กิจการของเอนี่ไทม์ ฟิตเนส เอเชียถูกเข้าซื้อโดยอินสไปร์ แบรนด์ส เอเชีย ซึ่งเป็นกิจการค้าร่วมที่นำโดยผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์แบบตัวแทนรายย่อยชั้นนำของบริษัท ร่วมกับ เอ็กแซคต้า แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส ซึ่งเป็นผู้ลงทุนชั้นนำ พร้อมด้วย ออร่า กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุน ในการเข้าซื้อกิจการรวมถึงถือเอกสิทธิ์ใบอนุญาตในการเป็นผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์แบบตัวแทนในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย ไต้หวัน เวียดนาม ฮ่องกง และมาเก๊า ซึ่งมีสถานที่ที่คาดว่าจะเปิดบริการอีก 350 แห่งซึ่งปัจจุบันสถานที่บริการออกกำลังกายได้เปิดบริการแล้วมากกว่า 250 สาขา สมาชิกในกิจการค้าร่วมได้ควบรวมธุรกิจด้านการบริหารจัดการของธุรกิจให้อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มกิจการ ซึ่งมีการดำเนินงานไปแล้วมากกว่าร้อยละ 30 ของพื้นที่ครอบคลุมของแบรนด์ทั่วทวีปเอเชีย
ในช่วงระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา อัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยต่อปีของธุรกิจ เอนี่ไทม์ ฟิตเนส เอเชียอยู่ที่ร้อยละ 49 สำหรับการขายแฟรนไชส์ และร้อยละ 55 สำหรับการเปิดสถานบริการออกกำลังกาย ตัวเลขดังกล่าวเกิดขึ้นจากผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์แบบตัวแทนรายย่อยในประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ หลังจากที่ระยะเวลาครึ่งทศวรรษผ่านพ้นไป ในฐานะของผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ชั้นนำและผู้นำในประเทศแล้ว กิจการค้าร่วมจึงได้ซื้อกิจการของเอนี่ไทม์ ฟิตเนส และผนวกรวมเอาผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์แบบตัวแทนรายย่อย ยิมที่ตนเองเป็นเจ้าของ และบริการด้านการบริหารจัดการยิมให้กลายเป็นอินสไปร์ แบรนด์ส เอเชีย
ลุค กวนเหลา ประธานบริหารของอินสไปร์ แบรนด์ส เอเชีย กรุ๊ป และประธานฝ่ายปฏิบัติการของเอนี่ไทม์ ฟิตเนส เอเชีย ได้กล่าวว่า “ผมคลุกคลีกับเอนี่ไทม์ ฟิตเนสมากว่า 10 ปี แล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 นี้จะถือเป็นทศวรรษแรกของการเป็นผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจในฐานะของผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์แบบตัวแทน จากประวัติการทำงานของผมได้แสดงถึงพัฒนาการจากทนายความ สู่การเป็นผู้ประกอบการฟิตเนสในประเทศออสเตรเลียจนกลายเป็นเจ้าของสถานบริการออกกำลังกายหลายต่อหลายแห่งในสามประเทศ จวบจนปัจจุบันในฐานะผู้นำกิจการค้าร่วมในครั้งนี้ ผมรู้สึกตื้นตันและยินดีในการรับตำแหน่งอันทรงคุณค่าเปี่ยมด้วยความหมายนี้ อีกทั้งเรายังพร้อมในการแนะแนวทาง ผู้ฝึกสอน พร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์เพื่อนำความรู้ไปต่อยอดให้เกิดความสำเร็จในแบบของพวกเขา เรามีจุดยืนที่ชัดเจนในการใช้ทุกโอกาสและสถานการณ์และเราขอยืนยันว่าสถานบริการออกกำลังกายของเราจะกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง พร้อมกับการดำเนินกิจการรูปแบบใหม่หลังจากวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งนี้ได้ผ่านพ้นไป”
การขยายกิจการอย่างรวดเร็วจะถือเป็นหน้าที่ของ โจฮันเนส ราดส์มา ประธานฝ่ายความก้าวหน้าของธุรกิจของเอนี่ไทม์ ฟิตเนส เอเชีย เขากล่าวเสริมว่า “การสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้กลายเป็นเรื่องสำคัญรองลงมาจากการเว้นระยะห่างทางสังคมซึ่งกลายเป็นวิถีใหม่ของการใช้ชีวิตในยุคนี้ปัจจุบันผู้คนได้ให้ความสำคัญในการรักษาสุขภาพของตนเองมากขึ้น ซึ่งการกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้งจะดำเนินการในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเป็นที่แรกซึ่งเรายังคงเน้นย้ำในเรื่องของความเข้มข้นอย่างคราบเครื่อง เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบเฉกเช่นช่วงเวลาก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยความเป็นเลิศในเรื่องของการให้บริการและบริหารจัดการสถานบริการออกกำลังกาย เราสามารถให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนในส่วนของธุรกิจซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการทำกำไร หากแต่ยังเป็นการส่งเสริมผู้คนที่ใช้บริการฟิตเนสทุกระดับให้มีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพที่ดีมากกว่าเดิม”
