นายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายกรณีทหารอียิปต์และลูกคณะทูตซูดานที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้าประเทศ ว่าในฐานะเป็นคนจังหวัดระยองพบว่าวันนี้ในประเทศไม่มีผู้ติอเชื้อโควิด-19 ร้อยกว่าวันแล้ว นั่นคือความเชื่อมั่น คือความเข้มแข็ง ความอดทน ของพี่น้องจังหวัดระยองที่ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และมาจนถึงวันนี้ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด จากสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีข้อตกลงกันไว้ จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาจนทำให้จังหวัดระยองได้รับผลกระทบอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องความเชื่อมั่น เรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นขอเสนอไปยังรัฐบาลทบทวนมาตรการต่างๆให้เข้มงวดขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับพี่น้องจังหวัดระยองเป็นอย่างยิ่ง
นายสมพงษ์ ระบุว่าที่ผ่านมาคนที่อื่นมาทำปัญหาให้กับคนระยอง จนมีคำพูดหนึ่งที่เขาบอกว่า “คนระยองไม่ใช่คนระยำ แต่คนระยำมาทำที่ระยอง” สิ่งนี้ คือ ความบอบช้ำของคนระยอง พร้อมกันนี้ยังขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้เดินทางไปยังจังหวัดระยอง เพราะการไปครั้งนี้คือไปสร้างความเชื่อมั่นให้กับจังหวัดระยองให้ฟื้นกลับมาโดยเร็ว และนายกรัฐมนตรียังได้รับทราบในข้อบกพร่องและมาตรการที่จะต้องมาแก้ไขในลำดับต่อไป
ดังนั้นจึงขอเสนอไปยังรัฐบาลขอให้ทบทวนในเรื่องของสนธิสัญญาระหว่างประเทศ และหามาตรการที่เข้มข้นกว่านี้เพื่อไม่ให้เกิดกรณีอย่างนี้ขึ้นอีก และในเรื่องของการฟื้นฟูประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่งที่เกิดจากการตื่นตระหนก แต่เชื่อว่าหากมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นคิดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ยังขอให้สมาชิกหยุดเล่นการเมืองก่อน และสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ สิ่งใดที่สร้างสรรค์ สิ่งใดที่ร่วมกันแก้ไขได้ก็ขอให้ช่วยพี่น้องชาวจังหวัดระยอง ขณะที่สื่อต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดียนั้น ในนามของชาวระยอง ขอร้องว่า อย่าทำให้พวกตนบอบช้ำเจ็บช้ำไปกว่านี้เลย และที่มีข่าวว่า มีคนระยองไปร้องเรียนนั้น ก็ไม่ทราบว่า เป็นคนระยองจริงหรือไม่ และรักระยองจริงหรือเปล่า ตนในฐานะคนระยอง อยากขอร้องว่า หยุดสักพักเถอะ ให้พวกตนได้หายใจมีโอกาสฟื้นฟูบ้าง ที่ผ่านมาท่านให้ปิด เราก็ปิด ไม่มีกินเราก็อดทน และไม่ร้องด้วย หวังว่าการเสนอญัตติครั้งนี้จะได้รับข้อเสนอแนะที่ดีจากสภาฯ เพื่อนำไปให้รัฐบาลแก้ไขต่อไป
