กำลังเป็นกระแสฮือฮาอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตอนนี้ ใครๆ ต่างก็พูดถึงเวทีประกวดเฟรชชี่บอยแอนด์เกิร์ล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ สปป.ลาว ที่มีการประกวดในลักษณะนี้ จัดโดย บริษัท ทองศิริ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ “ซีรีโมน่า” (sirimona)
มี ภกญ.ดร.กัญญา เกตุบรรลุ นั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ ล่าสุด เพิ่งได้รับรางวัล “THAILAND PRODUCT AWARDS 2016” หรือ “รางวัลคุณภาพผลิตภัณฑ์ไทยยอดเยี่ยมแห่งปี 2559” ของสภาเครือข่ายสถาบันส่งเสริมพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจแห่งประเทศไทย
ขณะนี้การประกวดเฟรชชี่บอยแอนด์เกิร์ล ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ได้ผ่านมาหลายรอบแล้ว จากการรับสมัครหนุ่มสาวลาวอายุ 18-25 ปี จำนวน 190 คน คัดเลือกคุณสมบัติต่างๆ จนเหลือ 28 คน แบ่งเป็นชาย 14 คน หญิง 14 คน และในวันที่ 31 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะคัดเลือกรอบสุดท้าย ให้เหลือเพียง 7 คน เพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ “ซีรีโมน่า” ในผลิตภัณฑ์ 7 ประเภท หลังจากนั้นจะเดินสายเข้ามาโชว์ตัวในประเทศไทย
ทำไมถึงไปจัดเวทีประกวดที่ลาว แล้วทำไมถึงไปทำตลาดที่นั่น เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ เพราะมองว่าลาวเป็นประเทศเล็กๆ มีประชากรแค่ 6 ล้านกว่าคนเท่านั้น
ก่อนอื่น ภกญ.ดร.กัญญา เกริ่นถึงการเข้ามาทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารว่า หลังจบสาขาเภสัชศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ทำงานอยู่ทั้งโรงพยาบาลและในแวดวงยา มองว่าเรื่องของความสวยและสุขภาพดี ทุกคนสามารถสร้างได้หมด ขอเพียงรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พร้อมออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ และไม่เครียด
จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ “ซีรีโมน่า” ขึ้นมา เพื่อมาเติมเต็มให้ผู้บริโภค ในกรณีที่บางคนไม่มีเวลาใส่ใจตัวเองเท่าที่ควร พักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออาจจะรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ซีรีโมน่าขอเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของสุขภาพและความงาม ตรงนี้เป็นคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่ว่า สวย สุขภาพดี สร้างได้
ภกญ.ดร.กัญญา พูดถึงชื่อแบรนด์ว่า “ซีรีโมน่า” มาจากคำว่า ความเป็น “สิริมงคล” ใช้คำว่า Siri ผสมกับคำว่า Mongkol โดยตัดให้เหลือ Mon และ เติม a เข้าไป ซึ่งผลิตขายในบ้านเรามาเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยวางขายที่ร้านลอว์สัน และ108 ช็อป รวมทั้ง เดอะมอลล์ และ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนี้ ยังวางขายในตลาดออนไลน์ และในรูปแบบตัวแทนจำหน่าย (ติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ (087) 429-1515 หรือดูที่ www.Sirimona.com)
ผลิตภัณฑ์ของซีรีโมน่า มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มความงาม มี 3 ตัว และ กลุ่มสุขภาพ มี 4 ตัว รวมทั้งหมด 7 ตัว ดูแลทุกส่วนของผู้บริโภคตั้งแต่เรื่องความงาม ไปยังสุขภาพดีที่สร้างขึ้นได้ โดยเรื่องสุขภาพ เน้นบำรุง ดูแลสายตา ป้องกันการเสื่อมของเลนส์ตา กระจกตา ความแข็งแรงของเส้นผม
