เชื่อว่าหลายท่านสงสัย ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ที่ถูกกล่าวขานว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมายได้อย่างไร ใช่เป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับธุรกิจ SMEs หรือไม่?
#5G #bangkokbank #bangkokbanksme #sme
ปี 2563 (2020) ประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่โหมดเทคโนโลยียุคที่ 5 หรือ 5G อย่างสมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับ 20 ประเทศทั่วโลกที่ได้เปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารที่ 4 (4G) สู่ยุคที่ 5 หรือ 5G ที่จัดการเก็บข้อมูลเพิ่มเป็น 100 เท่าของ 4G และเกิดการผิดพลาดของข้อมูลเพียง 1 ในพันล้านเท่านั้น
ดังนั้น 5G ย่อมดีกว่า 4 G ในทุกเรื่อง ที่สำคัญ 5G จะเข้ามาพลิกโฉมโลกครั้งยิ่งใหญ่ในทุกมิติเพราะ 5G เป็นการเชื่อมคนต่อคน (Connect People to People) เชื่อมคนต่อสิ่งของ ( Connect People to Things) และเชื่อมสิ่งของต่อสิ่งของ (Connect Things to Things)
เมื่อประเทศไทยปรับสู่ยุค 5G จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในทุกด้านพร้อมเพรียงกัน (Collective Disruption Technology) ในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ตัวอย่างที่เห็นชัดก่อนหน้านี้ คือนับตั้งแต่ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4 G ปี 2554 หรือ 2010 ภาคอุตสาหกรรมเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมาย ยิ่งในปี 2563 ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 5G เต็มรูปใบจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะมีผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง (Continuous Disruption) จากยุค 4G ไม่เพียงเป็นการเปลี่ยนแปลงทุกด้านอย่างรวดเร็วแล้ว ยังเปลี่ยนแปลงของโครงข่าย (Network) ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) เท่านั้น การก้าวกระโดดขั้นสูงสู่การทำนายอนาคตข้อมูล ที่สามารถบ่งบอก แนะนำให้รู้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างในอนาคต
แค่นั้นยังไม่พอยังมีการนำอุปกรณ์ Augmented Reality Technology( AR) เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจริง และโลกเสมือนที่สร้างขึ้นมาผสานเข้าด้วยกัน ผ่านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ และ Virtual Reality( VR) คือการจำลองสภาพแวดล้อมจริงและสภาพแวดล้อมจากจินตนาการ เข้ามาช่วยเหลือในการทำงานมากขึ้น
โดยทุกสิ่งจะผนึกอยู่บนแพลตฟอร์มของ 5G เชื่อมโยงอย่างต่อเนื่องในโลกใบใหม่ไร้ขีดจำกัด ทำให้ 5 G มีความฉลาดขึ้นกว่าเก่า ซึ่งมาจาก แพล็ตฟอร์ม และคาแพคซิตี ที่มากขึ้น ทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อไปยังการก้าวสู่การเป็นสมาร์ท เวิลด์ และ สมาร์ท เนชั่น ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามเมื่อประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุกองค์กร ผู้ประกอบการ ตลอดจนประชาชนจะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติตัวเองอีกครั้ง โดยโจทย์ใหญ่ที่กำลังท้าทาย คือ จะมีอุตสาหกรรมใหม่ๆ(New Industry) เกิดขึ้นมากมาย มีโมเดลธุรกิจใหม่ ( New Business Model) มีการลงทุนชุดใหม่ ทั้งหมดจะเป็นแบบผสมผสานความร่วมมือ( Collaborative Model) ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจะอยู่แบบเดิมไม่ได้ ต้องปรับเปลี่ยนเตรียมความพร้อมการเข้ามาของ 5 G เพื่อความอยู่รอด
5G อาวุธเด็ดดัน SMEs ก้าวไกลสู่ตลาดโลก
มาถึงคำถามสำคัญ การเข้ามาของ 5G ย่อมส่งผลกระทบก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในทุกภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย เช่นเดียวกับภาค SMEs ย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้น ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจต้องเร่งเตรียมตัวและเปิดใจรับกับเทคโนโลยียุค 5G ที่จะเข้ามามีบทบาท ตลอดทั้งยกระดับธุรกิจ SMEs ไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกอย่างสดใส
ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อมวางแผนดำเนินการให้ครอบคลุมเป้าหมาย โดยเลือกแนะสินค้าไปยังกลุ่มโฟกัส เพราะแม้ว่า 5G จะกลายเป็นอาวุธเด็ดสำคัญที่เป็นแบบเดียวกันหมด การแพ้หรือชนะ นอกจากวัดกันที่ผลิตภัณฑ์สินค้าแล้ว ยังต้องต่อสู้กันที่การเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ถูกจุดถูกกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้ 5G เป็นหัวหอกทำการตลาด
แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจต้องฝ่าฟันอุปสรรคสูงสุด คือ “มายด์ เซ็ท” การเปิดใจรับด้วย ทุกคนกลัวว่ามันจะยาก มันจะแพง เมื่อเทคโนโลยีเข้ามา แต่เมื่อเปิดใจรับกล้าลงทุนย่อมได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า เพราะคีย์เวิร์ดของ 5G คือ ตอบปัญหาใน 3 ด้าน ประกอบด้วย Speed (ความเร็ว) Conection (การเชื่อมต่อ) และ Realtime(ทันทีทันใด)
นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย บอกว่า ปี 2563 เทคโนโลยียุคที่ 5 จะสร้างปรากฎการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างคือ บริบทการใช้ชีวิตของมนุษยชาติจะเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ทั้งวิถีการทำงานเปลี่ยนแปลงไป อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ การเชื่อมต่อกับบุคคลอื่นๆ เชื่อมโยงกันทั้งโลกแค่คลิกที่ปลายนิ้ว ซึ่งการเชื่อมโยงต่างๆ ทำให้เกิดทั้ง “วิกฤตและโอกาส”
“แม้วันนี้ยังไม่มี Business Case ของการนำเทคโนโลยี 5G นำไปใช้อย่างชัดเจน แต่เหตุผลที่บางประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน ประกาศนโยบาย 5G มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะไม่ใช่แค่เป็นเทคโนโลยีผลักดันโลกดิจิทัลเท่านั้น แต่ 5G ยังสามารถสร้างประโยชน์ในเชิงความเร็วสูงมาก และประโยชน์ใหม่ๆ อีกมากมายที่จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์”
สอดคล้องกับความคิดเห็นของ นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ที่ผ่านมาโลกได้วิวัฒนาการของเทคโนโลยีใช้เวลานานกว่า 20 ปี นับตั้งแต่ 2G มาจนถึง 4G แต่การมาถึงของเทคโนโลยีใหม่ๆ ตั้งแต่เทคโนโลยี AI Cloud และ 5G นั้นเกิดขึ้นเร็วกว่านั้นหลายเท่า และจะมีบทบาททั้งด้านการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน การตัดสินใจขององค์กรธุรกิจ ไปจนถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับประเทศ
“เรามองว่าปี 2020 จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมไอซีทีในประเทศไทย เพราะเทคโนโลยี 5G กำลังจะมาและจะมีการใช้งานในเชิงพาณิชย์ในปีหน้า ที่กำลังจะเข้าสู่ยุคที่ทุกสิ่งเชื่อมโยงถึงกัน ทุกอุปกรณ์จะเชื่อมโยงและสื่อสารกันผ่านระบบเซนเซอร์ และทุกสิ่งจะก้าวเข้าสู่ความเป็นอัจฉริยะ”
ภายในปี 2525 สร้างอาชีพใหม่กว่า 20 ล้านอาชีพ
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย คาดการณ์อีกว่า 5G จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับโลกที่มีมูลค่ากว่า 12.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสร้างอาชีพใหม่กว่า 20 ล้านอาชีพภายในปี 2025 โดยปัจจุบันเมืองสำคัญหลายแห่งทั่วโลกได้นำ 5G มาทดลองใช้แล้ว เช่น กรุงลอนดอน อังกฤษ, ซูริค สวิสเซอร์แลนด์, กรุงปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, หางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน, มิลาน อิตาลี, กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี, โดฮา การ์ตา และ บาร์เซโลนา สเปน ซึ่งปัจจุบันมีโอเปอเรเตอร์มากกว่า 60 ราย จากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกที่เปิดตัวการใช้ 5G ในเชิงพาณิชย์
สำหรับปี 2563 อุตสาหกรรมหลักที่เทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทในไทยอย่างแน่นอน คือ การขนส่งเดินทาง ,ภาคการผลิต, อุตสาหกรรมเกม และโลจิสติกส์ ส่วนประเทศเกาหลีใต้ ปีที่ผ่านมามีผู้ใช้งาน 5G เพิ่มมากขึ้นเป็น 3.5 ล้านราย ภายใน 6 เดือน เช่นเดียวประเทศจีน นำเทคโนโลยี 5G เข้ามายกระดับการขนส่งในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบรถบรรทุกไร้คนขับแทนรถบรรทุกทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เร็วยิ่งขึ้น
5G 5 จุดเปลี่ยนท้าทายเศรษฐกิจไทยครั้งใหญ่
เทคโนโลยี 5 G จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรมทุกด้านที่จะสร้างจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย 5 ข้อ ได้แก่
- ภาคการผลิต ซึ่ง 5 จีทำให้เกิดปัญญาประดิษฐ์ หรือAI, หุ่นยนต์ ตลอดจนIoT หรืออินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง ซึ่งจะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ ทำให้คนตกงาน
- เปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทาน ตัดตอนระบบตัวแทนจำหน่ายอย่างยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว โดยผู้ผลิตขายสินค้าตรงให้กับลูกค้า ผ่านแพลตฟอร์มที่คิดค้นขึ้น
- เปลี่ยนแปลงทฤษฎีอุปสงค์ (กำลังการผลิต) และอุปทาน (ความ ต้องการ) ด้วยการใช้บิ๊กดาต้าเข้ามาช่วยคำนวณตัวเลขความต้องการของลูกค้า ซึ่งแม่นยำกว่า
- ธุรกิจตัวกลางจะหายสาบสูญ เช่น ธนาคาร เอเย่นต์ทัวร์
- จะเกิดธุรกิจใหม่ๆ ที่ต่อยอดจาก 5 จี เช่น การแพทย์ระยะไกล (Telemedicine) เป็นต้น
คาดว่าไม่เกินกลางปี 2563 เทคโนโลยียุคที่ 5 หรือ 5G จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างแน่นอน ที่สำคัญ 5G ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีที่พัฒนามาจาก 4G เท่านั้น แต่เป็นเทคโนโลยีที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติอย่างแท้จริง และถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุกคนจะต้องเปลี่ยนวิธีคิด และเปิดใจรับเทคโนโลยี 5G ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่โลกดิจิทัล นำนวัตกรรมด้านดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร ทัดเทียมนานาประเทศ
5G จะพลิกโฉมเศรษฐกิจไทย ปี 2020
4 เทรนด์ธุรกิจที่คุณต้องรู้ในปี 2020
Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333
