กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดส่งเสริม SMEs ค้าออนไลน์แบบครบวงจรผ่าน Thaitrade.com Small Order OK (Thaitrade.com SOOK)

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ขานรับนโยบายเร่งผลักดันสร้างความเข้มแข็งให้ SMEs เชื่อมต่อไปตลาดสากล โดยใช้ช่องทางออนไลน์ Thaitrade.com ที่ขยายบริการรองรับการสั่งซื้อสินค้าในปริมาณไม่มาก แบบครบวงจรทั้งการรับชำระเงินออนไลน์และการขนส่งสินค้า พร้อมเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2559 หวังขยายเป้าหมายสมาชิก SMEs ให้ถึง 50,000 ราย สร้างมูลค่าไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี

ตามที่รัฐบาล โดยรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจมอบนโยบายการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย โดยมุ่งเร่งรัดส่งเสริม SMEs ที่เป็นรากฐานสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ให้สามารถสร้างรายได้และบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ ช่วยลดต้นทุน SMEs หลายด้าน อาทิ ด้านการเงิน การลงทุน การสร้างศักยภาพ รวมทั้งการขยายตลาดผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ที่จะสามารถสร้างมูลค่าได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมต่อ SMEs สู่สากลได้ในระยะเวลาอันสั้น กระทรวงพาณิชย์ ได้สร้างช่องทางการค้าออนไลน์เชื่อม SMEs สู่ตลาดโลกมาตั้งแต่ปี 2554 ผ่านเว็บไซต์ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Thaitrade.com  ซึ่งมีผลประกอบการที่ดีมาโดยตลอด แต่ครอบคลุมกลุ่ม SMEs ที่เป็นผู้ส่งออกเดิม จึงได้ดำริขยายบริการรับคำสั่งซื้อในปริมาณไม่มาก (Thaitrade.com Small Order OK) ให้รองรับการเป็น E-Commerce แบบครบวงจร โดยได้พัฒนาต่อยอดระบบ Thaitrade.com ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด มหาชน ให้รองรับระบบการรับชำระเงินออนไลน์ (Small Lot Order with e-Payment) ตามข้อตกลงความร่วมมือที่ลงนามกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558 พร้อมเชื่อมต่อกับระบบของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ SMEs มียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ Thaitrade.com ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทภายใน 1 ปี ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ภายในเดือนสิงหาคม 2559 โดยมีเป้าหมายว่าภายในปี 2561 จะขยายกลุ่ม SMEs ที่เป็นสมาชิกผู้ขายบนเว็บไซต์ Thaitrade.com ให้ถึง 50,000 ราย และมุ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน  Thaitrade.com ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Thailand B2B E-Marketplace อย่างเป็นทางการของประเทศไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการในเดือนกรกฎาคม 2554 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการจากทั่วโลกมาค้นหาสินค้าแล้วกว่า  3.4 ล้านคน มีสมาชิกผู้ขายจำนวน 18,236 ร้านค้า สมาชิกผู้ซื้อจากทั่วโลก 94,547ราย สมาชิกทั้งหมด 112,783 ราย พร้อมนัดหมายการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย 2,299 คู่ ก่อให้เกิดยอดคำสั่งซื้อที่มีหลักฐานกว่า 1,900 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย  สินค้าสุขภาพและความงาม สินค้าเกษตร และสินค้าแฟชั่น (ข้อมูล ณ 1 ม.ค.59)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image