“มาร์ค สุขุมวิท” ไอคอนนิคบิลดิ้ง บนถนนสุขุมวิท ที่สุดของชีวิตเหนือระดับตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ

“มาร์ค สุขุมวิท” (MARQUE SUKHUMVIT) คำตอบของชีวิตเหนือระดับ ชูไอคอนนิคบิลดิ้งมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท แลนด์มาร์คใหม่ย่านพร้อมพงษ์ เนรมิตทุกพื้นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุด
เอ็กซ์คลูซีฟ เผยยอดจองเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมส่งต่อมรดกแห่งความภาคภูมิใจ ฟรีโฮลด์ผืนสุดท้ายของสุขุมวิท

ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ เปิดเผยว่า “มาร์ค สุขุมวิท (MARQUE SUKUMVIT) ถือเป็นโครงการที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของที่พักอาศัยในอุดมคติสำหรับคอนโดมิเนียมระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ที่สร้างสรรค์โดย
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งหลังจากเปิดตัวและดำเนินก่อสร้างจนแล้วเสร็จ โครงการได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์เป็นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ในทำเลที่เป็นแลนด์มาร์คใหม่ และมีความเอ็กซ์คลู
ซีฟในการออกแบบรวมถึงการคัดสรรวัสดุระดับพรีเมียมในการตกแต่งอย่างแท้จริง”

Advertisement

มาร์ค สุขุมวิท เป็นไอคอนนิคบิวดิ้ง (Iconic Building) บนไพร์มโลเคชั่น (Prime Location) ที่ดีที่สุดในตอนนี้ ไม่เพียงแวดล้อมด้วยโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ อาคารสำนักงานชั้นนำ โรงแรมหรู โรงพยาบาล ร้านอาหารชื่อดัง พร้อมพงษ์ยังเป็นย่านของตระกูลเก่าแก่ของบุคคลชั้นนำทางสังคม เป็นที่ตั้งของช็อปปิ้งมอลล์ระดับเวิลด์คลาส สะดวกสบายด้วยเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้า เพียง 30 เมตรถึง สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ ขณะที่ภายในซอยสุขุมวิท 39 ยังสามารถเชื่อมโยงไปยังซอยย่อยต่างๆ ทะลุออกถนนอโศก และถนนเพชรบุรี จึงควรค่าแก่การลงทุนเพื่อเป็นที่อาศัยหรือเก็บเป็นสมบัติที่ล้ำค่า

“หากพิจารณาในแง่การลงทุนอสังหาฯ ย่านพร้อมพงษ์ โครงการมาร์ค สุขุมวิท ณ ปัจจุบันมีการปรับเพิ่มกว่า 45%  เมื่อเทียบราคาขายตั้งแต่เปิดขายโครงการอยู่ที่ตารางเมตรละ 230,000 บาทด้วยการลงทุนเพิ่มเติมจากธุรกิจอื่นในย่านและได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านธุรกิจ (Prime CBD) ส่งผลให้ราคาต่อตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 333,500 บาทต่อตารางเมตร จึงนับเป็นสัญญาณที่ดีในการลงทุนเพื่ออยู่อาศัย ปัจจุบัน
มีลูกค้าชาวต่างชาติประมาณ 30% ของทั้งโครงการ ” ดร.สุริยากล่าว

มาร์ค สุขุมวิท สง่างามด้วยการเป็นไอคอนนิคบิวดิ้งบนถนนสุขุมวิท ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกชื่อดัง Palmer & Turner (Thailand) มีขนาด 146 ยูนิต สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนห้องชุด เพียง 4 ยูนิตต่อชั้น การเข้าถึงแต่ละห้องใช้ลิฟต์ส่วนตัวเท่านั้น และเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก

Advertisement

ก็จะพบกับโถงส่วนตัวที่อยู่หน้าประตูห้อง อาคารสูง 50 ชั้น แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนเลกาซี่ (Legacy) ตั้งแต่ชั้น 8–34, โซนเฮอร์ริเทจ (Heritage) ตั้งแต่ชั้น 35–42 จะมีขนาดพื้นที่ 126.82–197.40 ตารางเมตร และตั้งแต่ชั้น 44–49 จะเป็นเพ้นท์เฮ้าส์ (Penthouse) จำนวนทั้งสิ้น 7 ยูนิต มีขนาด 294.59 – 665.95 ตารางเมตร ณ ปัจจุบันเหลือให้จับจองเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น โดยแต่ละยูนิตจะมีเลย์เอ้าท์ (Layout) พิเศษแตกต่างกันไป โดยเป็นการจัดเลย์เอ้าท์ห้องจากรูปทรงของอาคารที่เป็นทรงเพชร ทุกห้องชุดออกแบบให้เหนือกาลเวลาด้วยผนังระเบียงที่ทำจากกระจกนิรภัย  เน้นความโปร่งโล่ง ด้วยฝ้าเพดานสูง 3 เมตร พร้อมกระจก Full Height จากพื้นจรดฝ้าเพดาน ผนังระเบียงที่ทำจากกระจกนิรภัยสามารถมองเห็นวิวของ กรุงเทพฯ ได้อย่างสุดสายตา ตกแต่งภายในโดยเน้นความหรูหราด้วยการปูพื้นห้องด้วยไม้จริงทั้งแผ่นและปูลักษณะเป็นก้างปลา (Herringbone) ตอบโจทย์ชีวิตที่เหนือระดับด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัว พร้อมมอบความผ่อนคลายด้วยสระจากุชชีส่วนตัว บริเวณระเบียงเพิ่มความสะดวกสบายของห้องขนาด 2 และ 3 ห้องนอน ด้วยระเบียงพิเศษที่เชื่อมไปยังห้องนอนหลักได้ด้วย

นอกจากนี้ทุกยูนิตจะได้รับการจัดสรรพื้นที่ห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารให้มีขนาดใหญ่พิเศษเพราะเป็นพื้นที่ศูนย์กลางที่สมาชิกในครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกัน รวมถึงเครื่องครัวที่ใช้เป็นแบรนด์หรูจากเยอรมนีพอกเกนโพล (Poggenpohl) เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว แก็กกานาว (Gaggenau) สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก ฮันสโกรเฮอ (Hansgrohe) เพิ่มความสุนทรีย์ด้วยวิวสกายไลน์ (Sky line) 360 องศา ซึ่งเป็นมุมมองที่ดีที่สุดกลางย่านหรูพร้อมพงษ์สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของสะพานแขวนและสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างบางกระเจ้าได้ โดยราคาเริ่มต้นสำหรับเพ้นท์เฮ้าส์อยู่ที่ 200 ล้านบาท

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 7 มอบสุดยอดความสะดวกสบายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ ทั้งสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือที่มีความยาว 25 เมตร แยกสระสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ วัสดุปูสระด้วยหินอ่อน White Carara นำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงมีสระน้ำวนและจากุชชี่ให้สามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ยังได้จัดสรรพื้นที่พักผ่อนด้วยระเบียงกลางแจ้งและศาลา (Outdoor terrace) เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความรื่นรมย์บนพื้นที่สีเขียว ชื่นชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาเหนือใจกลางมหานคร และสามารถใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์สำหรับคนที่รัก ทั้งยังมีคลับเฮาส์ให้เป็นสถานที่ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมของครอบครัว อาทิ ห้องออกกำลังกายที่ทันสมัย และครบครันด้วยเครื่องออกกำลังกายแบรนด์ Technogym มาตรฐานระดับโลกที่ยิมขนาดใหญ่เลือกใช้, ห้องโยคะ, ห้องสำหรับออกกำลังกายขนาดใหญ่ ที่มีกระจกสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน, สนามสควอซ, ห้องอบไอน้ำ-เซาว์น่าแยกชายและหญิง, ห้องนวดส่วนตัว ที่ออกแบบและตกแต่งบรรยากาศเช่นเดียวกับสปาในโรงแรมชั้นนำ, โซนเด็กเล่น ที่มีอุปกรณ์ บ่อบอลและเครื่องเล่นที่เหมาะกับเด็กๆ โดยเฉพาะ

