อย. จัดโครงการ “เครือข่ายชุมชนร่วมใจ ป้องกันภัยผลิตภัณฑ์สุขภาพ” โดยต่อยอดแนวคิด บวร.ร. (บ้าน วัด โรงเรียน โรงพยาบาล) จากโครงการชุมชนสุขภาพดี ปี 2561 ที่มีการลงพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด โดยในปี 2562 นี้ อย. ได้ขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้นเป็น 25 ชุมชน 25 จังหวัดจากทุกภาคทั่วประเทศ เปิดโอกาสให้ประชาชนและหน่วยงานในชุมชนมีส่วนร่วมจัดการหรือป้องกันปัญหาด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพตามบริบทของชุมชน
วันนี้ (12 มิถุนายน 2562) ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และคณะ แถลงข่าวการดำเนินงานโครงการ “เครือข่ายชุมชนร่วมใจ ป้องกันภัยผลิตภัณฑ์สุขภาพ” ว่า เป็นโครงการที่ต้องการให้คนในชุมชน รวมตัวกันเพื่อจัดการหรือแก้ปัญหาเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ทางชุมชนประสบอยู่ โดยแต่ละชุมชน มีปัญหาเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่แตกต่างกันไป ได้แก่ ปัญหาพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีรสชาติหวาน มัน เค็ม มากเกินไป ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือโรค NCDs ปัญหายาชุด ยาน้ำสมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดน้ำที่ผิดกฎหมาย ลักลอบผสมสารสเตียรอยด์ที่มีการ เร่ขายตามบ้าน หรือรถเร่ และปัญหาการหลงเชื่อโฆษณาอวดสรรพคุณเกินจริงทางสื่อออนไลน์ วิทยุชุมชน ทำให้ได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายหรือผสมสารอันตราย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการฯ อย. กล่าวว่า (อย.) ได้ลงพื้นที่ติดตามพร้อมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายในชุมชนอย่างใกล้ชิด และถือว่าโครงการสัมฤทธิ์ผลตามที่มุ่งหวัง โดยแต่ละจังหวัดมีกลยุทธ์แก้ไขและป้องกันปัญหา แตกต่างกันไปตามบริบทชุมชน
การดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้แต่ละชุมชนมีภูมิคุ้มกัน ปกป้องสิทธิ์ตนเอง มีพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้องและเหมาะสม ที่สำคัญ เกิดความร่วมมือเชิงเครือข่ายในรูปแบบประชารัฐ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย อันจะทำให้ประชาชนมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ อย. จะเดินหน้าพัฒนารูปแบบ วิธีการที่ทันสมัย นำนวัตกรรมมาใช้ต่อยอดโครงการดังกล่าวในปีต่อ ๆ ไป โดยหาเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น เช่น พชอ. และหน่วยงานในกระทรวงอื่น ๆ เข้าให้ถึงทั้งระดับตำบลและอำเภอ เพื่อให้ครอบคลุมทุกชุมชนทั่วประเทศ ให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ในระยะยาวต่อไป เลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด