นพ. สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาการเสียชีวิตอันดับต้นของประชากรทั่วโลก ทุกประเทศจึงควรมีการจัดทำแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ มีความคุ้มค่า และเหมาะสมกับโครงสร้างระบบสุขภาพของประเทศ สำหรับสถานการณ์โรคมะเร็งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าในปี พ.ศ. 2551 มีผู้ป่วยใหม่ราว 724,699 ราย และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 500,439 ราย มะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และมะเร็งช่องปาก ตามลำดับ ประเทศไทยมีการทำแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งระดับชาติตามแนวทางขององค์การอนามัยโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 และถือเป็นประเทศแรก ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการจัดทำแผนในเรื่องนี้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 ได้มีการผลักดันแผนนี้ลงสู่การปฏิบัติในระบบบริการสุขภาพทุกระดับ หรือที่เรียกว่า Service Plan สาขาโรคมะเร็ง มีการดูแลประชาชน ตั้งแต่การป้องกันโรค จนถึงผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายในทุกเขตสุขภาพทั่วประเทศ
นพ. วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่าในการต่อสู้กับโรคมะเร็งที่เป็นปัญหาของประชากรทั่วโลกจำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างประเทศ ประเทศไทยโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติเป็นแกนนำหลักในการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ในการจัดทำแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งให้กับประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างต่อเนื่อง โดยจัดการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ เช่น การจัดฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ภายใต้โครงการ ASEAN Collaborative Training on Cancer เมื่อวันที่ 8-17 มิถุนายน 2558 การฝึกอบรมครั้งนี้จัดขึ้นพร้อมกัน 6 หลักสูตร
ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์จากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคจำนวน 152 คน จากสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และมาเลเซีย นอกจากนี้ยังนำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งสาขาต่าง ๆ จากประเทศไทยและต่างประเทศลงพื้นที่เพื่อจัดการฝึกอบรมและถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ อาทิ การทำทะเบียนมะเร็ง การคัดกรองและการรักษามะเร็งปากมดลูกให้แก่ประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สาธารณรัฐประธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และมาเลเซีย
Dr. Edward L. Trimble ผู้อำนวยการ NCI Center of Global Health ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งและเป็นผู้นำด้านนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด ประเทศสหรัฐอเมริกามีความยินดีที่มีความร่วมมือกับประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ และเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน จะทำให้การแก้ปัญหาโรคมะเร็งของภูมิภาคนี้ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ยังมีความร่วมมือกับศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S.-CDC) ผ่านทางศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐอเมริกา ด้านสาธารณสุข เรื่องโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non communicable disease) เพิ่มเติมจากเดิมที่มีความร่วมมือเฉพาะด้านโรคติดต่อ เนื่องจากปัจจุบันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญของคนไทยและคนทั่วโลก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองประเทศได้มีการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันมากขึ้น รวมถึงความร่วมมืองานวิจัยที่เกี่ยวกับโรคมะเร็งซึ่งสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีความก้าวหน้าและประสบการณ์ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี