุตสาหกรรมดาวรุ่งหรือ S-CURVE กับ New S-CURVE ที่รัฐบาลตั้งเป้าขับเคลื่อนผลักดันประเทศเข้าสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการนำกลุ่มไมซ์ต่างประเทศเข้ามาได้ตลอดทั้งปี 1,255,985 ราย เติบโต 8.10 %โดยมีระยะพำนักเฉลี่ย 5 วัน ใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 76,135 บาท/คน/ทริป

ประกอบด้วย กลุ่มหลักคือนักธุรกิจชาวเอเชีย 85.77% โดยมี 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน 214,877 ราย อินเดีย 152,638 ราย มาเลเซีย 146,387 ราย สิงคโปร์ 84,211 ราย และเกาหลี 71,141 ราย เวียดนาม 55,306 ราย สปป.ลาว 55,125 ราย ญี่ปุ่น 51,361 ราย อินโดนีเซีย 51,320 ราย และฟิลิปปินส์ 42,398 ราย

อีกทั้งยังมี 5 ประเทศดาวรุ่งเติบโตสูงสุด ได้แก่ แคนาดา เพิ่ม 309.97% กัมพูชา 182.25% เมียนมา 137.32% เวียดนาม 109.26% และนิวซีแลนด์ 78.92% ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่ม CLMV กำลังเกิดการขยายตัวและมีการเดินทางด้านธุรกิจระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

โดยมีโครงสร้างส่วนแบ่งรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ปีงบประมาณ 2561 จากตลาดไมซ์ต่างประเทศสร้างมูลค่ารายได้รวมทั้งสิ้น 95,623 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 1,255,985 คน มาจาก

1.กลุ่มผู้จัดประชุม -Meeting : M ทำรายได้ 30,473 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 335,000 คน

2.กลุ่มได้รับรางวัลเดินทางฟรี – Incentive : I ทำรายได้ 20,669 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 369,370 คน

3.กลุ่มการประชุมนานาชาติ -Convention : C ทำรายได้ 19,156 ล้นบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 25,396 คน

4.กลุ่มการจัดนิทรรศแสดงสินค้า -Exhibition :E ทำรายได้ 19,156 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 233,228 คน

ขณะที่ตลาดนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศ ก่อให้เกิดรายได้ในระบบเศรษฐกิจ 117,301 บาท เติบโต 28.89% มีจำนวน 33,011,322 ราย การเติบโตทั้งสองส่วนมาจากปัจจัยการท่องเที่ยว ผนวกกับรัฐบาลมี
นโยบายส่งเสริมด้วยการออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและอบรมสัมมนาใน 55 เมืองรอง แล้วสามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายจากการจัดประชุมสัมมนาได้เต็ม 100% จึงส่งผลดีและสร้างความตื่นตัวแก่อุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว

สำหรับส่วนแบ่งรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ปีงบประมาณ 2561 จากตลาดไมซ์ต่างประเทศทั้งหมด มูลค่ารายได้รวม 95,623 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 1,255,985 คน มาจาก

1.กลุ่มผู้จัดประชุม -Meeting : M ทำรายได้ 30,473 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 335,000 คน

2.กลุ่มได้รับรางวัลเดินทางฟรี – Incentive : I ทำรายได้ 20,669 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 369,370 คน

3.กลุ่มการประชุมนานาชาติ -Convention : C ทำรายได้ 19,156 ล้นบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 25,396 คน

4.กลุ่มการจัดนิทรรศแสดงสินค้า -Exhibition : E ทำรายได้ 19,156 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าร่วม 233,228 คน

เรื่องและภาพโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน – บล็อกเกอร์ : gurutourza

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image