และสำหรับคอกีฬากอล์ฟ สามารถเปิดประสบการณ์ความพิเศษด้วยกันทั้งครอบครัว กับเครื่องจำลองการเล่นกอล์ฟ (Golf Simulator) ที่ตอบสนองการเล่นได้ตั้งแต่ทักษะเบื้องต้นจนถึงระดับโปร ด้วยเทคโนโลยี
ใหม่ล่าสุด และสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งได้รับการดูแลจากทีม OB Club ผู้ให้บริการการเล่นกอล์ฟในร่มรายแรกและรายเดียวของเมืองไทย ด้วยเครื่องซีมูเลเตอร์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นกอล์ฟใน Indoor อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถซ้อมเหมือนอยู่ในไดร์ฟวิ่งเรนจ์ หรือออกรอบได้มากกว่า 170 สนามชื่อดังทั่วโลก อาทิ
St Andrew, Pebble beach, Fuji Classic, Hong Kong Golf Club ซึ่งจะมอบความสนุกสนานในการเล่นกอล์ฟเสมือนได้เล่นอยู่ในสนามจริง

พื้นที่ส่วนกลางซึ่งถือเป็นจุดไฮไลท์ของมาร์ค สุขุมวิท ที่มีทำเลตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิท อย่าง Cigar Lounge & Wine Bar บนชั้น 43 ของอาคาร สามารถมองเห็นวิวกรุงเทพฯ ได้ 360 องศา โดยไม่มีอะไรมา
บดบังทัศนียภาพ เพื่อให้ลูกบ้านได้เต็มอิ่มกับวิวสวยทั้งในตอนกลางวัน และแสงไฟของเมืองในยามค่ำคืน รวมไปถึงชั้น 50 ที่อยู่สูงสุดของอาคารแห่งนี้ เป็นพื้นที่ของ Outdoor Theater ที่สามารถฉายภาพยนตร์เรื่องโปรดจากสมาร์ทโฟนของคุณขึ้นบนผนังจอได้ทันที สุนทรีย์ด้วยระบบเสียงที่แม้ว่าอยู่ภายนอกอาคารก็ไม่ถูกรบกวนจากเสียงภายนอก เพื่อให้ได้สนุกกับการดูหนัง พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศวิวเมืองไปพร้อมกัน

นอกเหนือจากความพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียด โครงการมาร์ค สุขุมวิท ได้คำนึงถึงการออกแบบเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรูจากแบรนด์ระดับโลก พร้อมเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับบรรยากาศแห่งการผ่อนคลายด้วยทิวทัศน์รอบด้านที่สามารถมองผ่านกระจกใส และเชื่อมต่อไปยังพื้นที่สวนกลางแจ้ง ส่วนที่จอดรถ โครงการได้คำนึงถึงความสะดวกสบายแก่ผู้เป็นเจ้าของ โดยสามารถจอดรถได้มากถึง 200% เมื่อเทียบกับจำนวนห้องพัก เพียงพอสำหรับลูกค้าและแขกที่มาเยี่ยม รวมถึงมี EV charger ให้บริการ อีกด้วย

พร้อมกันนี้ยังมอบเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับ Concierge Service ด้วยการบริการจาก THE BLACK TIE SERVICES เพื่อเติมเต็มความสุขที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกบ้านในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจอง Facilities ภายในโครงการ หรือแนะนำสุดยอดร้านอาหารระดับห้าดาวมิชลิน และจองร้านอาหาร ห้องนวดสปา รวมถึงการเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในการจัด Private Event และจองรถลิมูซีน เป็นต้น

“เราเชื่อว่า มาร์ค สุขุมวิท คือที่สุดของอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ไลฟ์สไตล์ ที่คนเมืองต้องการและเป็นไพร์มโลเคชั่น (Prime Location) ผืนสุดท้าย ที่เป็นโครงการ Free Hold (ถือครองระยะยาว) บนทำเลสุขุมวิทที่สามารถส่งต่อเป็นมรดกแก่ทายาทของนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยได้อย่างน่าภาคภูมิใจแน่นอน” ดร.สุริยากล่าวทิ้งท้าย

มาร์ค สุขุมวิท (MARQUE SUKHUMVIT) เริ่มต้นราคา 333,500 บาทต่อตารางเมตร สำหรับห้องชุดราคาเริ่มต้น 44.5 ล้านบาท สนใจชมห้องตัวอย่างจริง ณ สำนักงานขายโครงการ มาร์ค สุขุมวิท เวลา 09.00 – 17.00 น. หรือติดต่อ Call center 1266 email:[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image