รวมทั้งยังมีสินค้าที่เน้นดูแลหัวใจ ในส่วนของการลดคอเลสเตอรอล ป้องกัน เสริมสร้างหัวใจให้แข็งแรง ส่วนอีกตัวหนึ่ง เน้นเรื่องภูมิต้านทาน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องความงาม เน้นดูแลเรื่องของผิวให้เต่งตึง ขาวใส และกระชับสัดส่วน
กรรมการผู้จัดการบริษัท ทองศิริ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า สินค้าของซีรีโมน่าทั้ง 7 ตัว ใช้สัญลักษณ์แต่ละตัวแทนด้วยสีประจำวัน โดยทุกผลิตภัณฑ์ทำจากสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างเห็ดหลินจือ โสม โกจิเบอร์รี่ ซิตรัส วิตามินซี ฯลฯ ซึ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด
เช่น คอลลาเจน นำเข้ามาจากญี่ปุ่น เพื่อมาเป็นส่วนผสมและผลิตในเมืองไทย และได้เครื่องหมาย อย. ฮาลาล GMP และ HACCP ซึ่งทางบริษัทจ้างโรงงานที่มีมาตรฐานผลิตให้ ในไทยขายขวดละ 45 บาท แต่ในลาวขายขวดละ 58 บาท สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัยเพราะมีรสชาติอร่อย ดื่มง่าย
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขายดีนั้น เป็นตัวเกี่ยวกับความสวยความงาม ผู้บริโภคนิยมผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวขาว มีคอลลาเจนและกลูต้า ส่วนที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติทำให้ผอมเพรียว ทั้งนี้ ช่วง 3 ปีสินค้าของซีรีโมน่าทั้ง 7 ตัว ขายได้เรื่อยๆ ไม่หวือหวา เพราะเน้นวางขายช่องทางโมเดิร์นเทรด ซึ่งก็อยู่ได้แม้ทำโฆษณาในเมืองไทยน้อยมาก
ถามถึงคู่แข่งในท้องตลาด ซึ่งล้วนเป็นเจ้าใหญ่ๆ ทั้งนั้น ภกญ.ดร.กัญญา ระบุว่า ทุกวันนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นชอตดริ๊งก์ (Shot Drink) ในไทยมีแค่ 2-3 รายใหญ่ๆ ส่วนเหตุผลที่ซีรีโมน่าทำชอตดริ๊งก์ เพราะมองว่ารับประทานได้ทันที สะดวกสบาย หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป สารอาหารแทรกซึมในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เพราะดื่มได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา เน้นในเรื่องของการดื่มง่าย อร่อย และดูแลสุขภาพไปพร้อมๆ กัน การทำตลาดจึงยั่งยืน ซึ่งถ้าเป็นผงละลายน้ำจะรับประทานไม่สะดวก ส่วนแคปซูลก็เหมือนยา
“การทำตลาดที่ต้องเข้าไปสู้กับแบรนด์ดังๆ ยากลำบากแน่นอน เพราะแบรนด์ใหญ่ๆ ในบ้านเราก็ใหญ่จริงๆ อย่าง ซีรีโมน่า ถือว่าเป็นรายใหม่ แต่ด้วยความมุ่งมั่น อยากจะขอเป็นส่วนแบ่งตลาดเล็กๆ ที่มีส่วนในการสร้างเสริมสุขภาพและความงาม ด้วยเหตุนี้ จึงต้องไปทำตลาดที่ลาวให้เป็นที่รู้จักก่อน เรามองว่าลาวเป็นอะไรที่คิดว่าทำได้ง่ายกว่า เนื่องจากว่า 1. ประชากรไม่เยอะ ประมาณ 6 ล้านคน และ 2. ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่มีแบรนด์ลอยัลตี้ (Brand Loyalty) ชัดเจน ซึ่งเราสามารถแทรกตลาดตรงนี้ได้ อีกทั้งในลาวมีชาวต่างชาติอยู่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคนจีนและเกาหลี รวมทั้งคนลาวเองก็มีกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อและคนลาวก็ชื่นชอบสินค้าไทยอยู่แล้ว”
กลยุทธ์การตลาดที่สำคัญของแบรนด์คือ การประกวดเพื่อหาพรีเซ็นเตอร์ของซีรีโมน่า ด้วยเป้าหมายให้หนุ่มสาวลาว วัยรุ่นลาวหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเอง เพื่อสร้างกระแส สนับสนุนให้วัยรุ่นลาวใส่ใจสุขภาพและดูแลคนในครอบครัว ซึ่งบริษัทวางแผนจะจัดทุกปี โดยเริ่มปี 2559 เป็นปีแรกที่ใช้การตลาดรูปแบบนี้ในการทำตลาดที่ลาว
