TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2019 กับบทพิสูจน์ศักยภาพเยาวชนคนกรุงเทพฯและปริมณฑล สู่เวทีการ
แข่งขันระดับประเทศ

แพทย์หญิงดวงพร ปิณจิเสคิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัยกล่าวในพิธีประกาศผลการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2019 เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งจัดขึ้นที่เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ กรุงเทพมหานครว่า กิจกรรมนี้เป็นการเปิดเวทีให้เยาวชนสมาชิก TO BE NUMBER ONE ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผู้มีความสามารถและมีใจรักด้านการเต้น ได้มารวมตัวแสดงพลังทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ในสิ่งที่ชื่นชอบเหมือนๆ กัน เป็นกิจกรรมที่สร้างให้เกิดความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ได้รับความสุข สนุก และได้รับมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนใหม่ ที่มาจากหลายจังหวัด แม้ผลการแข่งขันจะมีทั้งทีมที่สมหวัง ผิดหวัง ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน ขอให้มีความพยายามฝึกฝนต่อไป เพราะสิ่งที่เหนือกว่าคำว่าแพ้หรือชนะที่ทุกคนได้รับนั้นคือความทรงจำที่ดี ประสบการณ์ที่พิเศษจากโอกาสที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้

ด้านนายแพทย์ชิโนรส  ลี้สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE มีความยินดีและภาคภูมิใจ ที่ได้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์
TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP ในวันนี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่จัดต่อเนื่องมากว่า 16 ปี และประสบความสำเร็จอย่างสูง มีเยาวชนจากทุกภาคเข้าร่วมกิจกรรมปีละไม่ต่ำกว่า
3,000 คน เป็นกิจกรรมที่เปิดประสบการณ์ใหม่นอกห้องเรียน มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถด้านการเต้น ซึ่งเป็นรูปแบบและกระบวนการที่ช่วยเสริมสร้างพลังความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้กล้าแสดงออก ความมีน้ำใจ การเคารพกฎเกณฑ์ ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีสังคมที่ดี มีความอดทน ควบคุมตนเองได้ดี ข้อสำคัญการเต้นเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ผสมผสานให้เข้ากับจังหวะดนตรีที่ทันสมัย ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของผู้เต้น เป็นการสร้างพลังของคนรุ่นใหม่ให้ใช้เวลาว่างในทางสร้างสรรค์ ทำให้ห่างไกลจากยาเสพติด ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ TO BE NUMBER ONE “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด”

Advertisement

หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ เลขาธิการมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE และที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE กล่าวว่า การแข่งขันTO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2019 รอบชิงชนะเลิศ ระดับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีทีมเข้าแข่ง 3 รุ่น จำนวน 32 ทีม ผลการแข่งขัน “รุ่น JUNIOR” ชนะเลิศลำดับที่ 1 ทีม ศูนย์สร้างสุขทุกวัยคลองกุ่ม ทีมอิสระ ศูนย์สร้างสุขทุกวัยคลองกุ่ม, ลำดับที่ 2 ทีม MWN Dance Crew รร.มารีย์วิทยา นนทบุรี, ลำดับที่ 3 ทีม What’s up ทีมอิสระ รร.เยาวลักษณ์ธนบุรี / “รุ่น Pre-Teenage” ชนะเลิศลำดับที่ 1 ทีม The Kidz ทีมอิสระ, ลำดับ
ที่ 2 ทีม Double S Junior ทีมอิสระศูนย์สร้างสุขทุกวัยคลองกุ่ม, ลำดับที่ 3 ทีม โซ-นยอ ทีมอิสระ / “รุ่น Teenage” ชนะเลิศลำดับที่ 1 ทีม Hamonize ทีมอิสระ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, ลำดับที่ 2 ทีม Reborn ทีมอิสระ, ลำดับที่ 3 ทีม The Monkey Family ทีมอิสระ

“TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE เป็นการแข่งขันเต้น จึงเน้นตัดสินจากการเต้นไม่ใช่การแสดงโชว์ลีลา ในขณะที่การเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ในการแข่งขันต้องรัดกุมเหมาะสมกับท่าเต้น เพลงที่ใช้ก็ต้องเหมาะและเข้ากับท่าเต้นและไม่มีคำหยาบคาย ขอย้ำว่าคณะกรรมการจะตัดสินโดยการเก็บรายละเอียดจากท่าเต้นในทุกๆเพลงเป็นหลัก จึงขอฝากน้องๆเยาวชนทุกทีมที่จะเข้าไปชิงชัยในระดับประเทศให้ทำการบ้านในส่วนนี้ด้วย และขออวยพรให้ทุกทีมสมหวังและโชคดี” มล.ยุพดีกล่าว

นายนที มาลัยทอง “ครูต้อม” ผู้ฝึกสอนทีม The Kidz ทีมชนะเลิศลำดับที่ 1 “รุ่น Pre-Teenage”
เล่าว่า จากความชื่นชอบในการเต้นและมีโอกาสได้เข้าร่วมประกวดกับเวที TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE มาก่อน ทำให้รู้ว่าเวทีนี้เป็นเวทีที่ดีมากๆ เมื่อมีโอกาสได้เปิดโรงเรียนสอนเต้น จึงได้ชักชวนน้องๆที่มาเรียนเต้นกับเราเข้าร่วมแข่งขันโดยผู้ปกครองก็ยินดีให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะเข้าใจในสิ่งที่เราทำ มองเห็นประโยชน์ของการที่เด็กๆ ได้ทำอะไรร่วมกัน ไม่ได้มองว่าเป็นการเต้นกินรำกินแบบสมัยเก่า และเมื่อเด็กได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ชอบก็จะมีความสุข พ่อแม่ก็มีความสุขตามไปด้วย การเต้นทำให้เด็กได้รับการฝึกฝนด้านระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำ ช่วยฝึกสมองด้านการจดจำได้เร็วขึ้นด้วย

