โครงการ TRASH ร่วมเปลี่ยนโลก แปลงขยะให้มีค่า เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ มุ่งหน้าสู่กระบี่เมืองสะอาด ปราศจากขยะพลาสติก

กระบี่ – 19 พฤศจิกายน 2562 – ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ร่วมกับเทศบาลเมืองกระบี่, กรมควบคุมมลพิษ, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บ.ซีโร่ เวสท์ โยโล และคุณพิมฐา ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล พรีเซ็นเตอร์ของซิตร้า แบรนด์ภายใต้บริษัทยูนิลีเวอร์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ให้เยาวชน และชุมชนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการขยะพลาสติกเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และถือโอกาสเปิดตัวโครงการ TRASH อย่างเป็นทางการ ณ จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ได้รับคัดเลือกเป็นจังหวัดต้นแบบแรกสำหรับโครงการ TRASH (Tourism to Recycling Actions for the Schools and Homes) การลงพื้นของยูนิลีเวอร์และพันธมิตรในครั้งนี้เป็นการแสดงถึงเจตจำนงค์ความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกนำร่องที่เมืองกระบี่และสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนแก่ขยะพลาสติก หลังจากที่ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา

มร.โรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย และมาเลเซีย สิงคโปร์ เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา กล่าวว่า การลงพื้นที่ที่จังหวัดกระบี่เพื่อเปิดตัวโครงการ TRASH อย่างเป็นทางการในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราที่ได้ประกาศแผนลดการใช้พลาสติกใหม่ (Virgin Plastic) ในบรรจุภัณฑ์ลงครึ่งหนึ่งและให้คำมั่นที่จะเก็บและแปรรูปบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้มากกว่าที่ขาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 โครงการนี้จะช่วยให้เราสามารถนำพลาสติก 2 ประเภทที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เห็นคุณค่าเช่น ขวดขุ่น ขวดทึบประเภท HDPE และ ถุงฟิลม์หลายชั้นที่ฉาบอะลูมิเนียมหรือฟอลล์ ถูกจัดเก็บเข้ามาในระบบโดยการสร้างระบบนิเวศน์ที่จะหมุนเวียนพลาสติก (Circularity) ผ่านการสร้างองค์ความรู้แก่ชุมชนเพื่อการบริหารจัดการขยะพลาสติกที่มีระบบ และขยะพลาสติกเหล่านั้นจะถูกแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่นไม้เทียม โดยเครื่องจักรขนาดเล็กที่สามารถบริหารจัดการเองได้โดยคนในชุมชน ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในความสำเร็จของโครงการนี้คือความร่วมมือร่วมใจในการบริหารจัดการขยะพลาสติกกำพร้าสองประเภทนี้และการสานต่อโครงการของทุกภาคส่วน และในโอกาสนี้ ยูนิลีเวอร์จึงขอส่งมอบเจตนารมณ์และระบบการจัดเก็บภายใต้โครงการนี้ให้อยู่ภายใต้ความดูแลของเทศบาลเมืองกระบี่และชุมชนในเมืองกระบี่

นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าการร่วมลงพื้นที่เพื่อเปิดตัวโครงการ TRASH อย่างเป็นทางการในครั้งนี้เป็นการร่วมมือของพันธมิตรในพื้นที่จังหวัดกระบี่ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ ททท. ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดย ททท. ได้มีโครงการ “ลดโลกเลอะ” เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวลดและเลิกการใช้พลาสติกที่ใช้เพียงครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยว และหันมาใช้วัสดุธรรมชาติเพื่อทดแทน ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุในท้องถิ่นอีกทางหนึ่ง รวมไปถึงรณรงค์ให้เจ้าของพื้นที่ได้ตระหนักถึงปัญหาขยะที่เกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย ดังนั้น โครงการ TRASH จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญในการรณรงค์ให้การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว อันจะส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวของไทยยังคงความสวยงามน่าท่องเที่ยวต่อไป

Advertisement

นางสาววานิช สาวาโย ผู้อำนวยการส่วนลดและใช้ประโยชน์ของเสีย กล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดเป็นอันดับต้นๆ ที่มีขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล อาทิ วาฬ พะยูน กรมควบคุมมลพิษได้ตระหนักถึงปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะพลาสติกจึงได้จัดทำ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 ขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกของประเทศ โครงการ TRASH เป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ การนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) ภายใต้ Roadmap ดังกล่าว ซึ่งจะสามารถขยายการดำเนินงานไปสู่พื้นที่อื่นๆ เพื่อสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนของประเทศให้ก้าวไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

