กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๖ (พังงา) นำเรือ ทช. ๓๐๘ ออกคุมเข้มจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ทุ่นจอดเรือบริเวณเกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมแนะนำการใช้ทุ่นจอดเรืออย่างถูกวิธีให้กับผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และในขณะที่ออกปฏิบัติงานได้พบวาฬโอมูระ ว่ายหากินบริเวณระหว่างเกาะเฮและเกาะราชาใหญ่ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว เพราะวาฬชนิดนี้เป็นสัตว์ทะเลที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวภายหลังจากได้รับรายงานว่า วาฬโอมูระ เป็นสัตว์ป่าสงวน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามบัญชีสัตว์ป่าสงวนจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ ๑๒ โดยวาฬชนิดนี้เป็นวาฬสายพันธุ์หายาก ซึ่งปัจจุบันถูกจัดเป็นสัตว์ป่าสงวนบัญชีล่าสุด พบครั้งแรกเมื่อปี 2546 โดยนายฮิเดโอะ โอมูระ นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น จึงมีการตั้งชื่อว่า “วาฬโอ
มูระ” และเป็นวาฬที่มีความใกล้เคียงกับวาฬบรูด้า แต่วาฬโอมูระ นั้นมีขนาดเล็กกว่า ตัวผู้ที่โตเต็มวัยจะมีความยาวเพียง 10 เมตร ส่วนตัวเมียมีความยาวเพียง 11.5 เมตร อีกทั้งมีรอยจีบใต้ลำคอมีจำนวนมากกว่า คือ 80 – 90 รอยจีบ และมีครีบหลังที่สูงกว่าและมีความโค้งน้อยกว่าของวาฬบรูด้า
นายโสภณ อธิบดี ทช. กล่าวอีกว่า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่เราได้มีโอกาสพบเห็นสัตว์ทะเลหายากชนิดนี้บริเวณระหว่างเกาะเฮและเกาะราชาใหญ่ จึงแสดงให้เห็นว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้น มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่วาฬโอมูระจะโผล่ขึ้นมาอวดโฉมให้เราเห็นได้ง่าย เพราะทราบกันอยู่ว่าวาฬชนิดนี้เป็นวาฬที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ถ้าหากเราอยากให้สัตว์ทะเลหายากชนิดนี้อยู่คู่ท้องทะเลไทยและมีปริมาณเพิ่มขึ้น เราควรช่วยกันปกป้องดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้อุดมสมบูรณ์ ปราศจากขยะพลาสติก และไม่ทำประมงที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งช่วยกันเป็นหูเป็นตาเมื่อพบเจอสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นให้รีบแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ ทช. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยลดอัตราการตายได้ทันท่วงที อีกทั้งให้สัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ได้อยู่คู่ท้องทะเลไทยและลูกหลานของเราสืบไป
