TCEB โร้ดโชว์เจาะขุมทรัพย์ไมซ์จีนเทเข้าไทย ปี’ 63 งัด 3 โปรเจ็กต์ยักษ์โกยรายได้อย่างยั่งยืน

TCEB” นำเอกชนไทยบุกโร้ดโชว์จีนส่งท้ายปีตุนเงินเข้าประเทศก้อนโต 2,000 ล้านบาท
“ผอ.จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ลุยขยายฐานไมซ์พรีเมี่ยมจีน ปี’ 63 งัด 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ใหญ่ “การตลาด-ภาษาสื่อสาร-ไมซ์ยั่งยืน” พร้อมเหยียบคันเร่งไมซ์ในประเทศ 3 เรื่อง “ไมซ์ชุมชน-ไมซ์ซิตี้-ห้องประชุมท้องถิ่นของ อบต./อบจ.” และดึงโรงแรมทั่วกรุงเทพฯ เปิดมหกรรม Re-Use เต็มรูปแบบชวนเชนดังๆ นำร่องก่อนแถบย่านประสงค์

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าได้ทำการตลาดไมซ์เชิงรุกส่งท้ายปี 2562 และเตรียมปูพรมสร้างรายได้ปี 2563 ขับเคลื่อน 3 โปรเจ็กต์ 3 เรื่องทำไปพร้อมๆ กัน เริ่มจากเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2562 ได้นำผู้ประกอบการไทยไปโร้ดโชว์เจรจาธุรกิจกับคู่ค้าลุยเจาะไมซ์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน 3 วัน พลิกรูปแบบการขายพุ่งเป้าไปยังกลุ่มคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูงระดับซีอีโอกับประธานเครือข่ายธุรกิจขายตรง 22 บริษัท ซึ่งมีพฤติกรรมการเดินทางเข้ามาเมืองไทย 2 แบบ ได้แก่ แบบแรก กลุ่มซีอีโอและประธานบริษัท เดินทางขนาดกลุ่มละ 500 คน แบบที่สอง กลุ่มพนักงานขายตรงที่ได้รับการเดินทางท่องเที่ยว (incentive) เป็นหมู่คณะ ขนาดกลุ่มละตั้งแต่ 2,000-10,000 คน/ครั้งขึ้นไป ผลตอบรับจากโร้ดโชว์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หลังเสร็จสิ้นการเจรจาได้ลูกค้ากลุ่มประชุมสัมมนาและได้รางวัลเดินทางท่องเที่ยวฟรี (Meeting & Incentive : MI) ตัดสินใจซื้อทันทีรวม 30,000-40,000 คน เมื่อประมวลการใช้จ่ายเฉลี่ย 70,000 บาทขึ้นไป/คน/ทริป ส่งผลต่อรายได้เข้าประเทศปี 2563 คุ้มค่าอย่างมากเฉพาะงานนี้งานเดียวจะได้เงินจากไมซ์จีนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท

รวมทั้งยังมีกลุ่มที่สนใจจะเดินทางมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกหลายกลุ่ม เช่น กลุ่ม ไฟฟ์ ฮันเดรด ทำข้อตกลงจะนำอินเซ็นทีฟจีนมาเมืองไทยช่วงสงกรานต์เมษายน 2563 ที่เชียงใหม่ โดยระบุการทำสัญญาจองปิดโรงแรมโอเรียนเต็ล ดาราเทวี เชียงใหม่ ไว้รองรับลูกค้าเข้าพักทั้งหมด

Advertisement

อีกทั้งทีเส็บได้แต่งตั้งตัวแทนการตลาดไมซ์ในมณฑลกวางโจว ตลาดขนาดใหญ่ โดยมีนโยบายให้ลุยเจาะไมซ์จีนกลุ่มพรีเมี่ยมทั่วประเทศจีน นอกจากปัจจุบันจะมีลูกค้าหลัก MI แล้ว ยังต้องขยายฐานคอนเว็นชั่น (C-Convention) ตอนนี้เล็งกลุ่มสมาคมจีนโพ้นทะเลซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลกทั้งในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย สนใจจะเลือกมาจัดประชุมกันในแถบประเทศอาเซียน การประมูลงานสมาคมจีนโพ้นทะเลครั้งนี้ทีเส็บในนามตัวแทนประเทศไทยจะต้องแข่งขันกับทางเวียดนามให้ความสนใจด้วยเช่นกัน

