กรมควบคุมโรคเดินหน้ามาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง หลังมาตรการผ่อนปรนระยะ2 พร้อมแนะประชาชนใช้วิถีชีวิตปกติแบบใหม่ “New Normal” เลิก 10 พฤติกรรมเสี่ยงที่เคยชิน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้ามาตรการป้องกันโรคโควิด 19 หลังรัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 เน้นย้ำประชาชนและสถานประกอบการใช้มาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง พร้อมแนะประชาชนใช้วิถีชีวิตปกติแบบใหม่ “New Normal” เลิก 10 พฤติกรรมเสี่ยงที่เคยชิน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่าแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19ในประเทศไทยจะมีแนวโน้มผ่อนคลายลง ยอดผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อในแต่ละวันลดลงอย่างต่อเนื่องและไม่พบจำนวนผู้เสียชีวิตมาหลายวันติดต่อกันแล้ว และล่าสุดที่ประชุม ศคบ.มีมติผ่อนปรนระยะที่ 2 อนุญาตให้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ทั่วประเทศ เปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงถึง 2 ทุ่ม ให้ขยับเวลาเคอร์ฟิวไปเป็น 5 ทุ่มถึงตี 4 โดยเริ่มวันที่17 พ.ค.63 เป็นต้นมา
การเปิดสถานประกอบการและกิจการต่างๆเพิ่มเติมตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 นั้นจะทำให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้วิถีชีวิตแบบเดิมและเศรษฐกิจของประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าไปได้ระดับหนึ่ง แต่กรมควบคุมโรคยังคงเดินหน้ามาตรการต่างๆเพื่อป้องกันประชาชนจากความเสี่ยงต่อการกลับมาแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อีกครั้งอย่างต่อเนื่อง หลักๆได้แก่มาตรการทางสาธารณสุขการป้องกันจะต้องมีความเข้มข้นในประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานที่แออัด การค้นหาผู้ป่วยในขณะที่มีจำนวนผู้ป่วยน้อยโดยทำการค้นหา 2 แบบ คือการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกโดยการนำข้อมูลทางระบาดวิทยาที่มีอยู่เดิมมาตรวจดูว่าสถานที่ใดพบผู้ป่วยบ่อยก็จะส่งทีมลงไปสำรวจเพิ่มเติมในสถานที่นั้นๆ และการจัดระบบเฝ้าระวังให้ได้มาตรฐาน ดำเนินการทั้งในประชากรกลุ่มเฉพาะที่ทำมาอยู่แล้ว เช่น ผู้ป่วยปอดอักเสบ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ป่วยโรคหวัดที่เป็นกลุ่มก้อน และให้รายงานเหตุการณ์เพื่อตรวจค้นไวรัสโควิด19และเฝ้าระวังโรคอื่นๆด้วย
นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับสถานประกอบการต่างๆที่เปิดกิจการตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ฟิตเนส คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม เป็นต้น กรมควบคุมโรคขอแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เช่น จัดให้มีการคัดกรองผู้มารับบริการ ทำความสะอาดสถานที่ รวมทั้งพื้นผิวที่สัมผัสบ่อยๆทั้งก่อนและหลังให้บริการ มีการกำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน มีการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการเพื่อไม่ให้แออัดและมีการจัดบัตรคิว รวมถึงจัดจุดบริการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากสถานประกอบการมีการจัดที่นั่งสำหรับรับประทานอาหาร ขอให้เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ ที่นั่งและทางเดินด้วย
ทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญสำหรับประชาชนหลังมาตรการผ่อนปรนระยะที่2 คือการปรับใช้วิถีชีวิตปกติแบบใหม่หรือNew Normal ซึ่งเป็นภาวะปกติแบบใหม่ที่เมื่อก่อนไม่ใช่เรื่องปกติที่ทำกัน แต่พอเกิดเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด19 วิถีชีวิตเหล่านี้ก็กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วโดยปริยาย ประชาชนก็ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การอยู่บ้านหรือทำงานที่บ้านเพื่อลดการติดเชื้อ ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน พกเจลแอลกอฮอล์ไว้ล้างมือตลอดเวลาและล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
“พร้อมทั้งขอแนะนำว่าการใช้วิถีชีวิตปกติแบบใหม่ให้ห่างไกลโรคโควิด19 ประชาชนต้องเลิก 10 พฤติกรรมเสี่ยงที่เคยชินดังต่อไปนี้ 1.ขยี้ตา –แคะจมูก 2.ถึงบ้านแล้วทิ้งตัวลงนอน ไม่อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที 3.หยิบจับสารพัดสิ่งแต่ไม่ล้างมือ 4.ไม่พกหน้ากากอนามัย- ผ้าและเจลล้างมือ 5.อยู่ใกล้กัน ลืมเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร 6.กอด หอมจับมือ สมาชิกในครอบครัว 7. ป่วยแล้วไม่กักตัวเองอยู่กับบ้าน 8.ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น 9.กินอาหารที่ปรุงทิ้งไว้นานแล้ว /หรืออาหารปรุงไม่สุก (ลาบ ยำ พล่า) 10.ปาร์ตี้ สังสรรค์กับเพื่อนฝูง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422”นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวในตอนท้าย