นายชาญณรงค์ ลีลาบูรณพงศ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวว่า กระผมรู้สึกภาคภูมิใจในฐานะคนพื้นที่กระบี่และเทศบาลเมืองกระบี่ที่วันนี้โครงการ TRASH เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมที่แล้วและที่เมืองกระบี่ได้รับเลือกเป็นจังหวัดต้นแบบสำหรับโครงการนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดที่ต้องการรณรงค์ให้กระบี่เป็นเมืองสะอาด และลดการใช้บ่อฝังกลบ ซึ่งปกติขวดพลาสติกประเภทขวดนม ขวดขุ่น หรือขวดทึบ และ ซองหลายชั้นที่เป็นซองขนม หรือถุงเติมน้ำยา แชมพู สบู่ จะมีจุดจบที่บ่อฝังกลบทำให้ไม่มีการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เพื่อรักษาธรรมชาติที่สวยงามของกระบี่ ให้กระบี่เป็นเมืองน่าอยู่ตลอดไป

Advertisement

นางเกศทิพย์ หาญณรงค์ CEO และ Founder ของ บจก. ซีโร่ เวสท์ โยโล กล่าวว่า การที่จะสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชน ประชาชน และกิจการเพื่อสังคมในการทำงานร่วมกัน โครงการ TRASH เป็นโครงการนำร่องที่เป็นภาพสมบูรณ์ของความร่วมมือกันทุกภาคส่วน เป็นก้าวที่สำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่าถ้าเราร่วมมือกันอย่างจริงจัง ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติกที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยและของโลกจะได้รับการแก้ไขได้จริงๆ ทั้งนี้ ไม้เทียมที่พันธมิตรนำมามอบในวันนี้ ทำมาจากฝาขวด 600 ฝา ซึ่งหากชุมชนทุกภาคส่วนสามารถนำพลาสติกกำพร้ามารีไซเคิลแบบเดียวกันนี้ เราสามารถกู้พลาสติกจากสิ่งแวดล้อมมาทำประโยชน์โดยอาจแปลงเป็นรถเข็นสำหรับคนพิการ หรือ อุปกรณ์จำเป็นอื่นๆสำหรับชุมชน โยโลรู้สึกภูมิใจและดีใจที่จังหวัดกระบี่และคนกระบี่จะได้ใช้เครื่องรีไซเคิลพลาสติกระดับชุมชนเครื่องแรกของไทยเพื่อเริ่ม คัดแยก ล้าง รีไซเคิลอย่างจริงจังในชุมชน

นางสาวฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล พรีเซนเตอร์แบรนด์ซิตร้า กล่าวว่า “ขอขอบพระคุณทางยูนิลีเวอร์ที่เชิญมาร่วมกิจกรรมในวันนี้  และรู้สึกเป็นเกียรติ ที่ซิตร้า เป็นส่วนหนึ่งของโครงการดีๆ แบบ TRASH ที่จัดการปัญหาขยะพลาสติกตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ทำให้เรามองขยะพลาสติกในมุมมองที่เปลี่ยนไป จากขยะเป็นวัตถุดิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพลาสติกที่ไม่มีที่ไป เช่น ขวดโลชั่นซิตร้า การรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนเป็นเรื่องของพวกเราทุกคน ไม่มีใครทำเพียงคนเดียวได้ และจากโครงการนี้ พิมฐาได้มีโอกาสสัมผัสด้วยตนเองว่าด้วยความร่วมมือของทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนในกระบี่ หากมีการแยกขยะ และทำความสะอาด เพียงแค่ล้าง แกะฉลาก และทิ้งลงถังให้ถูกต้อง ขยะพลาสติกก็จะสามารถแปลงเป็นสิ่งต่างๆ ได้มากมาย เพราะพลาสติกสามารถทำประโยชน์ได้หลายอย่างหากอยู่ในวงจร และเป็นการอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยว และหาดที่สวยงามของกระบี่”

เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์

ยูนิลีเวอร์ เป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนา ของโลก มีสินค้าขายใน 190 ประเทศทั่วโลก เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของ ผู้บริโภค 2.5 พันล้านคนที่ใช้สินค้ายูนิลีเวอร์ในชีวิตประจา วันทุกวัน ยูนิลีเวอร์มีแบรนด์สินค้ากว่า 400 ชนิด ตั้งแต่ ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์บา รุงผิวและเส้นผม น้า ยาล้างจาน และอาหาร ในปี 2561 บริษัทมีรายได้ทั่วโลก 51 พันล้านยูโร โดยยูนิลีเวอร์มีโรงงาน 32 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงให้และศูนย์นวัตกรรม 6 แห่งทั่วโลก และมีพนักงาน 17,000 คน ทั่วโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image