คำพูดที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวของ “แม่นิ” หรือ บุญมี สุธิสอน หญิงวัย 62 ปี เป็นคำพูดที่มีทั้งรอยยิ้ม และมีแววตาแห่งความมุ่งมั่น แม้ว่า “แม่นิ” จะมองเห็นได้ชัดเพียงแค่ข้างเดียว ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อน หญิงนักสู้แห่งบ้านน้ำจันทร์ ต.หนองแง้ว อ.วังสะพุง จ.เลย คนนี้ เพิ่งจะผ่านความเป็นความตาย ต้องอยู่โรงพยาบาลนานนับปี และเป็นหนี้เป็นสินจากการรักษาตัวเกือบ 3 แสนบาท
แต่เพราะเป็นคนสู้…ทันทีที่ “โอกาส”เข้ามาหาถึงหมู่บ้านเมื่อ “คุณแอม-มินตรา ม้าทอง” ผู้ที่หลงรักผ้าฝ้ายทอมือ และหลงใหลในผ้าย้อมครามสไตล์ชิโบริ ได้เข้ามาสนับสนุนให้ชาวบ้านที่บ้านน้ำจันทร์ได้กลับมาทอผ้าอีกครั้ง…แม้ร่างกายจะยังไม่ค่อยสมบูรณ์แต่ “แม่นิ”ก็เคยทอแต่ผ้าซิ่นไว้ใส่เองสมัยสาวๆ ตัดสินใจที่จะรื้อฟื้นทักษะการทอผ้าของตัวเองอีกครั้ง แม้จะไม่ค่อยมั่นใจ แต่ “แม่นิ” มองว่านี่คือโอกาสที่จะทำให้ปลดหนี้ปลดสินได้
สำหรับคนที่หยุดทอผ้าไปนาน การกลับมารื้อฟื้นทักษะการทอผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการทอผ้าฝ้ายเข็นมือ ที่เส้นฝ้ายทุกเส้นผ่านกระบวนการทำเส้นด้ายด้วยมือ เป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้ความมานะอดทนสูง อีกทั้งยังต้องเรียนรู้เรื่องการย้อมคราม ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ และไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต แม้สภาพร่างกายที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงนักแต่ “แม่นิ” ไม่เคยมีคำว่า “ท้อ”ตรงกับข้าม กลับมีแต่คำว่า “เพียร-พยายาม” หลายครั้งที่ทำไม่ได้ “แม่นิ” เสียน้ำตา แต่ไม่เคยเสียกำลังใจ สู้จนกระทั่งวันนี้ กลายเป็นช่างทอผ้าฝ้ายย้อมครามมือหนึ่งของร้าน Mantra Crafts ภายในเวลา 3 ปี หญิงนักสู้แห่งบ้านน้ำจันทร์ ที่ทั้งชีวิตไม่รู้จักคำว่า “ท้อ” สามารถปลดหนี้เกือบ 3 แสนบาทได้ด้วย “ความเพียรแห่งการทอผ้าฝ้ายย้อมคราม”
ทุกวันนี้ “แม่นิ” ยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาการทอผ้าฝ้ายลวดลายใหม่ๆ และยังคงทดลองหาเปลือกไม้ใบไม้มาย้อมให้เกิดสีใหม่ๆ เพราะนี่คือ “ความสุข” สุขที่ได้เห็นคนใส่ผ้าทอฝีมือตัวเอง และสุขที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือครอบครัว
“แม่นิ” บุญมี สุธิสอน บอกว่า ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย จะตายโดยไม่สู้ หรือจะสู้จนตาย …แม่เลือกสู้!
