“ธนพร” ยื่นสมัคร “เลขาฯ สกสค.” หวังได้โอกาสฟื้นฟูองค์กรฯ ผลักดันนโยบาย “ครูไทยสร้างสรรค์”

“ธนพร” ยื่นสมัคร “เลขาฯ สกสค.” หวังได้โอกาสฟื้นฟูองค์กรฯ ผลักดันนโยบาย “ครูไทยสร้างสรรค์” ส่งเสริมสวัสดิการ-สวัสดิภาพของ “ครู-บุคลากรทางการศึกษา” ลั่นต้องโปร่งใส-มีธรรมาภิบาล พร้อมลุยสางทุจริต

เมื่อเวลา 09.19 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) มีการเปิดรับสมัครผู้เข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. เป็นวันแรก โดย นายธนพร สมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค.ได้เดินทางเข้ายื่นใบสมัครเป็นรายแรก

นายธนพร เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลงสมัครรับการสรรหาเป็นเลขาธิการ สกสค.ว่า ในฐานะที่ได้ร่วมอยู่ที่ สกสค.เห็นทั้งปัญหา และโอกาสขององค์กร ส่วนตัวจึงคาดหวังว่าจะได้รับโอกาสในการเข้ามาขับเคลื่อนภารกิจของ สกสค.ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ พร้อมยืนหยัดเคียงข้าง และทำงานร่วมกับครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะในส่วนของการส่งเสริมสวัสดิการของครู และบุคลากรทางการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้จะเร่งผลักดันนโยบายครูไทยสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์งานเพื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ว่าจะเป็น การสร้างสรรค์โอกาสการศึกษาต่อ,  การออม และทักษะการเงิน, การสร้างอนาคตให้ลูกหลาน, การส่งเสริมสุขภาพถ้วนหน้า และเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้วเราจะสร้างสรรค์ความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นให้มีคุณภาพ ที่สำคัญต้องพัฒนากิจการฌาปนกิจให้ทันสมัยในยุคปัจจุบันเพื่อสวัสดิภาพที่ดีแก่ครู และบุคลาการทางการศึกษา ทั้งนี้การส่งเสริมสวัสดิภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา ภายใต้หลักการว่า หากครูรวมทั้งบุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และที่สุดก็จะเป็นผลดีแก่เด็กและเยาวชนในวันข้างหน้า

Advertisement

นายธนพร กล่าวว่า ในส่วนขององค์การค้าคุรุสภา ตนมีนโยบายสนับสนุนแนวทางฟื้นฟูที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯเสนอที่คณะกรรมการฯ (บอร์ด) โดยจะเปิดรับคนทำงานที่มีคุณภาพ รายได้เหมาะสม มาร่วมคิดร่วมทำงานขับเคลื่อนองค์กรด้วยกัน ล่าสุดตนในฐานะรองเลขาธิการ สกสค. ได้ประสานกับ นายธีรพงษ์ สารแสน รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เกี่ยวการผลิตและจำหน่ายเครื่องแบบ และอุปกรณ์สำหรับลูกเสือทั่วประเทศ จากเดิมที่เคยมอบให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ กลับมาให้องค์การค้าฯเป็นผู้ดำเนินการเอง ส่วนนี้ทำให้มีรายได้ที่แน่นอน และกำไรเพิ่มขึ้นมา ประกอบกับมาตรการลดรายจ่ายองค์กรต่างๆที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าสามารถฟื้นฟู และปลดภาระหนี้สินขององค์การค้าฯกว่า 6,800 ล้าน ได้หมดภายใน 8 ปี

“หากได้รับโอกาส ผมตั้งใจทำให้องค์การค้าฯเป็นองค์กรที่อยู่คู่กับกระทรวงศึกษาธิการ และบุคลากรทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยการทำงานต้องอยู่บนพื้นฐานโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีธรรมมาภิบาล เช่นเดียวกับกรณีทุจริตคอร์รัปชันใน สกสค. และองค์การค้าฯในอดีต ที่ต้องไม่นิ่งนอนใจในการตรวจสอบตามกระบวนการทางกฎหมาย และให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อความสบายใจของสังคม และเป็นลงโทษผู้กระทำผิดให้เป็นตัวอย่าง จะไม่มีใครกล้าทำผิดอีก” นายธนพร ระบุ.

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image