โกตะ อิการาชิ ประธานบริหารของ มิซูโฮ เอเชีย พาร์ทเนอร์ส ที่ปรึกษาด้านการลงทุนของเอ็กแซคต้า แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส กล่าวต่ออีกว่า “เอนี่ไทม์ ฟิตเนส เอเชียได้กำหนดมาตรฐานขึ้นมาใช้ในอุตสาหกรรมฟิตเนส เพื่อเพิ่มมูลค่าพร้อมส่งมอบให้กับผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์และสมาชิกของยิมทั้งหลาย เรายังเชื่ออีกว่าการนำเสนอคุณค่าที่โดดเด่นของแบรนด์และรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เป็นสิ่งที่ทำให้แบรนด์มีจุดยืนมาพร้อมเอกลักษณ์สู่การเป็นที่จดจำพร้อมด้วยความสำเร็จในระดับโลกหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไป ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมีความภูมิใจและยินดีกับคู่ค้าที่มีทีมงานที่ยอดเยี่ยม และได้สร้างผลงานที่สุดยอดให้กับเอนี่ไทม์ ฟิตเนส เอเชียรวมถึงทักษะความรู้ที่เหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ที่ได้รับสิทธิแฟรนไชส์และสมาชิกได้บรรลุเป้าหมายของตนเอง”
อีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ดำเนินการการเจรจาต่อรองทางธุรกิจระหว่างสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ควรกล่าวถึง ก็คือ ชาร์ลส หว่อง กรรมการบริหารของออร่า กรุ๊ป “ไม่เพียงแต่หุ้นนอกตลาดเท่านั้นที่เราควรจะพิจารณาถึง แต่ยังรวมถึงประวัติในการควบรวมและการซื้อกิจการอีกด้วย การเจรจาต่อรองท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายเกินจะคาดคิดนี้จะเสร็จสมบูรณ์ได้ ไม่เพียงแต่ต้องอาศัยการประเมินความแข็งแกร่งของแบรนด์ และความสามารถของแบรนด์ในการทนต่อสภาวะการบังคับให้ปิดกิจการชั่วคราว ทั้งนี้ยังรวมถึงมุมมองในอุตสาหกรรมระยะยาวอีกด้วย เอนี่ไทม์ ฟิตเนสได้รับการพิสูจน์แล้วในทวีปเอเชียว่าสามารถทำรายได้จากพื้นที่การให้บริการที่เล็กกว่าเดิมในสถานที่ในชุมชนที่เข้าใช้บริการได้ ตลอดจนต้นทุนที่ต่ำลงในการเข้าสู่ตลาดและการบำรุงรักษา ซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่านอกจากการเปิดให้บริการใหม่ของยิมที่เปี่ยมไปด้วยความปลอดภัยแล้ว ธุรกิจยังจะเจริญเติบโตได้หลังจากที่สถานการณ์ของโควิด-19 ผ่านพ้นไป แบรนด์ รูปแบบ และประสบการณ์ของคู่ค้าของเราคือเหตุผลที่ว่าเหตุใดออร่าจึงได้รับเอกสิทธิในการเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่โดดเด่นนี้”
ความปรารถนาของแอนเดรีย เบลล์ ก็คือการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ในการที่จะบรรลุเป้าหมายของพวกเขา ประธานฝ่ายสนับสนุนของเอนี่ไทม์ ฟิตเนส เอเชีย ยังกล่าวย้ำอีกว่า “การให้การสนับสนุนถือเป็นเรื่องที่สำคัญทำให้ได้มาซึ่งเครือข่ายของผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ที่มีความผูกพันกับเราอย่างมาก เราได้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างความผูกพันและความสามารถในการทำกำไรของสถานบริการออกกำลังกายแล้ว เรายังได้นำเอาระบบที่แข็งแกร่งมาใช้เพื่อทำให้แน่ใจว่าทุกๆ คน นับตั้งแต่เจ้าของที่ดำเนินงานในยิมของตัวเองไปจนถึงนักลงทุนที่ใช้บริการด้านการบริหารจัดการยิม ได้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับสมาชิก เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ”
เรย์ โบลิวาร์ ยังคงดำรงตำแหน่งประธานบริหารโดยมีหน้าที่ในการเป็นผู้นำของเอนี่ไทม์ ฟิตเนสต่อไป เรย์ โบลิวาร์ ได้กล่าวสรุปเกี่ยวกับธุรกิจไว้ว่า “เวลาที่กำลังจะมาถึงถือเป็นเวลาที่น่าตื่นเต้น ชีวิตประจำวันของเราจะเปลี่ยนไปตลอดกาล และแบรนด์เอนี่ไทม์ ฟิตเนสในทวีปเอเชียพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเพื่อให้การสนับสนุนแก่สมาชิก เจ้าหน้าที่ และผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ของเราให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้และในระยะเวลาต่อจากนั้น เรารอคอยที่จะให้การต้อนรับสมาชิกทั้งหลายให้กลับมาใช้บริการที่สถานบริการออกกำลังกายตอนที่เราเปิดให้บริการใหม่อีกครั้ง พร้อมต้อนรับโอกาสใหม่ๆทั้งหลายที่กำลังจะมาถึง