คุณชุติกานต์ ภัทรสาทร “คุณแม่จ๋า” แม่ของน้องเซนต์ ทีม The Kidz เล่าว่าด้วยความที่รู้จักโครงการ TO BE NUMBER ONE มาก่อนรู้ว่าเป็นโครงการที่ดีที่ให้เด็กได้แสดงศักยภาพของตนเอง และเวทีนี้เป็นเวทีที่ให้โอกาสกับเด็กๆ ได้เปิดโลกทัศน์ให้กับเด็กๆ จึงอยากให้ลูกได้ประสบการณ์ที่ดี ให้เขาได้พบปะเพื่อนใหม่ๆจากที่ต่างๆ ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างที่หาไม่ได้จากในโรงเรียน

น.ส.พันไหม ขุนทอง”เกะกะ” หนึ่งในสมาชิกทีม Hamonize ทีมชนะเลิศลำดับที่ 1 “รุ่น Teenage” เล่าว่า “จับตา” คือแนวคิดที่นำมาใช้ในการออกแบบท่าเต้นในปีนี้ ใช้การเปรียบเทียบดาราสาวที่ต้องผ่านการถูกจับตามองจากสายตารอบข้าง เพื่อฝ่าฟันขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุด การเต้นเป็นแนว Jazz Contemporary ที่แฝงด้วยความแข็งแรง เพราะต้องการฉีกแนวการเต้นเพื่อให้น่าจับตามองและให้แตกต่างจากทีมอื่นๆ ที่เน้นการเต้นในกระแส เช่น Hip pop Street Dance และถึงแม้ว่าทีมจะมีสมาชิกมากถึง 20 คนแต่เพราะทุกคนรักในการเต้นเหมือนกัน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน การรวมตัวเพื่อฝึกซ้อมจึงไม่ใช่เรื่องยาก การเต้นทำให้พวกเรารักและผูกพันกันมากขึ้นทุกวัน พวกเราขอขอบพระคุณทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีที่ทำกิจกรรมนี้ให้กับเยาวชน ได้มีเวทีได้แสดงความสามารถ ได้ทำในสิ่งที่พวกเราชื่นชอบ

นายจิรภัทร สุขกาย “แบงก์” อีกหนึ่งในสมาชิกทีม Hamonize เล่าว่า เดิมทีเป็นนักกีฬาฟุตบอล หลังจากซ้อมเสร็จก็จะใช้เวลาหมดไปกับการเล่นเกม จนกลายเป็นเด็กติดเกมอย่างหนัก และเลิกเป็นนักกีฬาฟุตบอล หนักขึ้นก็เริ่มสูบบุหรี่จนร่างกายเริ่มแย่ แต่โชคดีที่ได้ “เกะกะ” เพื่อนที่อยู่ในทีม Hamonize มาชักชวนให้ลองฝึกเต้นดูแรกๆ ก็รูสึกว่าไม่ใช่แนวทางที่ตัวเองชื่นชอบ แต่ก็ลองทนฝึกซ้อมกับเพื่อนๆ แม้จะมีท้อบ้างแต่เพื่อนๆ ก็คอยให้กำลังใจ จนทุกวันนี้สามารถเต้นได้ดีขึ้น รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น จากที่เคยติดเกมก็เลิกได้ เพราะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการซ้อมเต้น กว่าจะซ้อมเสร็จก็เหนื่อย และต้องรีบพักผ่อนเพื่อมาเต้นในวันใหม่ วันนี้รู้สึกภูมิใจมากที่ตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ชนะเลิศลำดับที่ 1 จากการแข่งขันครั้งนี้และยังได้รับโอกาสได้เข้าไปชิงชัยในระดับประเทศอีกด้วย

คุณแม่ศุลีพร วงศ์งาม” คุณแม่เอื้อย” แม่ “น้องเอมมิ” หนึ่งในสมาชิกทีมศูนย์สร้างสุขทุกวัยคลองกุ่ม
ทีมชนะเลิศลำดับที่ 1“รุ่น JUNIOR” เล่าว่าต้องขอขอบพระคุณทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา
สิริวัฒนาพรรณวดีองค์ประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ได้ทำกิจกรรมดีๆแบบนี้ ให้เด็กๆ ได้มีเวทีสำหรับการแสดงความสามารถในทางที่สร้างสรรค์และได้ทำในสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ ซึ่งในสมัยคุณแม่เป็นเด็กยังไม่มีกิจกรรมและโอกาสดีๆ แบบนี้

เด็กๆ ที่อยู่ในทีมฯทั้งหมด ล้วนเป็นเด็กจากศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์
ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้กิจกรรมต่างๆมากมายทั้งการรำ นาฏศิลป์ ร้องเพลง รวมทั้งการเต้นซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยทำให้นิสัยของน้องเอมมิเปลี่ยนไปมาก น้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น แบ่งเวลาเป็น ยอมรับที่จะแบ่งเวลาเล่นกับเวลาอ่านหนังสือ กล้าคิด กล้าแสดงออก มีการตัดสินใจในบางเรื่องได้ดีขึ้น ยอมรับฟังเหตุผลมากขึ้น เล่นมือถือน้อยลง ซึ่งช่วยลดปัญหาสังคมก้มหน้าได้ดีมาก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image