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาปรากฏว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี บรรดาสื่อมวลชนในลาวลงข่าวการประกวดนี้กันมาอย่างต่อเนื่อง ยอดขายในลาวดีขึ้น ตอนนี้ตัวแทนจำหน่ายสินค้า 3 รายที่ติดต่อมาว่าจะกระจายสินค้าให้ทั่วประเทศ เพราะตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของซีรีโมน่า วางอยู่ในห้างชั้นนำของลาว แต่ยังไม่ได้กระจายทั่วประเทศ
ภกญ.ดร.กัญญา พูดถึงเวทีประกวดครั้งนี้ว่า เป็นเวทีสวย สุขภาพ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในลาว เนื่องจากซีรีโมน่าต้องการให้คนรุ่นใหม่ไปบอกต่อ เพื่อให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพ เพราะว่า ในค่ายที่ให้ผู้เข้าประกวดทั้ง 28 คน ใช้ชีวิตร่วมกัน 3 วัน 2 คืน บรรยากาศในค่ายทุกอย่างเน้นเรื่องสุขภาพ ตั้งแต่การเต้นแอโรบิกและการออกกำลังกายในน้ำ
ผู้เข้าประกวดมีโอกาสได้ดูแลตนเอง ดูแลสุขภาพ มีการจัดอบรมวิธีการดูแลสุขภาพแนวใหม่ ได้รับความรู้ ทั้งเรื่องของสุขภาพและบุคลิกภาพ รวมทั้งมีการอบรมเรื่องดิจิตอลและงานออนไลน์ทั้งหมด สรุปในค่ายจะเน้นให้ผู้เข้าประกวดใน 4 ด้าน คือ 1. สุขภาพ 2. บุคลิกภาพ 3. ความกล้าแสดงออก และ 4. ในเรื่องงานออนไลน์และเทคโนโลยีสมัยใหม่
“ผู้เข้าประกวดในเวทีของเรา มีทั้งคนจบมัธยมศึกษา นักศึกษามหาวิทยาลัย และคนทำงาน นอกจากนี้ ยังมีดารา นางแบบ และเน็ตไอดอลของลาว เพราะลาวให้ความสำคัญ สนใจเวทีการประกวดแบบนี้มาก เพราะมองว่า เป็นเวทีที่จะทำให้พวกเขาไปต่อได้ในวงการบันเทิง”
จากประสบการณ์ในการรับสมัครและคัดเลือกหนุ่มสาวลาวครั้งนี้ เจ้าของแบรนด์ “ซีรีโมน่า” ถ่ายทอดให้ฟังว่า เด็กลาวสมัยใหม่เป็นคนสุภาพ เรียบร้อย กิริยามารยาทดี มีสัมมาคารวะ และมีความกล้าแสดงออก การประกวดครั้งนี้เป็นการไปดึงจุดเด่นของวัยรุ่นลาวมาใช้ โดยเน้นพัฒนาในเรื่องความกล้าแสดงออกของบุคลิกภาพให้ไปต่อได้อย่างสง่างาม สวยหล่อ และยังมีบุคลิกภาพที่ดี
ขณะเดียวกัน ก็สนใจดูแลสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้าง คือเป็นผู้ให้ ทั้งให้ดูแลตัวเองและให้ดูแลคนอื่น เพราะฉะนั้น ลักษณะการทำประชาสัมพันธ์ของซีรีโมน่า เป็นเรื่องของงานซีเอสอาร์ (CSR) ด้วย ซึ่งตอนนี้ทำร่วมกับหลายที่ เช่น กลุ่มสภากาชาดลาว ในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ยอดขายส่วนหนึ่งของซีรีโมน่า นำไปสมทบสภากาชาดลาว เพื่อส่งเสริมผู้ด้อยโอกาสในลาว นอกจากนี้ ยังร่วมส่งเสริมสนับสนุนให้สภาแม่หญิงลาว ในการดูแลสุขภาพของตนเอง ส่งเสริมแอโรบิกให้กับสตรีลาว
“ถือว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งของซีรีโมน่า เป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่ทำการตลาดรูปแบบนี้ เพราะส่วนใหญ่เหมือนส่งออกสินค้าไปขาย จบแล้วจบเลย ไปได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง แต่ของซีรีโมน่าไม่ได้ขายของ เราสร้างแบรนด์ก่อน ส่วนการขายมาทีหลัง ปัจจุบันเราไปจ่ายเงินอย่างเดียว เอาเงินบาทไปจ่าย ยังไม่ได้เงินกีบ แต่เราเน้นสร้างแบรนด์ก่อน”
หลังจากสร้างแบรนด์ในลาวประสบความสำเร็จแล้ว ภกญ.ดร.กัญญา ยืนยันว่า จะมีการนำโมเดลทางธุรกิจแบบนี้ไปทำต่อในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่าง พม่า กัมพูชา และเวียดนาม โดยจะเน้นไปที่เวียดนามก่อน เพราะมีประชากร 90 ล้านคน จากนั้นจะไปที่จีน เพราะไม่ต้องลงทุนเรื่องการตลาดมากเท่าในไทย
จากนี้คงต้องติดตามกันว่าแบรนด์ไทยอย่าง “ซีรีโมน่า (sirimona)” จะครองใจผู้บริโภคชาวลาวได้มากน้อยแค่ไหน