นายจิรุตถ์ยืนยันว่า แนวโน้มปีหน้าตลาดไมซ์จีนยังคงเลือกมาไทยกลุ่มใหญ่สุด คือ อินเซ็นทีฟซึ่งมีความผูกพันเหนียวแน่น ชื่นชอบเสน่ห์ความสวยงามทางวัฒนธรรม อาหารไทย โดยเฉพาะชลบุรีขณะนี้ในสวนนงนุชมีอินเซ็นทีฟเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมากต่อเนื่องทุกฤดู รวมทั้งพัทยาเองก็เดินหน้าลงทุนเปิดโชว์ใหม่ๆ ร่วมกันเป็นแม่เหล็กดึงดูดได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจัยจากจีนโลว์คอสต์เปิดเที่ยวบิน ไป-กลับ เข้าไทยจำนวนมาก ก็ส่งผลต่อการวันพักเฉลี่ยพักในไทยลดลง เพราะจีนมีทางเลือกเที่ยวบินได้มากขึ้น ทีเส็บจึงต้องหากลยุทธ์เพิ่มฐานตลาดพรีเมี่ยมไมซ์จีนเข้ามาเพิ่มรายได้อีกช่องทางแผนงานภาพใหญ่ปีงบประมาณ 2563 ทีเส็บเตรียมทำภารกิจหลักๆ ประกอบด้วย 3 โครงการสำคัญ ได้แก่

Advertisement

เรื่องแรก ด้านการตลาด ประกอบด้วย “ตลาดต่างประเทศ” เน้นการแต่งตั้งตัวแทนการตลาดเพิ่มขึ้นทั้งในสาธารณรัฐประชาชนจีน และกำลังพิจารณาไต้หวันด้วยเพราะตัวเลขไมซ์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะใช้ศักยภาพสำนักงานตั้งใหม่ในประเทศเป็นหัวหอกพัฒนาสินค้าอย่างชัดเจนครบ 4 ภาค ทั้ง ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก จากนี้ไปจะต้องทำการตลาดอย่างเข้มข้น บุกเจาะต่างประเทศยังมุ่งครบทั้ง M-I-C-E โดยเฉพาะเอ็กซิบิชั่นจะเพิ่มรายได้จากการให้งบประมาณสนับสนุนกลุ่มผู้นำไมซ์เป็นหมู่คณะเข้ามาจัดงานในไทยต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“ตลาดในประเทศ” จะทุ่มทำ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่ 1 ขยายฐานไมซ์ชุมชน สานต่อความร่วมมือเดิมกับหน่วยงาน 2 กระทรวง ได้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำไมซ์เพื่อชุมชุม ปีที่ 3 และกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ทำโครงการไมซ์ โอท็อป นวัตวิถี  ปี 2563 จะทำเพิ่มกับกระทรวงสาธารณสุข ทำด้านไมซ์เพื่อสุขภาพ โครงการที่ 2 กระตุ้นการเปิดบริการห้องประชุมท้องถิ่น โดยเชิญชวนองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) คัดเลือกสถานที่ที่มีความพร้อมรองรับการจัดประชุมของทั้ง 2 องค์กร เข้าสู่อุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งทางทีเส็บจะเข้าไปร่วมสร้างมาตรฐานสถานที่ประชุมแต่ละพื้นที่ให้มีศักยภาพและเติบโตได้ตามเป้าหมายของประเทศผนวกใช้สำนักงานใหม่ของทีเส็บทั้ง 4 ภาค พัฒนาสินค้าช่วยยกระดับไมซ์ชุมชนโดดเด่นเป็นรูปธรรม

โครงการที่ 3 ขยายเมืองไมซ์ในประเทศ หรือ MICE CITY ขณะนี้ทีเส็บส่งฝ่ายนวัตกรรมวิจัยและพัฒนาลงพื้นที่อบรมลงพื้นที่ไปถึงอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เรียบร้อยแล้ว พยายามพัฒนาบุคลากรไมซ์ จัดหาสถานที่ใหม่ รวมทั้งยะลาเองก็มีโรงแรมใหม่ๆ เกิดขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมไมซ์สามารถกระจายเม็ดเงินไปยังพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึงขณะเดียวกันก็จะรณรงค์ให้คนไทยเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมไมซ์ทำงานใกล้ชิดกับภาคประชาชน โดยทีมบริหารของทีเส็บจะต้องลงพื้นที่ถี่มากขึ้น เพราะการทำให้ไมซ์เข้าถึงภาคประชาชนถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของทีเส็บ เพื่อการกระจายรายได้สู่ชุมชน จึงต้องทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ อีกจำนวนมากด้วย

การทำตลาดในประเทศ หลังจากทีเส็บตั้งสำนักงานครบ 4 ภาค จึงต้องช่วยกันบุกหนักขึ้นเน้นการทำงานเป็นทีมเวิร์คกับฝ่ายฝึกอบรม นำทีมงานเข้าไปเพิ่มทักษะทางภาษาเพื่อสร้างการสื่อสารช่วยกันทำงานร่วมกับผู้ประกอบการไมซ์คนไทยอย่างมีมาตรฐานที่ดีขึ้นต่อไป

เรื่องที่ 2 ด้านการประชาสัมพันธ์ จะลงลึกเพิ่มภาษาของแต่ละประเทศในเอกสารและออนไลน์ เพื่อการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างสะดวกมากขึ้น แตกต่างจากปัจจุบันใช้เฉพาะภาษาอังกฤษ พร้อมกับสนับสนุนงบประมาณจัดงานโดยมีแพกเกจพิเศษ เช่น กลุ่ม MI เมื่อจัดทำโปรเจ็กต์ไมซ์แล้วใส่กิจกรรมสู่ความยั่งยืน (Sustainable MICE) ทีเส็บจะให้เงินสนับสนุนเพิ่มเข้าไป

เรื่องที่ 3 ด้านการพัฒนาตลาดไมซ์สู่ความยั่งยืน ตอนนี้ทีเส็บทำงานร่วมกับ “กลุ่มผู้บริหารโรงแรม” ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้จัดการทั่วไป (general manager :GM) ของโรงแรมต่างๆ ล่าสุดจัดประชุมกันที่สถานฑูตเนเธอร์แลนด์ นำร่องทำโครงการ Re-Use พลาสติก มีกลุ่มผู้ประกอบการผลิตพลาสติกแผ่นป้อนโรงงานขนาดใหญ่และผู้จัดการโรงแรมในกรุงเทพฯ เข้าร่วม เบื้องต้นตกลงกันว่าจะทดลองนำร่องเริ่มทำในย่านราชประสงค์ ซึ่งมีโรงแรมเชนหลากหลาย สามารถวางแผนบริหารจัดการหารถจัดเก็บขยะพลาสติกนำกลับมาเข้าสู่กระบวนการแปรรูปกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ แล้วจะคอยติดตามประเมินผลทุกระยะ ขณะนี้ทีเส็บเริ่มโปรโมตขอให้โรงแรมจัดประชุมหันมาใช้ขวดแก้วแล้วเลิกใช้ขวดพลาสติก ตามเป้าหมายปี 2563 ตลอดทั้งปีจะต้องลดการใช้ขวดพลาสติกลงให้ได้ 10 ล้านขวด โดยมีบริษัทวิจัยติดตามผลอย่างใกล้ชิด ส่วน Re-Use เป็นอีกโครงการที่ทำร่วมกับผู้บริหารโรงแรมในไทย เพิ่งจะเริ่มต้นต้องติดตามระยะต่อไป เพื่อให้ทีเส็บเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนแต่ละด้านได้อย่างไรบ้าง

นายจิรุตถ์กล่าวว่า การขับเคลื่อนไมซ์สู่ความยั่งยืนด้วยโครงการ Re-Use กำหนดจะเริ่มประชุมพันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์หน้า เพื่อประเมินการใช้งบประมาณและเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งลงรายละเอียด เพื่ออดำเนินการตามแผนได้ทันที เพราะทุกโรงแรมพร้อมร่วมมือเต็มที่โดยภายใต้เป้าหมายเดียวกัน

ลดการใช้พลาสติกและนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทภาพ ทำให้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นพลังสำคัญของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศและโลกนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เรื่องโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน -บล็อกเกอร์ gurutourza www,facebook.com/penroongyaisamsaen

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image