คุณอรพิน ศิริจิตเกษม ผู้จัดการทั่วไป สายสื่อสารองค์กร บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) เป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจ เล็งเห็นว่า การดำเนินกิจการขององค์กรธุรกิจส่งผลกระทบต่อสังคม และ สิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ CSR จึงกลายเป็น เรื่องจำเป็นที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร เพื่อหวังผลทางการตลาด หรือเพื่อใช้แก้ไขปัญหาทางธุรกิจให้ได้รับการยอมรับจากสังคม แต่ CSR ในปัจจุบันกำลังทวีความสำคัญ และกลายเป็น แนวคิด และวิธีการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อพัฒนาการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
ที่ผ่านมา โฮมโปรเอง ก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อองค์ประกอบหลัก เพื่อพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนใน 3 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยในปี 2559 มุ่งเน้นด้านสินค้าเป็นเรื่องสำคัญ คัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีการประหยัดพลังงาน สนับสนุนการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดพลังงาน และมีมาตรฐานสากลรับรอง ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดแคมเปญ “HomePro Go Green ผ่าน 6 สัญลักษณ์รักษ์โลก” เชิญชวนให้ลูกค้าเลือกใช้สินค้าที่มีมาตรฐานรับรองว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อมาช้อปที่โฮมโปร ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริม และสนับสนุนการผลิต และบริโภคสินค้า และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น
ประกอบกับการตลาดสินค้า และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีการขยายตัว และได้รับความสนใจจากสังคมมากยิ่งขึ้น โฮมโปรเองได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญจึงเกิด โครงการนี้ขึ้น เพื่อส่งเสริมตลาดสินค้าสีเขียวในประเทศ ที่สำคัญยังเป็นการกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้า และบริการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการประชาสัมพันธ์ด้านสิ่งแวดล้อม โฮมโปรเองถือเป็นผู้ประกอบการที่ขานรับนโยบายของทางภาครัฐบาล กระตุ้นให้สังคมไทยเกิดความตื่นตัว และผู้บริโภคให้หันมาให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยความสมัครใจ โดยได้สื่อสาร 6 สัญลักษณ์รักษ์โลก ติดกับตัวผลิตภัณฑ์ หรือ ชั้นวางผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน หรือลูกค้า ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสภาพแวดล้อม โดย 6 สัญลักษณ์นั้น ได้แก่
1. ประหยัดพลังงาน (Energy Saving) สินค้าประหยัดพลังงานไฟฟ้าหรือใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ สินค้าที่อยู่ในหมวด คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เตารีด แอร์ ไมโครเวฟ และยังรวมถึงหลอดไฟ และแผงโซล่าร์เซลล์






รัฐบาล และเอกชน อาทิ ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดโครงการ “ลดไฟหน้าร้อน เปลี่ยน…เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ห้า” รณรงค์ให้คนไทยเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และ เปลี่ยนหลอดไฟ มาเป็นหลอด LED เบอร์ 5 โครงการนี้ ส่งผลให้ลดพลังงานไฟฟ้าลงได้ 15.7 ล้านหน่วยต่อปี ลดค่าไฟฟ้าลงได้ 62 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 8,000 ตันต่อปี
“โครงการรวมพลังหารสอง เปลี่ยนใหม่ประหยัดชัวร์” โดยโฮมโปร จับมือกับกระทรวงพลังงาน รณรงค์ให้ประชาชนร่วมเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 และ เปลี่ยนหลอดไฟ มาเป็นหลอด LED
“โครงการ No Bag” งดใช้ถุงพลาสติกตลอดเดือนกรกฏาคม เพื่อลดการสร้างขยะ และลดการผลิตถุงพลาสติกที่จะสร้างมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม โดยสมาชิกโฮมการ์ด รับคะแนนสะสม 10 คะแนน ตั้งแต่บาทแรกที่ใช้จ่ายใน “โฮมโปร”
นอกจากโครงการรณรงค์ที่จัดอย่างต่อเนื่องแล้ว “โฮมโปร” ยังใส่ใจถึงสินค้าที่สามารถต่อยอดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และพลังงานในด้านอื่นๆ เช่น Solar Roof ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บนหลังคาที่จอดรถ นำร่องที่โฮมโปร สาขาชัยพฤกษ์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 36,000 กิโลวัตต์ / เดือน ประหยัดค่าไฟได้ 147,000 บาท / เดือน ลดการปล่อยคาร์บอนได้ 240,900 กิโล/ปี เท่ากับการปลูกต้นไม้ 27,689 ต้น / ปี จากโครงการทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น “โฮมโปร” มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ และจริงใจในการส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข และ โฮมโปร ขอยืนหยัดเจตนารมณ์อันดีนี้ เพื่อสร้างสรรค์สังคมให้อยู่ดีมีความสุข และเปี่ยมด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคมอย่างยั่งยืนสืบไป คุณอรพินกล่าวปิดท้าย