เช็คคน เช็ครถ “Checking Point” มาตรการเข้มสกัดอุบัติเหตุ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายดำเนินมาตรการตรวจเข้มข้นรถโดยสารสาธารณะ เช็คคน เช็ครถ “Checking Point”

จากรายงานสถานการณ์อุบัติเหตุโลก ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2561 พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทย ล่าสุดอยู่ในอันดับ 9 ลดลงจากรายงานในปี 2558 ที่เคยอยู่อันดับ 2 ของโลก โดยอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนลดลง จาก 36.2 ต่อประชากรแสนคน ลงมาอยู่ที่ 32.7 ต่อประชากร มีผู้เสียชีวิต 22,491 ต่อปี เฉลี่ย 60 คนต่อวัน ยังเป็นตัวเลขที่สูงเกินกว่าจะยอมรับได้ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะเกิดอุบัติเหตุสูงถึง 499 คัน เสียชีวิต 214 คนในปี 2561

ปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในไทย กระทรวงคมนาคมไม่ได้นิ่งนอนใจ โดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้เร่งดำเนินการลดอุบัติเหตุผ่าน 3 ส่วนสำคัญ คือ “เช็คคน เช็ครถ Checking Point หรือจุดตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ” โดยกำหนดตรวจทุกๆระยะทาง 90 กิโลเมตร ตามถนน 111 สายทางทั้งหมดทั่วประเทศ ตรวจความพร้อมของรถและพนักงานขับรถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง อย่างต่อเนื่อง ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

เช็ครถโดยสารสาธารณะที่จุดตรวจ Checking Point

มาตรการดังกล่าว เริ่มนำร่องมาแล้วตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2562 โดยทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ การมีใบอนุญาตขับรถถูกต้องตรงตามประเภท คุมเข้มชั่วโมงการทำงานของพนักงานขับรถ และตรวจความพร้อมของรถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย อาทิ ตรวจยาง/ล้อรถโดยสาร ระบบไฟสัญญาณต่างๆ กระจก ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก และระบบการเชื่อมต่อ GPS

Advertisement

               เช็คคน ตรวจสอบสมรรถภาพของร่างกายพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ

นอกจากนี้ ระบบการทำงานของ Checking Point” จะเริ่มตรวจตั้งแต่คนขับเริ่มสตาร์ทรถโดยสารสาธารณะจากศูนย์ขนส่ง ของบริษัท ขนส่ง จำกัด ตรวจเช็คผ่านการติดตั้งระบบ GPS หากพบว่ามีการใช้ระยะเวลาเดินทางเร็วกว่า 1 ชั่วโมง ถือว่าใช้ความเร็วเกินกฎหมาย เบื้องต้นกรมการขนส่งทางบก จะทำการตักเตือนก่อน หากไปจุดถัดไปยังขับเร็วกว่ากำหนดอย่างต่อเนื่อง จะใช้มาตรการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตตามขั้นตอน ซึ่งจะทำให้เวลาเดินทางของประชาชนช้าลง 5-10 นาที แต่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ส่วนรถโดยสารสาธารณะคันใด ไม่เข้าร่วมการตรวจ Checking Point ทางกรมการขนส่งทางบก ก็จะแจ้งจุดตรวจ checking Point ถัดไป พร้อมทั้งประสานตำรวจทางหลวง เพื่อสกัดจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงจะเห็นได้ว่ามาตรการ Checking Point ยังก่อให้เกิดการบูรณาการงานร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจทางหลวง และบริษัท ขนส่ง จำกัด ในการควบคุม กำกับ ดูแลสภาพตัวรถและคนขับให้มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยตลอดการเดินทาง โดยมีเป้าหมายเดียวกัน เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ลดลงเหลือศูนย์

ทั้งนี้ จากการดำเนินงานมาตรการดังกล่าว ในช่วงระหว่างวันที่ 2-25 กันยายน 2562 กรมการขนส่งทางบก ได้เริ่มมาตรการเช็คคน ให้ผู้ขับขี่ตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่ตามกฎหมายทั้งหมด โดยตรวจพนักงานขับรถแล้ว 29,704 คน ขณะที่มาตรการเช็ครถ ได้คุมเข้มให้รถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ทำการตรวจสภาพรถโดยสารใหม่ตามมาตรฐานสากล โดยทำการตรวจสอบไปแล้ว 25,249 คัน

ส่วนมาตรการ  Checking Point ได้จัดตั้งจุดตรวจความพร้อมเข้มข้นทั่วประเทศ 90 กิโลเมตร เริ่มดำเนินการ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความพร้อมให้บริการประชาชนตลอดการเดินทาง มีผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 16 – 25 ก.ย.2562 ดำเนินการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะไปแล้ว 135,139 คัน พบข้อบกพร่อง 619 คัน ได้ดำเนินการตักเตือน ออกใบสั่ง และเปรียบเทียบปรับเรียบร้อย

จากการดำเนินการดังกล่าว มาตรการตรวจอย่างเข้มข้น ทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง  รายงานสถิติเทียบในช่วง 1-31 ส.ค.2562 ก่อนดำเนินการมาตรการ “เช็คคน เช็ครถ Checking Point” เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากรถโดยสารสาธารณะอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 1.07 รายต่อวัน ในช่วงเริ่มมาตรการ Checking Point ระหว่างวันที่ 2-25 ก.ย.2562 เกิดอุบัติเหตุลดลงอยู่ในอัตราเฉลี่ย 0.71 รายต่อวัน และช่วงขยายมาตรการเต็มความสามารถ ระหว่างวันที่ 16-25 ก.ย.2562 เกิดอุบัติเหตุลดลงเหลือสถิติเพียง 0.40 รายต่อวัน ซึ่งเป็นการเดินหน้าเข้าใกล้สู่เป้าหมายลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์อย่างที่ทุกฝ่ายคาดหวังไว้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image